พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

นักบุญคัทรินแห่งเซียนนา5

สาส์นของพระบิดา

น.คัทรินได้รับพระพรพิเศษในการฟังและบันทึกสาส์นจากพระบิดานิรันดร  ในหนังสือของเธอชื่อ “The Dialogue” บรรยายถึงการเปิดเผยของพระบิดาที่ให้ความมั่นใจและท้าทายแก่พวกเรา  พระบิดาทรงเป็นผู้ปกครองและอาจารย์สวรรค์ของพวกเรา  พระองค์ทรงสอนดังนี้
เกี่ยวกับพิจารณาไตร่ตรอง (Discernment)
·       การพิจารณาไตร่ตรอง คือแสงสว่างที่สลายความมืดมิดทั้งปวง กำจัดความโง่เขลา และเพิ่มรสชาติให้กับคุณธรรมและการทำความดีทุกประการ  มันเป็นความฉลาดที่ไม่อาจถูกหลอกลวงได้  เป็นพละกำลังที่ไม่อาจเอาชนะได้  เป็นความถูกต้องอันมั่นคงจนถึงที่สุด  มันเชื่อมโยงโลกขึ้นไปสู่สวรรค์  เชื่อมโยงความรอบรู้ของเราไปสู่ความรอบรู้ของมนุษย์  เชื่อมโยงความรักต่อเราไปสู่ความรักต่อเพื่อนมนุษย์
·       ความถ่อมตนที่แท้จริงและรอบคอบของการพิจารณาไตร่ตรอง ทำลายสิ่งชั่วร้ายและการประจญล่อลวงทุกชนิด  และโดยอาศัยความทุกข์ มันมีชัยชนะต่อผีปีศาจและเนื้อหนังด้วยมือเปล่า  โดยอาศัยแสงสว่างรุ่งโรจน์อันอ่อนโยนนี้  วิญญาณมองเห็นและชิงชังความอ่อนแอของตนเองอย่างชัดเจน ดังนั้นด้วยการดูหมิ่นตนเอง วิญญาณจึงเป็นเจ้านายเหนือโลก  ทำให้มันอยู่ใต้เท้าด้วยความรักของวิญญาณและดูหมิ่นโลกว่าเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น