พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

มงกุฏหนามของนักบุญคัทรีนแห่งเซียนนา


จิตรกรมักวาดภาพนักบุญคัทรีนแห่งเซียนนามีมงกุฎหนามสวมอยู่ และเรื่องนี้มาจากเรื่องราวที่พระเยซูทรงปรากฏต่อคัทรีนโดยพระองค์ทรงถือมงกุฎสองอัน อันหนึ่งเป็นมงกุฎทองคำและอีกอันหนึ่งเป็นมงกุฎหนาม และพระองค์ถามคัทรีนว่าเธออยากสวมมงกุฏอันไหน? "ลูกต้องการสวมมงกุฏทองคำในโลกนี้หรือไม่? แต่ในโลกหน้าลูกจะห่างไกลจากพระเจ้าและทนทุกข์ทรมานอย่างมาก หรือลูกเลือกสวมมงกุฎหนามในชีวิตนี้และใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเสียสละและความทุกข์ทรมาน แต่ในโลกหน้าลูกจะสวมมงกุฎทองคำอยู่ท่ามกลางพระนางมารีย์, พระคริสต์, และทูตสวรรค์" แน่นอนว่าคัทรีนเลือกมงกุฎหนามซึ่งมาพร้อมกับรอยแผลลึกลับบนศีรษะของเธอด้วย คัทรีนดำเนินชีวิตถวายความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดของเธอเพื่อวิญญาณของผู้อื่น แต่เธอก็จะดูแลคนป่วยและคนจนด้วยเช่นกัน นักบุญคัทรีนเตือนเราว่าเราก็ถูกเรียกให้สวมมงกุฎของพระคริสต์เช่นกัน มงกุฏคือเครื่องหมายของความเป็นกษัตริย์ที่ไม่ได้มาด้วยกำลังอันดุร้ายหรือการพิชิตศัตรู แต่เป็นการเสียสละที่กระทำเพื่อวิญญาณของทุกคน 
นักบุญคัทรีนแห่งเซียนนา,เจ้าสาวลึกลับของพระคริสต์ โปรดภาวนาเพื่อเราด้วยเทอญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น