พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

หลักฐานยืนยันเรื่องราวในพระคัมภีร์



นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวันที่ ซึ่งดวงอาทิตย์หยุดนิ่งที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์เรื่องโยชัว
เบาะแสสำคัญที่บ่งชี้ไม่ได้มาจากพระคัมภีร์  แต่มาจากแหล่งข้อมูลของชาวอิยิปต์
ชาวอิยิปต์ได้บันทึกการเกิดสุริยคราสวงแหวนไว้ในศิลาจารึก Merneptah stele ระบุวันที่ 30 ตุลาคม 1207 ก่อนคริสตกาล
พระคัมภีร์โยชัว เขียนไว้ว่า ดวงอาทิตย์หยุดนิ่งและดวงจันทร์ก็หยุดอยู่จนกระทั่งชาวอิสราแอลมีชัยชนะต่อศัตรู “และเขากล่าวต่อหน้าชาวอิสราแอลว่า ดวงอาทิตย์หยุดนิ่งอยู่เหนือกิเบโอน  และดวงจันทร์หยุดอยู่ตรงหุบเขาอัยยาโลน” โยชัว 10
นักวิจัยเรื่องนี้บอกว่า พวกเราเข้าใจความหมายของข้อความผิดไป ทำให้คิดว่าโลกหยุดหมุนรอบตัวเองในวันนั้น
อันที่จริง ในภาษาฮีบรูดั้งเดิมจะแปลความหมายว่า ได้เกิดสุริยคราสขึ้นในวันนั้น
นักวิจัยระบุว่าภาษาฮีบรูมีความคล้ายคลึงกับภาษาบาบิโลเนียน และแปลออกมาได้ว่า “หยุดส่องแสง”
การค้นพบนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุวันของเหตุการณ์ในอิยิปต์ได้แม่นยำขึ้น  และสำหรับพระคัมภีร์ก็เช่นเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น