พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ความหมายของผึ้งและรังผึ้งในศิลปะคริสต์


              จอร์จ เฟอร์กุสัน ผู้เขียนหนังสือ “Signs and Symbols in Christian Art” อธิบายว่า “ผึ้งเป็นสัญญลักษณ์ของ กิจกรรม, การทำงาน, ความขยัน, และความมีระเบียบ” ในตำนานโบราณบอกว่า ผึ้งไม่เคยนอนหลับ และบ่อยครั้งผึ้งถูกใช้เป็นตัวแทนของ “ความระมัดระวังและความกระตือรือร้นของคริสตชนในการแสวงหาคุณธรรม”
               ผึ้งยังถูกใช้ในศิลปะอื่น เช่น พระสันตะปาปาอูร์บันที่ 8 ซึ่งมาจากครอบครัวขุนนางอิตาลี Barberini ในศตวรรษที่ 17 ใช้ตราสัญลักษณ์ของครอบครัวเป็นผึ้งสามตัวอยู่รอบพระมาลาเทียร่า(papal tiara) และมีกุญแจของนักบุญเปโตร อนุสาวรีย์ที่ยิ่งใหญ่บางแห่งในกรุงโรมรวมถึง Baldacchino ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ก็มีแสดงตราสัญลักษณ์นี้แสดงอยู่
                ส่วนรังผึ้งมีความหมายที่แตกต่างออกไป
                นักบุญอัมโบรส
                มีตำนานเล่าว่า เมื่อนักบุญอัมโบรสยังเป็นเพียงเด็กเล็ก ฝูงผึ้งบินอยู่บนใบหน้าของอัมโบรสในขณะที่เขานอนอยู่ในเปล และผึ้งทิ้งน้ำผึ้งไว้หยดหนึ่ง บิดาของอัมโบรสเข้าใจว่านี่เป็นเครื่องหมายว่าในอนาคตอัมโบรสจะมี “วาจาดุจน้ำผึ้ง” และต่อมาอัมโบรสได้กลายเป็นบิชอปและเป็นนักประพันธ์และนักเทศน์ผู้ยิ่งใหญ่
               อัมโบรสเคยเปรียบเทียบพระศาสนจักรว่าเป็นเหมือนรังผึ้ง เพราะรังผึ้งเป็นสัญลักษณ์ของ “ชุมชนคริสตชนที่มีความศรัทธาและเป็นหนึ่งเดียวกัน” และคริสตชนเปรียบเหมือนผึ้งที่ทำงานเพื่อฝูงผึ้งทั้งหมดและอุทิศตนด้วยการงานและชีวิตของพวกเขา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น