พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

พระธรรมเก่า พระธรรมใหม่


ในพระธรรมใหม่, ในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย,พระเยซูทรงเสกปังให้เป็นพระกายและเสกเหล้าองุ่นให้เป็นพระโลหิตของพระองค์ 

ในพระธรรมเก่า, โยเซฟถูกขายเป็นทาสในอียิปต์และเขาถูกขังคุก มีผู้ที่ถูกขังพร้อมกับเขาด้วย 2 คนคือ คนรับใช้ที่คอยถวายเหล้าองุ่นให้ฟาโรห์ และคนทำขนมปัง ดังนั้นคนรับใช้คนนั้นจึงมีนัยในพระธรรมใหม่หมายถึงเหล้าองุ่นซึ่งเป็นพระโลหิตของพระเยซูเจ้า และคนทำขนมปังหมายถึงขนมปังซึ่งเป็นพระกายของพระเยซูเจ้า
 
 โยเซฟยังได้ทำนายอนาคตของคนทั้งสองโดยกล่าวกับคนรับใช้ว่าเขาจะได้เป็นอิสระ และเมื่อเป็นอิสระแล้วขออย่าลืมเขา ในพระธรรมใหม่,พระเยซูตรัสในการเลี้ยงอาหารค่ำว่า “จงทำสิ่งนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรา” (อย่าลืมพระองค์) 

 และโยเซฟทำนายถึงคนทำขนมปังว่า เขาจะถูกแขวนคอตาย 

ทำไมในพระธรรมเก่า - คนรับใช้(ซึ่งหมายถึงพระโลหิต) จึงเป็นอิสระ และคนทำขนมปัง(ซึ่งหมายถึงพระกาย)จึงถูกฆ่าตาย ทั้งนี้เพราะในพระธรรมใหม่, พระเยซูทรงทำให้มนุษย์เป็นอิสระโดยอาศัยพระโลหิตของพระองค์ และพระกายของพระองค์ถูกแขวนอยู่บนไม้กางเขนจนสิ้นพระชนม์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น