พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2565

ความจริง 9 ข้อเกี่ยวกับนักบุญลูกา


1. นักบุญลูกาเป็นแพทย์ 
2. นักบุญลูกาไม่เคยพบกับพระเยซูเจ้าเลย 
3. นักบุญลูกาเป็นผู้นิพนธ์พระวรสารเล่มที่สามและหนังสือกิจการอัครสาวก 
4. ท่านเป็นเพื่อนและอยู่กับนักบุญเปาโลบ่อยครั้ง 
5.สัญลักษณ์ของนักบุญลูกาคือรูปวัวซึ่งหมายถึงความแข็งแกร่ง,ความไว้วางใจได้,และการรับใช้มนุษยชาติ 
6.นักบุญลูกาเป็นจิตรกรผู้วาดรูปแม่พระ,พระมารดานิจจานุเคราะห์
7.นักบุญลูกาเป็นผู้นิพนธ์พระวรสารที่ไม่ใช่ชาวยิว,ท่านเป็นชาวกรีก
8. นักบุญลูกาเป็นผู้บันทึกเหตุการณ์ที่ทูตสวรรค์กาเบรียลมาเยี่ยมมารีย์เพื่อประกาศข่าวดี,มารีย์เสด็จเยี่ยมเอลิซาเบธ,การประสูติ,การมาเยี่ยมของคนเลี้ยงแกะ,การตั้งชื่อและเข้าสุหนัตของพระเยซู,การสนทนาของพระเยซูในพระวิหารเมื่ออายุสิบสองปี,และชีวิตครอบครัวของพระองค์กับมารีย์และโยเซฟที่นาซาเร็ธ รายละเอียดมากเช่นนี้จึงทำให้นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าลูกาต้องรู้จักพระแม่มารีย์เป็นการส่วนตัว และได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านี้โดยตรงจากพระนาง
9. นอกจากพระแม่มารีย์แล้ว ลูกายังกล่าวถึงเอลิซาเบธ,แม่ยายของเปโตร,หญิงม่ายที่โศกเศร้า,หญิงที่ทำผิดประเวณี,หญิงชาวกาลิลีที่ติดตามพระเยซู,ธิดาของไยรัส,หญิงที่ตกเลือด,มารธาและมารีย์ ลูกาเน้นย้ำว่าพระวรสารมีขึ้นสำหรับมนุษยชาติทั้งมวล ทั้งชายและหญิง ในขณะที่โลกโบราณส่วนใหญ่ครอบงำโดยผู้ชาย ลูกาจึงถูกเรียกว่า "พระวรสารของมารีย์" และ "พระวรสารของสตรี"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น