From the Truth Voice: ในบังกลาเทศ Hena Akhter เด็กหญิงอายุ 14 ปี ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้ และตามกฎหมายชาเรียของอิสลาม เธอจะต้องถูกเฆี่ยน 101 ครั้ง เมื่อถูกเฆี่ยนครั้งที่ 70 เฮน่า ก็สลบไป เธอถูกส่งไปที่โรงพยาบาลและได้เสียชีวิตในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในความเป็นจริง เฮน่าถูกข่มขืนโดยลูกพี่ลูกน้องของเธอเองซึ่งมีอายุ 42 ปี ชื่อ Mahbub Khan เขาแต่งงานแล้ว และภรรยาของเขาก็ถูกกล่าวหาว่าคบชู้ด้วย เธอถูกตัดสินให้ถูกเฆี่ยน 101 ครั้ง ซึ่งทำให้เธอเสียชีวิต มีกรณีแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นในบังกลาเทศหลายครั้ง แสดงให้เห็นถึงกฎหมายที่ป่าเถื่อนของอิสลามที่ยังคงมีอยู่ให้เห็นซึ่งกระทำต่อสตรีเพศ คุกคามสิทธิของสตรีดูหมิ่นเหยียดหยามความเป็นสตรี กฎหมายนี้มีใช้ทั่วไปในประเทศทางตะวันออกกลาง, อัฟริกาและเอเชีย (มีใช้ในประเทศทางยุโรปที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามด้วย) เมื่อผู้หญิงถูกข่มขืน ฝ่ายผู้หญิงจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิดและทำให้เกิดความอับอายเป็นอย่างมากต่อคนในครอบครัวของฝ่ายหญิงเอง ภายใต้กฎหมายชาเรียของอิสลาม การถูกข่มขืนหรือพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรง, ผู้กระทำจะมีบาปที่เรียกว่า “zina”และจะถูกลงโทษด้วยการถูกเฆี่ยน 101 ครั้งหลังจากนั้นจะถูกทุ่มด้วยหินจนตาย ในโลกอาหรับ-มุสลิม ผู้หญิ่งที่ถูกข่มขืนจะถูกคนในครอบครัวของเธอเองฆ่าด้วยข้อหาว่าคบชู้ และฆาตกรที่อยู่ในนครอบครัวนั้นกลับถือว่าเป็นผู้กู้ “ศักดิ์ศรี” ของครอบครัว
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด
บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด
บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น