พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์

           เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์ขณะที่ยังมืด มารีย์ชาวมักดาลาออกไปที่พระคูหา ก็เห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหาแล้ว นางจึงวิ่งไปหาซีโมนเปโตรกับศิษย์อีกคนหนึ่งที่พระเยซูเจ้าทรงรักบอกว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหาแล้ว พวกเราไม่รู้ว่าเขานำพระองค์ไปไว้ที่ไหน” เปโตรกับศิษย์คนนั้นจึงออกไป มุ่งไปยังพระคูหา ทั้งสองคนวิ่งไปด้วยกัน แต่ศิษย์คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร จึงมาถึงพระคูหาก่อน เขาก้มลงมองเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่บนพื้น แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน ซีโมนเปโตรซึ่งตามไปติด ๆ ก็มาถึง เข้าไปในพระคูหาและเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ที่พื้น รวมทั้งผ้าพันพระเศียรซึ่งไม่ได้วางอยู่กับผ้าพันพระศพ แต่พับแยกวางไว้อีกที่หนึ่ง ศิษย์คนที่มาถึงพระคูหาก่อนก็เข้าไปข้างในด้วย เขาเห็นและมีความเชื่อ เขาทั้งสองคนยังไม่เข้าใจพระคัมภีร์ที่ว่า พระองค์ต้องทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย
(ยอห์น 20:1-9)








วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2568

สวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระทุกวัน


ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อปีเตอร์  เขาออกจากบ้านเกิดของเขาที่โปรตุเกสและกำลังเดินทางไปอินเดีย เรือของเขาถูกพายุพัดกระหน่ำ ปีเตอร์จึงอธิษฐานภาวนาและสัญญากับพระเจ้าว่าหากพระองค์ทรงช่วยเขาจากการจมน้ำ เขาจะรับใช้พระองค์ในฐานะนักบวช ในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองกัว เขาก็ไปพบกับพระสงฆ์คณะเยสุอิตที่นั่น

แต่เขาเกิดในโปรตุเกสในตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียง - ตระกูลมาชาโด - และตระกูลนี้มีชื่อเสียงมากจนเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งอินเดีย เมื่อเขาแนะนำตัวกับพระสงฆ์ซึ่งจะเป็นอธิการของเขาในคณะเยซูอิต เขาไม่ได้บอกชื่อนามสกุลจริงของเขาเพราะกลัวว่าท่านอธิการจะให้สิทธิพิเศษและความสนใจพิเศษแก่เขาเนื่องจากเขามีสายเลือดโดยตรงของตระกูล ปีเตอร์จึงบอกชื่อเมือง - เดอ บาสโต - เมืองที่เขารับศีลล้างบาปแทน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา เขาถูกเรียกว่า "ปีเตอร์ เดอ บาสโต"

ปีเตอร์สวดสายประคำทุกวันเพื่อวิญญาณในไฟชำระ แต่มีอยู่วันหนึ่ง เขาไม่ได้สวดภาวนา เขาละเลยที่จะสวด และคืนนั้นเขารู้สึกว่าไปอยู่ที่ดินแดนแห่งหนึ่ง แต่ทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของเขาปลุกเขาและกล่าวว่า "ลูกเอ๋ย วิญญาณในไฟชำระกำลังรอคอยผลประโยชน์จากการทำทานประจำวันของลูก" ปีเตอร์หยิบสายประคำของเขาขึ้นมาและสวดภาวนาให้ดวงวิญญาณในไฟชำระตามที่ทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของเขาบอกให้เขาสวดภาวนาต่อพระแม่มารีย์

ปีเตอร์สวดสายประคำให้วิญญาณในไฟชำระทุกวัน ไม่ใช่แค่ในเดือนพฤศจิกายนเท่านั้นที่ผู้คนต่างให้ความสนใจในการสวดภาวนาเพื่อผู้ล่วงลับ นี่เป็นบทเรียนสำหรับหลายคนที่ขี้เกียจสวดภาวนา เราสามารถสวดสายประคำเพื่อดวงวิญญาณในไฟชำระได้หลายครั้งในหนึ่งปี บางทีอาจถึงวันละสายก็ได้ และเพื่อเป็นการตอบแทน,เราอาจได้รับความช่วยเหลือจากวิญญาณเหล่านั้น พวกเขาอาจวิงวอนขอแทนเราในบางอย่างที่จำเป็นสำหรับเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น