พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560

ชายที่ช่วยโลกให้รอดจากสงครามนิวเคลียร์

อดีตพันโทแห่งกองทัพโซเวียต ผู้ที่ช่วยไม่ให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และกองทัพแดงในช่วงสงครามเย็น เสียชีวิตแล้วอย่างเงียบๆ ที่บ้านของตัวเองในมอสโก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สตานิสลาฟ เปตรอฟ อดีตพันโทแห่งกองทัพสหภาพโซเวียต ผู้สร้างวีรกรรมที่ชาวโลกส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ ซึ่งช่วยให้โลกไม่ต้องเผชิญสงครามนิวเคลียร์
วีรกรรมของเปตรอฟเกิดขึ้นในวันที่ 26 กันยายน ปี 2526 แต่เรื่องราวได้รับการเปิดเผยออกมาในอีกหลายปีให้หลัง โดยขณะนั้น พันโท เปตรอฟ อายุ 44 ปี ทำงานอยู่ทีศูนย์เตือนภัยนิวเคลียร์ของโซเวียต แต่ในวันเกิดเหตุ เรดาร์ตรวจพบสัญญาณขีปนาวุธจำนวนมากกำลังเดินทางจากสหรัฐฯ มุ่งสู่รัสเซีย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อาจเป็นชนวนให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างมหาอำนาจทั้ง 2 ประเทศขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม นายเปตรอฟเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเองว่า สัญญาณดังกล่าวเป็นการเตือนที่ผิดพลาด และฝ่าฝืนคำสั่งไม่แจ้งเบื้องบนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที ซึ่งในท้ายที่สุดก็เป็นการเตือนที่ผิดพลาดจริง โดยผลการสอบสวนในภายหลังชี้ว่า เป็นความผิดพลาดของดาวเทียมโซเวียต ที่ระบุว่า แสงอาทิตย์ที่สะท้อนกับเมฆเป็นเครื่องยนต์ของขีปนาวุธข้ามทวีป
ผมมีข้อมูลทุกอย่างที่ชี้ว่ามีการโจมตีโดยขีปนาวุธเกิดขึ้น ถ้าผมรายงานไปตามสายบังคับบัญชาของผม คงไม่มีใครพูดโต้แย้งเรื่องนี้แน่ สิ่งที่ผมต้องทำก็คือเอืเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ ต่ดสายตรงถึงผู้บังคับบัญชาของเรา แต่ผมขยับไม่ได้ ผมรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนกระทะร้อนๆนายเปตรอฟให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี ภาษารัสเซีย ในปี 2556 และสุดท้ายเขาก็โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่กองทัพเพื่อแจ้งว่าระบบขัดข้อง
นายเปตรอฟระบุด้วยว่า หากตัวเขาทำผิดไป ระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีต่อมา แต่ทว่า หลังจากผ่านไปแล้ว 23 นาที ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้เขาโล่งใจมาก
ทั้งนี้ นายเปตรอฟเสียชีวิตไปตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม แต่ข่าวการตายของเขาเพิ่งได้รับการเปิดเผยออกมาในเดือนนี้ หลังจาก คาร์ล ชูมัคเกอร์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวเยอรมัน และคนแรกที่เผยแพร่วีรกรรมของนายเปตรอฟให้โลกได้รับรู้โทรศัพท์ไปหานายเปตรอฟเพื่อแสดงความยินดีในวันคล้ายวันเกิดเมื่อ 7 กันยายน แต่ ดีมิทรี ลูกชายของเปตรอฟระบุว่า บิดาของเขาเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นชูมัคเกอร์จึงนำข่าวนี้เผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น