พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2565

หลานชายที่หายไป


นางคลีโอนิซ ผู้เป็นลูกสาวฝ่ายวิญญาณของคุณพ่อปิโอเล่าว่า “ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองหลานชายของฉันได้ตกเป็นนักโทษ เราไม่ได้รับข่าวจากเขาเลยเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว และทุกคนเชื่อว่าเขาตายแล้ว พ่อแม่ของเขาเป็นห่วงชีวิตของเขามาก อยู่มาวันหนึ่ง แม่ของเขาไปหาคุณพ่อปีโอและคุกเข่าลงต่อหน้าคุณพ่อที่อยู่ในที่ฟังสารภาพบาป เธอพูดว่า “ได้โปรดบอกลูกด้วยว่าลูกชายของลูกยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ลูกจะไม่ไปไหนถ้าคุณพ่อไม่บอกให้ลูกทราบ!” คุณพ่อปิโอเห็นใจเธอและน้ำตาก็ไหลเมื่อพูดว่า: “ลุกขึ้นและไปอย่างสงบสุขเถิด” หลายวันต่อมา ฉันไม่สามารถแบกรับความเจ็บปวดที่พ่อแม่ของเขาต้องทนได้ ฉันจึงตัดสินใจขออัศจรรย์จากคุณพ่อปิโอ ฉันพูดอย่างจริงใจว่า: “คุณพ่อคะ ลูกจะเขียนจดหมายถึงหลานชายของลูก Giovannino ลูกจะเขียนชื่อของเขาบนซองจดหมายเท่านั้น เพราะเราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน คุณพ่อและอารักขเทวดาจะนำจดหมายไปให้เขาไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน” - คุณพ่อปีโอไม่ตอบ ฉันก็เลยเขียนจดหมายไป ในตอนเย็นฉันวางมันไว้บนโต๊ะข้างเตียงก่อนเข้านอน เช้าวันรุ่งขึ้น ด้วยความประหลาดใจและความกลัว,ฉันพบว่าจดหมายนั้นไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ฉันไปขอบคุณพ่อปีโอและท่านบอกฉันว่า: "ขอบคุณแม่พระเถิด" เกือบสิบห้าวันต่อมาหลานชายของเราได้ส่งจดหมายตอบกลับ ทุกคนในครอบครัวของเรามีความสุขและโล่งใจ และขอบคุณทั้งพระเจ้าและคุณพ่อปิโอ”
- คุณพ่อปีโอช่วยวิงวอนเพื่อเราเทอญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น