พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562

คำแถลงของนายกรัฐมนตรีฮังการี


                 นาย Viktor Orbánนายกรัฐมนตรีฮังการี ได้กล่าวในการประชุมระหว่างประเทศครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2019 เรื่องการเบียดเบียนคริสตชนในกรุงบูดาเปสต์ เขากล่าวว่า “คริสต์ศาสนาในยุโรปกำลังอยู่ในความลำบากครั้งยิ่งใหญ่”
                 เขาเสริมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคริสตชนในตะวันออกกลางนั้น “ใกล้ชิดเรามากกว่าที่ผู้คนคิด”
                 นายวิกเตอร์ชี้ให้เห็นว่าสี่ในห้าคนที่ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความเชื่อของเขาเป็นคริสตชน แต่ยุโรปยังคงนิ่งเฉย
                 เขาเชื่อมั่นว่า “เพื่อช่วยรักษายุโรปไว้ , ผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่เราคือ คนที่เรากำลังช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้[ผู้ลี้ภัยจากการถูกข่มเหง]” เพราะ“เรากำลังหว่านเมล็ดพันธ์, เรากำลังมอบสิ่งที่จำเป็นให้แก่พวกเขา และได้รับตอบแทนจากพวกเขาคือ ความเชื่อของคริสตชน, ความรักและความเพียร”
                และ“ชาวฮังกาเรียนเชื่อว่าค่านิยมของชาวคริสต์จะนำไปสู่สันติภาพและความสุขและนี่คือสาเหตุที่รัฐธรรมนูญของเราระบุว่าการคุ้มครองศาสนาคริสต์เป็นภาระหน้าที่ของรัฐฮังการี จึงกำหนดให้เราปกป้องชุมชนคริสตชนทั่วโลกที่ถูกกดขี่ข่มเหง”
                 พระอัยกา Ignatius Ephrem II แห่ง Syriac Orthodox Church พูดถึง“ ภัยคุกคามที่มีอยู่” แก่ชาวคริสต์ในตะวันออกกลางว่า “90% ของคริสตชนได้ออกจากอิรักไปแล้ว และ50% ได้ออกไปจากซีเรีย”
                 ท่านกล่าวว่า “หลังจากห้าปีของการส่งเสียงร้องของเรา แต่หลายคนก็ยังไม่ได้ยิน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น