พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

แผ่นศีลปรากฏรูปพระเยซูเจ้าในอินเดีย


             วันที่ 10 ม.ค. 2020 โบสถ์คาทอลิกในรัฐเคราลา ของอินเดีย ได้ส่ง “แผ่นศีลมหาสนิท” ที่ปรากฏรูปใบหน้าที่คล้ายพระเยซูไปยังกรุงโรมเพื่อตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ก่อนที่จะประกาศว่าเป็นอัศจรรย์หรือไม่
             ใบหน้าที่คล้ายพระเยซูปรากฏขึ้นในระหว่างการประกอบพิธีมิสซาเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2013 ที่โบสถ์พระคริสตกษัตริย์ ที่ Vilakkannur, Kerala, India โบสถ์นี้ขึ้นอยู่กับสังฆมณฑล Syro-Malabar Archdiocese of Tellicherry. แผ่นศีลถูกส่งไปที่ศูนย์ใหญ่ที่ Kakkanad เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ให้อยู่ในความดูแลของ Apostolic Nuncio Archbishop Giambattista Diquattro
             เหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลาที่พระสงฆ์ Don Thomas Pathickal กำลังประกอบพิธีมิสซาเวลาเช้า 7.00 น ตามปกติ เมื่อถึงตอนที่ชูแผ่นศีลขึ้น พระสงฆ์สังเกตเห็นสีดำจางๆปรากฏขึ้นบนแผ่นศีล สีค่อยขยายใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆแล้วเกิดเป็นรูปใบหน้าของพระเยซู ท่านประหลาดใจมากและตัดสินใจนำแผ่นศีลบรรจุไว้ในรัศมีเพื่อเก็บรักษาไว้
             ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้มาเยี่ยมชมที่โบสถ์เป็นจำนวนมากจากที่ต่างๆ แม้แต่ต่างเมืองออกไป และแน่นอนว่าก่อให้เกิดการจราจรติดขัดจนตำรวจต้องเข้ามาจัดการปัญหา
             หลังจากเวลาผ่านไปนาน 6 ปี พระสังฆราชตัดสินใจที่จะส่งแผ่นศีลไปยังวาติกันเพื่อตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งก่อนที่จะประกาศว่าเป็นอัศจรรย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น