Pages

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สถานการณ์ในอิรัก



ในปี 2002 มีคริสตชนอยู่ในอิรักมากกว่าหนึ่งล้านคน  ปัจจุบันนี้มีเหลืออยู่เพียงประมาณ 300,000 คน  คริสตชน 120,000 คนถูกบังคับให้เลือกว่าจะยอมเปลี่ยนเป็นอิสลามหรือไม่ก็ต้องตาย  ผู้เชี่ยวชาญประมาณว่าอีกห้าปีจะไม่มีคริสตชนเหลืออยู่ในอิรักเลย  นี่เป็นข่าวที่มาจาก Aid to the Church in Need ซึ่งเป็นองค์การกุศลของคาทอลิก
MSGR. GEORGES CASMOUSSA
Auxiliary Patriarch, Syrian-Catholic Church
“ถ้ามีอิสรภาพ  ประชาชนจะกลับมา  แต่หลายคนจะไม่กลับเพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกเป็นครั้งที่สอง , สี่ หรือ สิบ”
CARD. BÉCHARA BOUTROS RAÏ
Maronite Patriarch of Antioch
 “มันทำให้ผมเจ็บปวดมากที่ประชาคมโลกและการเมืองไม่สนใจ...พระสันตปาปาฟรังซิสทรงประณามหลายครั้งแล้ว  สิ่งที่เราต้องทำให้ตะวันออกกลางคือการปฏิรูปทางการเมือง  เราไม่จำเป็นต้องพูดถึงประชาธิปไตย  เราต้องทำให้การค้าอาวุธสงครามยุติลง”
ในรายงานของ "Persecuted and Forgotten” ปี 2013 มีคริสตชนถูกเบียดเบียนใน 10 ประเทศได้แก่  จีน, อิหร่าน, เอริเทีย , ซาอุดิอาราเบีย,ปากีสถาน, และเกาหลีเหนือ  ที่เลวร้ายที่สุดคือที่ อิรัก , ไนจีเรีย,ซูดาน และ ซีเรีย
รายงานบอกว่า กลุ่มอิสลามหัวรุนแรงเป็นสาเหตุหลักของอันตรายของคริสตชนในประเทศเหล่านี้  แต่ก็มีประเทศที่ไม่ใช่อิสลามซึ่งกระทำความรุนแรงต่อสิทธิของคริสตชนด้วย
ในปี 2014 จีนได้จับกุมผู้นำนักบวชมากกว่า 400 คน  ในเกาหลีมีสถานการณ์ที่ร้ายแรงกว่า  เดือนมีนาคม 2014 เผด็จการ คิม จอง อุน สั่งให้ประหารคริสตชน 33 คนด้วยข้อหาทำจารกรรม  รายงานกล่าวว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของคริสตชนทั้งหมด 400,000 คนทำงานในค่ายแรงงาน  เป็นที่ซึ่งพวกเขาถูกทำร้าย ถูกฆ่า  และใช้ในการทดลองทางการแพทย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น