พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ศาสนจักรออร์โธดอกซ์ในบัลกาเรีย

พระสังฆราชนิกายออร์โธดอกซ์นามว่า Neofit,ชาวบัลกาเรีย วัย 75 ปี ท่านเป็นผู้ปกป้องพระศาสนจักรของท่านในระหว่างที่ประเทศถูกปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ เวลานี้ท่านกล่าวว่าความคิดทางด้านเพศไม่ว่าจะเป็นการเบี่ยงเบนทางเพศ,การจัดตั้งกลุ่ม LGBT หรือการเดินขบวนของกลุ่มนี้,เป็น "การโจมตีของปีศาจ" โดยมุ่งเป้าไปที่ "การแยกมนุษย์ออกจากพระเจ้า" นี่คือคำกล่าวตามแถลงการณ์ของที่ประชุมซิน็อต(Holy Synod) ของบัลกาเรีย (OrthoChristian.com, 17 มิถุนายน).
 
แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อคำเชิญของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวคิดเรื่อง "เพศ" ที่รัฐควรจะเข้าใจ การประชุมซิน็อตเน้นย้ำว่าศาลได้มีวินิจฉัยออกมาแล้วว่าการกำหนดเพศนั้นสามารถกระทำได้โดยวิธีทางชีววิทยาเท่านั้น - ซึ่งเป็นความจริงที่แน่นอน
 
การตีความเกี่ยวกับ "เพศ" นั้นไม่เป็นเรื่องของกฎหมาย แต่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ("ในรากฐานของมนุษยชาติ") และเน้นย้ำว่าสิ่งนี้ "เป็นความจริงตามพระคัมภีร์ [และสามัญสำนึก] ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง" นั่นคือการที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง และทรงอวยพรให้พวกเขามีจำนวนมากขึ้น
 
เช่นเดียวกับความคิดอื่นๆ ความคิดเกี่ยวกับเพศมีพื้นฐานมาจากความสับสนของจิตใจซึ่งเข้ามาแทนที่ความเป็นจริงด้วยจินตนาการของมนุษย์ที่จิตใจเสื่อมทรามลง
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น