พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 จงรักเพื่อนมนุษย์ รักแม้กระทั่งศัตรู

           “แต่เรากล่าวกับท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย ผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงปล่อยให้เขาเอาเสื้อยาวไปด้วย จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และอย่าทวงของของท่านคืนจากผู้ที่ได้แย่งไป ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด ถ้าท่านรักเฉพาะผู้ที่รักท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาด้วย ถ้าท่านทำดีเฉพาะต่อผู้ที่ทำดีต่อท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังทำเช่นนั้นด้วย ถ้าท่านให้ยืมเงินโดยหวังจะได้คืน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร
           คนบาปก็ให้คนบาปด้วยกันยืมโดยหวังจะได้เงินคืนจำนวนเท่ากัน แต่ท่านจงรักศัตรู จงทำดีต่อเขา จงให้ยืมโดยไม่หวังอะไรกลับคืนแล้วบำเหน็จรางวัลของท่านจะใหญ่ยิ่ง ท่านจะเป็นบุตรของพระผู้สูงสุด เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและต่อคนชั่วร้าย
           จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด อย่าตัดสินเขาแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน อย่ากล่าวโทษเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน จงให้อภัยเขาแล้วพระเจ้าจะทรงให้อภัยท่าน จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดเต็มทะนานอัดแน่นจนล้น เพราะว่าท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าก็จะทรงใช้ทะนานนั้นตวงตอบแทนให้ท่านด้วย”
(ลูกา 6:27-38)








วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ศาสนจักรออร์โธดอกซ์ในบัลกาเรีย

พระสังฆราชนิกายออร์โธดอกซ์นามว่า Neofit,ชาวบัลกาเรีย วัย 75 ปี ท่านเป็นผู้ปกป้องพระศาสนจักรของท่านในระหว่างที่ประเทศถูกปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ เวลานี้ท่านกล่าวว่าความคิดทางด้านเพศไม่ว่าจะเป็นการเบี่ยงเบนทางเพศ,การจัดตั้งกลุ่ม LGBT หรือการเดินขบวนของกลุ่มนี้,เป็น "การโจมตีของปีศาจ" โดยมุ่งเป้าไปที่ "การแยกมนุษย์ออกจากพระเจ้า" นี่คือคำกล่าวตามแถลงการณ์ของที่ประชุมซิน็อต(Holy Synod) ของบัลกาเรีย (OrthoChristian.com, 17 มิถุนายน).
 
แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อคำเชิญของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง "เพศ" ที่รัฐควรจะเข้าใจ การประชุมซิน็อตเน้นย้ำว่าศาลได้มีวินิจฉัยออกมาแล้วว่าการกำหนดเพศนั้นสามารถกระทำได้โดยวิธีทางชีววิทยาเท่านั้น - ซึ่งเป็นความจริงที่แน่นอน
 
การตีความเกี่ยวกับ "เพศ" นั้นไม่เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ("ในรากฐานของมนุษยชาติ") และเน้นย้ำว่าสิ่งนี้ "เป็นความจริงตามพระคัมภีร์ [และสามัญสำนึก] ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง" นั่นคือการที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง และทรงอวยพรให้พวกเขามีจำนวนมากขึ้น
 
เช่นเดียวกับความคิดอื่นๆ ความคิดเกี่ยวกับเพศมีพื้นฐานมาจากความสับสนของจิตใจซึ่งเข้ามาแทนที่ความเป็นจริงด้วยจินตนาการของมนุษย์ที่จิตใจเสื่อมทรามลง
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น