พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์

           พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ ผู้ที่เชื่อจะทำอัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปีศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ ๆ ได้ จะจับงูได้ และถ้าดื่มยาพิษก็จะไม่ได้รับอันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย” เมื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นสู่สวรรค์ ให้ประทับ ณ เบื้องขวา บรรดาศิษย์ก็แยกย้ายกันออกไปเทศนาสั่งสอนทั่วทุกแห่งหน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานร่วมกับเขา และทรงรับรองคำสั่งสอนโดยอัศจรรย์ที่ติดตามมา
(มาระโก 16:15-20)








วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565

จงกลับใจเถิด


“จงกลับใจเถิด อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว” (มธ. 3, 2)  

เราจะสูญเสียอะไรไปถ้าไม่กลับใจ 

เราจะสูญเสียประโยชน์มหาศาล, สูญเสียสมบัติอันล้ำค่าไม่มีที่สิ้นสุด กล่าวคือ การได้รับการอภัยบาป,พระหรรษทาน,และบุญกุศล เราสูญเสียการได้รับการอภัยบาป - “พระองค์ไม่ทรงรังเกียจใจที่เป็นทุกข์และถ่อมตน” (สดุดี 51:17) ไม่ว่าความชั่วร้ายของมนุษย์จะยิ่งใหญ่เพียงไร? แม้ว่าเขาจะมีความผิดมากมายเพียงใด? ถ้าเขากลับใจ ถ้าเขาสำนึกผิด, พระเจ้าจะทรงอภัยให้เขาทันที เพราะพระองค์ไม่ทรงประสงค์ความตายของคนบาป แต่ประสงค์ให้เขากลับใจและมีชีวิต ถ้าหากบุคคลใดได้สังหารอัครสาวกสิบสองคน, ถ้าหากเขาทำบาปกับคนทุกประเภท และถึงกับตรึงพระเยซูเจ้าด้วยมือของเขาเอง ถ้าเขาสำนึกผิดอย่างจริงใจและขอการอภัยจากพระเจ้า พระเจ้าจะทรงอภัยให้เขาโดยไม่ชักช้า และนำเขากลับคืนสู่ความโปรดปรานของพระองค์ แต่อนิจจา! หากเราไม่เสียใจกับความชั่วที่ได้ทำไป หากเราไม่ยอมรับด้วยความจริงใจและถ่อมตน หากเราไม่มีความปรารถนาที่จะแก้ไขความผิด หากเราไม่ตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงบาปและน้อมรับการพลีกรรมใช้โทษบาป เราก็ไม่สามารถวางใจได้ว่าจะได้รับการอภัยโทษจากพระเจ้า ได้รับพระคุณการุณย์และพระเมตตาของพระองค์ เราปิดกั้นตัวเราเองจากความดีของพระเจ้า ดูเถิด วิญญาณทั้งหลาย, เจ้าได้รับอันตรายอย่างใหญ่หลวง โดยการปฏิเสธที่จะกลับใจ! 

- นักบุญวินเซนต์ เฟอร์เรอร์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น