พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฏาคม 2024 พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาที่เมืองนาซาเร็ธ

           พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นกลับไปยังถิ่นกำเนิดของพระองค์ บรรดาศิษย์ติดตามไปด้วย ครั้นถึงวันสับบาโตพระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนในศาลาธรรม ผู้ฟังมากมายต่างประหลาดใจ และพูดว่า “เขาเอาเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน ปรีชาญาณที่เขาได้รับมานี้คืออะไร อะไรคืออัศจรรย์ที่สำเร็จด้วยมือของเขา คนนี้เป็นช่างไม้ ลูกนางมารีย์ เป็นพี่น้องของยากอบ โยเสท ยูดาและซีโมนไม่ใช่หรือ พี่สาวน้องสาวของเขาก็อยู่ที่นี่กับพวกเรามิใช่หรือ” คนเหล่านั้นรู้สึกสะดุดใจและไม่ยอมรับพระองค์ พระเยซูเจ้าตรัสแก่เขาว่า “ประกาศกย่อมไม่ถูกเหยียดหยามนอกจากในถิ่นกำเนิด ท่ามกลางวงศ์ญาติ และในบ้านของตน” พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ที่นั่นไม่ได้ นอกจากทรงปกพระหัตถ์รักษาผู้เจ็บป่วยบางคนให้หายจากโรคภัย พระองค์ทรงแปลกพระทัยที่เขาเหล่านั้นไม่มีความเชื่อ
(มาระโก 6:1-6)








วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2567

ความฝันของคุณพ่อบอสโก 2


พระเจ้าทรงแสดงให้คุณพ่อเห็นถึงสถานะวิญญาณของบรรดาเยาวชนของท่าน
>>>อ่านต่อ

วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2567

ความถ่อมตนของนักบุญแบร์นาแด็ต


“ดิฉันเป็นเหมือนไม้กวาดที่แม่พระทรงใช้ เมื่อกวาดเสร็จแล้วคุณจะทำอย่างไรกับไม้กวาดล่ะ? ก็นำมันกลับไปวางไว้ที่เดิมของมัน,ที่หลังประตู!” 
- นักบุญแบร์นาแด็ต

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2567

อย่าตัดสินผู้อื่น


หัวใจของท่านเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง 
บางทีลูกอาจจะพูดกับพ่อว่า,ลูกไม่เคยตัดสินใครเลยนอกเหนือจากสิ่งที่เห็นหรือสิ่งที่ลูกได้ยินจริงๆหรือเป็นพยานถึงการกระทำบางอย่าง: “ฉันเห็นเขากระทำสิ่งนี้,ฉันจึงแน่ใจ ฉันได้ยินเขาพูดด้วยหูของฉันเอง ฉันไม่ผิดพลาดแน่ๆ " 
แต่พ่อจะขอตอบ,โดยบอกให้ลูกเริ่มต้นด้วยการเข้าไปในใจของลูกเอง,ซึ่งเป็นแต่เพียงความเย่อหยิ่งที่ซึ่งทุกสิ่งแห้งแล้ง แล้วลูกจะพบว่าตัวลูกเองมีความผิดมากกว่าคนที่ลูกตัดสินเขา,อย่างกล้าหาญ,อย่างไม่สิ้นสุด และลูกจะมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับความกลัว เมื่อวันหนึ่งลูกจะเห็นเขาเข้าสู่สวรรค์,ในขณะที่ลูกกำลังถูกปีศาจลากลงนรก "ความเย่อหยิ่งที่โชคร้ายเอ๋ย" นักบุญออกัสตินกล่าวกับเรา "ท่านกล้าที่จะตัดสินพี่น้องของท่านในความเลวเพียงเล็กน้อย, ท่านรู้ได้อย่างไรเล่าว่าเขาไม่ได้สำนึกผิดกลับใจจากความผิดของเขาแล้ว และเขาไม่ได้อยู่ในหมู่มิตรของพระเจ้า? จงระวังตัวท่านเองดีกว่า,อย่าให้ความเย่อหยิ่งของท่านทำให้ท่านตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่งของการสูญเสียวิญญาณ” 
ใช่แล้ว,ลูกที่รัก,การตัดสินอันหุนหันพลันแล่นและการตีความทั้งหมดนี้ล้วนมาจากบุคคลที่มีความหยิ่งผยอง,ไม่รู้จักตนเอง,และกล้าที่จะสอดรู้สอดเห็นชีวิตภายในของเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงทราบเพียงพระองค์เดียว ลูกที่รักทั้งหลาย,หากเราสามารถกำจัดบาปใหญ่ประการแรกนี้ออกไปจากใจได้ เพื่อนบ้านของเราก็จะไม่มีวันทำผิดตามที่เราพูด เราไม่ควรสร้างความสนุกสนานโดยการตรวจสอบความประพฤติของเขา เราไม่ควรทำอะไร,นอกจากร้องไห้ให้กับบาปของเราเองและทำงานให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อแก้ไข 
ที่มา : บทเทศน์ของเจ้าอาวาสแห่งอารส์

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2567

การาบังดัล เป็นการเรียกร้องให้กลับใจ


ความทุกข์อันใหญ่หลวงของโลกทุกวันนี้คือความทุกข์ที่สืบเนื่องมาจากบาปของมนุษย์ โลกจะต้องทนทุกข์ต่อไปจนกว่ามนุษย์จะหันเหออกจากบาปและกลับมาหาพระเจ้า แน่นอนว่าการกำจัดบาปคือสิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ และการนำมนุษย์ออกจากวิถีทางที่ชั่วร้ายเป็นสาเหตุที่ทำให้พระองค์ส่งคำเตือนบ่อยครั้งถึงการลงทัณฑ์ที่จะเกิดขึ้น 
การาบังดัล เป็นการเรียกร้องให้กลับใจ,จากพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระทัยเมตตาและการให้อภัย การปฏิเสธที่จะฟังคำเตือนและไม่ยอมรับการอภัยโทษจากพระเจ้า,จะเท่ากับบังคับให้พระยุติธรรมของพระเจ้าบังเกิดขึ้น แต่ในการลงทัณฑ์นี้ก็เป็นเช่นเดียวกับการลงทัณฑ์อื่นๆ การลงทัณฑ์จะใช้เฉพาะเมื่อมนุษย์ไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นและความชั่วแพร่กระจายไปทั่วทุกด้าน ถ้าหากในที่สุด,พระเจ้าถูกบังคับให้ส่งการลงทัณฑ์มาสู่โลก, การลงทัณฑ์นั้นก็มาจากความรักและใช้เพื่อการกลับใจของมนุษย์ และตอบสนองต่อการเรียกร้องของพระยุติธรรม 
อย่างไรก็ตาม,คอนชิต้าได้บอกว่า การลงทัณฑ์นั้นสามารถหลีกเลี่ยงได้,ถ้าโลกมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น 
นำมาจาก - “NEEDLES” magazine, Oct. -Dec. 1979, pg. 3-4, By Fr. Joseph Pelletier  

วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2567