พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ศาสนจักรออร์โธดอกซ์ในบัลกาเรีย

พระสังฆราชนิกายออร์โธดอกซ์นามว่า Neofit,ชาวบัลกาเรีย วัย 75 ปี ท่านเป็นผู้ปกป้องพระศาสนจักรของท่านในระหว่างที่ประเทศถูกปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ เวลานี้ท่านกล่าวว่าความคิดทางด้านเพศไม่ว่าจะเป็นการเบี่ยงเบนทางเพศ,การจัดตั้งกลุ่ม LGBT หรือการเดินขบวนของกลุ่มนี้,เป็น "การโจมตีของปีศาจ" โดยมุ่งเป้าไปที่ "การแยกมนุษย์ออกจากพระเจ้า" นี่คือคำกล่าวตามแถลงการณ์ของที่ประชุมซิน็อต(Holy Synod) ของบัลกาเรีย (OrthoChristian.com, 17 มิถุนายน).
 
แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อคำเชิญของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง "เพศ" ที่รัฐควรจะเข้าใจ การประชุมซิน็อตเน้นย้ำว่าศาลได้มีวินิจฉัยออกมาแล้วว่าการกำหนดเพศนั้นสามารถกระทำได้โดยวิธีทางชีววิทยาเท่านั้น - ซึ่งเป็นความจริงที่แน่นอน
 
การตีความเกี่ยวกับ "เพศ" นั้นไม่เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ("ในรากฐานของมนุษยชาติ") และเน้นย้ำว่าสิ่งนี้ "เป็นความจริงตามพระคัมภีร์ [และสามัญสำนึก] ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง" นั่นคือการที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง และทรงอวยพรให้พวกเขามีจำนวนมากขึ้น
 
เช่นเดียวกับความคิดอื่นๆ ความคิดเกี่ยวกับเพศมีพื้นฐานมาจากความสับสนของจิตใจซึ่งเข้ามาแทนที่ความเป็นจริงด้วยจินตนาการของมนุษย์ที่จิตใจเสื่อมทรามลง
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น