พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2567

พระสันตะปาปาเยือนอินโดนีเซีย


 
อินโดนีเซียต้อนรับ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่เสด็จถึงกรุงจาการ์ตาในวันนี้ โดยนี่จะเป็นจุดหมายปลายทางแรกในภารกิจการเยือนแถบเอเชียแปซิฟิก เพื่อส่งเสริมความปรองดองระหว่างศาสนา 
พระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนประเทศอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 3-6 กันยายน 2024 นี้ ศาสนาคริสต์เข้ามาในอินโดนีเซียเป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 7 แล้ว แต่เริ่มแพร่หลายอย่างจริงจังในศตวรรษที่ 16 เมื่อมิชชันนารีคาทอลิกหลายคนที่ร่วมเดินทางมากับชาวโปรตุเกส และได้เริ่มเทศนาในหมู่เกาะดังกล่าว  
พระศาสนโรมันคาทอลิกเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ด้วยความสามารถในการปลูกฝังคุณค่าพระวรสารในสังคมอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีชาวคาทอลิกมากกว่า 3% ของประชากรและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคริสตชนคาทอลิกจะมีจำนวนน้อย แต่พระศาสนจักรก็เป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวา ซึ่งบรรดาคริสตชนฆราวาสมีความกระตือรือร้นในการทำงานด้านศาสนา ตลอดจนมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา พบว่ากระแสเรียกแห่งการเป็นนักบวชและพระสงฆ์ลดน้อยลง เมื่อเทียบกับทศวรรษ 1980 ที่ผ่านมา 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น