พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2025 งานแต่งงานที่หมู่บ้านคานา

           สามวันต่อมามีงานสมรสที่หมู่บ้านคานาในแคว้นกาลิลี พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงอยู่ในงานนั้น พระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญพร้อมกับบรรดาศิษย์มาในงานนั้นด้วย เมื่อเหล้าองุ่นหมด พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงมาทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ท่านต้องการสิ่งใด เวลาของเรายังมาไม่ถึง” พระมารดาของพระเยซูเจ้าจึงกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไร ก็จงทำเถิด” ที่นั่นมีโอ่งหินตั้งอยู่หกใบ เพื่อใช้ชำระตามธรรมเนียมของชาวยิว แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณหนึ่งร้อยลิตร พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาคนรับใช้ว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม” เขาก็ตักน้ำใส่จนเต็มถึงขอบ แล้วพระองค์ทรงสั่งเขาอีกว่า “จงตักไปให้ผู้จัดงานเลี้ยงเถิด” เขาก็ตักไปให้ ผู้จัดงานเลี้ยงได้ชิมน้ำที่เปลี่ยนเป็นเหล้าองุ่นแล้ว ไม่รู้ว่าเหล้านี้มาจากไหน แต่คนรับใช้ที่ตักน้ำรู้ดี ผู้จัดงานเลี้ยงจึงเรียกเจ้าบ่าวมา พูดว่า “ใคร ๆ เขานำเหล้าองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน เมื่อบรรดาแขกดื่มมากแล้ว จึงนำเหล้าองุ่นอย่างรองมาให้ แต่ท่านเก็บเหล้าอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้” พระเยซูเจ้าทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ ครั้งแรกนี้ที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ และบรรดาศิษย์เชื่อในพระองค์
(ยอห์น 2:1-11)








วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พระสันตปาปาฟรังซิสและปีศาจ

The Devil and Pope Francis










โปรดช่วยให้เราพ้นจากความชั่วร้าย  Deliver Us From Evil” ภาพยนตร์ที่สร้างจากประสบการณ์ของตำรวจ Ralph Sarchie เมื่อเขาสืบสวนคดึอาชญากรรมสะเทือนขวัญ  นำเขาไปสู่อาณาจักรของผีปีศาจ  จึงต้องพึ่งพระสงฆ์ให้มาช่วยกำจัดปีศาจ
การถูกปีศาจสิงเป็นเรื่องจริง  และมีความจำเป็นต้องมีพระสงฆ์ที่ทำพิธีขับไล่ปีศาจมากขึ้น  สัปดาห์ที่ผ่านมานี้  สมาคมพระสงฆ์ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจที่ก่อตั้งโดย  คุณพ่อ กาเบรียล  เอมอท ได้จัดประชุมใหญ่ที่วาติกัน  สมาคมนี้ได้รับการับรองอย่างเป็นทางการจากทางวาติกัน  ในที่ประชุมมีทั้งนักเทววิทยา  นายแพทย์  นักจิตวิทยา  และพระสงฆ์
พระสันตปาปาฟรังซิส เคยตรัสอย่างเปิดเผยและบ่อยครั้งเกี่ยวกับปีศาจ  มากยิ่งกว่าพระสันตะปาปาองค์ใดนับตั้งแต่พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6  พระองค์เคยวางพระหัตถ์บนศีรษะของชายที่ถูกปีศาจสิงและสวดภาวนา
ในการเทศน์เมื่อเดือนเมษายน 2014  พระสันตปาปาฟรังซิสตรัสว่า “แต่พระสันตบิดร  ทำไมพระองค์ช่างล้าสมัยที่พูดถึงเรื่องปีศาจในศตวรรษที่ 21 นี้”  พระองค์ทรงเตือนประชาชนที่มารับฟังให้ระวังอย่าหลงกลในการโกหกของปีศาจ  พระองค์ทรงเตือนว่า “ระวังให้ดี  เพราะปีศาจมีอยู่ในปัจจุบันนี้”

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดี (ตอนที่ 4)

ที่อารามคณะคอนเซ็ปชั่นนิสต์ ในควิโต  ปัจจุบันคือประเทศเอกวาดอร์  แม่พระทรงประจักษ์แก่ซิสเตอร์มาเรียนา  คุณแม่อธิการของอารามนี้....(อ่านต่อ)

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ไปวัดเป็นประจำทุกอาทิตย์ทำไม?

คริสตชนคนหนึ่งได้เขียนจดหมายไปถึงบรรณาธิการนิตยสารคาทอลิกฉบับหนึ่ง และได้ตีพิมพ์จดหมายฉบับนี้ในคอลัมน์ จดหมายจากผู้อ่านเนื้อความในจดหมายพรรณนาถึงความรู้สึกผิดหวังจากการไปวัดวันอาทิตย์ เขาเขียนว่าผมไปวัดเป็นประจำทุกอาทิตย์เป็นเวลา 30 ปี ตลอดเวลาผมได้ฟังบทเทศน์มากกว่า 3,000 ครั้ง แต่ผมจำไม่ได้สักบทเดียว ดังนั้น ผมคิดว่าผมกำลังเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ และพระสงฆ์กำลังเสียเวลาในการเทศน์สอนเช่นกัน
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา บรรณาธิการได้รับจดหมายจากผู้อ่านอีกฉบับ เขียนว่าผมแต่งงานกับภรรยามาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว ตลอดช่วงเวลาดังกล่าวภรรยาของผมได้ทำอาหารให้ผมรับประทานมากกว่า 32,000 ครั้ง ผมจำเมนูอาหารไม่ได้ซักอย่างเดียว แต่ผมรู้และแน่ใจได้ว่า อาหารเหล่านั้นได้หล่อเลี้ยงชีวิตผมและทำให้ผมมีกำลังแข็งแรงในการทำงาน หากภรรยาไม่ทำอาหารให้ผมเสมอมา ผมคงลำบาก สุขภาพย่ำแย่และตายในที่สุดการมาวัดวันอาทิตย์เป็นเช่นเดียวกัน พระวาจาของพระเจ้าและคำเทศน์สอนที่เราได้ยินได้ฟัง ได้หล่อเลี้ยงชีวิตฝ่ายจิตของเราให้เติบโตและเข้มแข็ง

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พระคาร์ดินัลคุง

by Fr Gerrard Hatton
เมื่อเร็วๆนี้ผมได้พบกับสตรีผู้หนึ่งที่เป็นมิชชันนารีในประเทศจีน  เธอไม่ได้เป็นคาทอลิก  แต่เธอรู้เรื่องดีเกี่ยวกับพระศาสนจักรใต้ดินในจีน  เธอเล่าให้ผมฟังหลายอย่างเกี่ยวกับคริสตจักรของชาวจีนผู้รักชาติ ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลจีน  คริสตจักรนี้ไม่มีพระสันตปาปาไม่เชื่อในการกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้าและไม่เชื่อในพระจิตเจ้า  คริสตจักรนี้มีอำนาจมากแม้แต่รัฐบาลจีนเองก็ควบคุมไม่ได้  และในวันต่อมาผมได้ฟังรายการวิทยุคาทอลิก  ผู้พูดได้พูดถึงพระคาร์ดินัลชาวจีนชื่อ อิกนาตุส  คุง ปิง เม่ย (Ignatius Cardinal Kung Pin-Mei) ท่านถูกพวกคอมมิวนิสต์คุมขังในคุกนานถึง 30 ปี  เพราะท่านไม่ยอมละทิ้งความเชื่อหรือปฏิเสธอำนาจของพระสันตปาปา  ระหว่างที่ถูกคุมขัง ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบพิธีมิสซา  ท่านจึงรับศีลมหาสนิทด้วยความปรารถนาและสวดสายประคำวันละสามสายทุกวัน  ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระคาร์ดินัลอย่างลับๆ  ผู้พูดกล่าวว่า  สีแดงเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นอาภรณ์ของพระคาร์ดินัล  แต่ท่านคุง  ปรารถนาที่จะชโลมสีแดงด้วยโลหิตของท่านเพื่อยืนยันความเชื่อและความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้สืบทอดจากนักบุญเปโตร
ผู้พูดเล่าต่อไปเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาที่เคยร่วมพิธีมิสซากับพระคาร์ดินัลคุงซึ่งเวลานั้นมีอายุ 90 ปี  และท่านถวายมิสซาเป็นภาษาลาติน  ผู้พูดรู้สึกสะดุดใจว่า ในขณะที่สังฆานุกรทำความสะอาดผอบศีลให้แล้ว  พระคาร์ดินัลยังได้ทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง  มิใช่เพราะท่านเป็นคนละเอียดถี่ถ้วน  แต่ท่านทำเพราะความรัก  ตลอดปีนั้นท่านรอคอยที่จะได้ถือพระกายของพระคริสตเจ้าผู้ซึ่งท่านได้ยอมรับทนทุกข์เพื่อพระองค์  ท่านไม่ต้องการให้มีเศษปังหลงเหลืออยู่เลย  พวกเราระมัดระวังเหมือนท่านบ้างหรือเปล่า  เราสนใจบ้างไหม  ลองมองไปที่ชายผู้นี้ซึ่งต้อง รอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้านานถึง 30 ปี ลองถามท่านดูซิว่าเราควรปฏิบัติต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าในศีลมหาสนิทอย่างไร?  เราได้เตรียมตัวอย่างดีหรือไม่ต่อองค์พระมหากษัตริย์แห่งมรณสักขี?

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ไม่สนใจพระคัมภีร์เท่ากับไม่สนใจพระคริสตเจ้า

น.เยโรม มีเทวดาคอยช่วยขณะแปลพระคัมภีร์
         นักบุญเยโรม  เป็นองค์อุปถัมภ์ของการศึกษาพระคัมภีร์  เพราะท่านเป็นผู้รวบรวมหนังสือพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู , กรีก, และลาตินเอาไว้เป็นร้อยๆฉบับ  ท่านแปลคัมภีร์ไบเบิลเป็นภาษาลาติน  และยังได้เขียนความคิดเห็นในบางบทของพระคัมภีร์อีกด้วย  ท่านจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญในพระคัมภีร์อย่างแท้จริง
น.เยโรมยังเป็นที่รู้จักกันดีจากวาทะคำคมของท่านที่ว่า  ไม่สนใจพระคัมภีร์เท่ากับไม่สนใจพระคริสตเจ้า  คำคมนี้บอกเราว่าพระศาสนจักรสนใจศึกษาพระคัมภีร์เป็นเวลาช้านานแล้ว 
ยังมีความคิดเห็นของท่านอันเป็นที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับหนังสืออิสยาห์  น.เยโรมเรียกประกาศกอิสยาห์ว่าเป็นทั้งอัครสาวกและผู้แพร่ธรรม  เพราะอิสยาห์ได้กล่าวถึงพระคริสตเจ้าไว้เป็นจำนวนมาก  ก่อนที่พระองค์จะทรงบังเกิดมา  ท่านเขียนไว้ว่า : 
ข้าพเจ้าแปลพระคัมภีร์ตามที่ควรกระทำ  เพื่อทำตามพระบัญชาของพระคริสตเจ้าที่ว่า “จงค้นหาในพระคัมภีร์ จงแสวงหาแล้วท่านจะพบ  พระคริสตเจ้าไม่ได้ตรัสกับข้าพเจ้าเหมือนดังเช่นที่ตรัสกับชาวยิว” พวกท่านผิดพลาด ที่ไม่รู้จักพระคัมภีร์และไม่รู้จักฤทธิ์อำนาจของพระเป็นเจ้า  ตามที่นักบุญเปาโลกล่าวไว้  พระคริสตเจ้าคือฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าและเป็นพระปรีชาญาณของพระองค์  ดังนั้น  การไม่สนใจพระคัมภีร์ก็เท่ากับไม่สนใจพระคริสตเจ้า
เพราะฉะนั้น  ข้าพเจ้าจะเลียนแบบพ่อบ้านที่ฉลาด  ผู้ที่นำเอาเครื่องใช้ในบ้านทั้งเก่าและใหม่ออกมาใช้  และได้กล่าวกับเจ้าสาวของเขาในบทเพลงซาโลมอนว่า  “ฉันได้เก็บเครื่องใช้ทั้งเก่าและใหม่ไว้ให้แก่เธอ สุดที่รักของฉัน”  ด้วยเหตุนี้โปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าอธิบายถึงอิสยาห์  เพื่อพิสูจน์ว่าท่านไม่ได้เป็นแต่เพียงประกาศกเท่านั้น  แต่เป็นผู้แพร่ธรรมและเป็นอัครสาวกด้วย  เพราะท่านกล่าวถึงตัวท่านเองและกล่าวถึงผู้แพร่ธรรมคนอื่นว่า “เท้าของผู้ประกาศข่าวดีช่างสวยงามยิ่งนัก และเท้าของผู้ประกาศสันติภาพก็สวยงามด้วย  พระเจ้ายังได้ตรัสกับท่านอิสยาห์เหมือนกับว่าท่านเป็นอัครสาวกดังนี้  “เราจะส่งใครไป  ใครจะไปหาประชากรของเรา?”  และท่านตอบพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่  โปรดส่งข้าพเจ้าไปเถิด”
คงไม่มีใครคิดว่า ข้าพเจ้าตั้งใจจะอธิบายทุกตอนของหนังสือพระคัมภีร์อันยิ่งใหญ่นี้ด้วยคำเทศน์เพียงสั้นๆ  เพราะในหนังสือนั้นบรรจุเรื่องราวลึกลับทุกอย่างขององค์พระผู้เป็นเจ้า  ในพระคัมภีร์มีคำทำนายว่า  เอ็มมานูเอลจะบังเกิดจากหญิงพรหมจารีย์และจะทำกิจการอันน่ามหัศจรรย์และเครื่องหมายต่างๆ  ยังทำนายถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์  การถูกฝังและการกลับคืนชีพจากความตายในฐานะพระผู้ไถ่ของมนุษย์ทุกคน  ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ  ตรรกะ หรือจริยศาสตร์  เพราะสิ่งใดที่เหมาะสมคู่ควรต่อพระคัมภีร์  สิ่งใดที่สามารถสื่อในภาษามนุษย์และเป็นที่เข้าใจต่อมนุษย์ได้  สิ่งนั้นได้ถูกบรรจุอยู่ในหนังสืออิสยาห์  สำหรับเรื่องราวลึกลับนี้ท่านผู้เขียนได้เป็นพยานด้วยตัวท่านเองเมื่อท่านเขียนว่า “ ท่านจะได้เห็นนิมิตสิ่งต่างๆทุกเรื่อง  เหมือนอักษรที่จารึกอยู่ในม้วนหนังสือที่ปิดผนึก  เมื่อพวกเขาจะนำหนังสือไปยื่นให้แก่ผู้ปรีชาฉลาด  และกล่าวแก่เขาว่า  จงอ่านหนังสือนี้  และผู้นั้นจะตอบว่า  ข้าพเจ้าอ่านไม่ได้  เพราะหนังสือถูกปิดผนึกไว้  แต่เมื่อม้วนหนังสือถูกนำไปยื่นให้ผู้โง่เขลาและบอกเขาว่า  จงอ่านหนังสือนี้  เขาจะตอบว่า  ฉันอ่านไม่ได้  เพราะฉันอ่านหนังสือไม่ออก”
ข้อความนี้เป็นเหตุให้ผู้ใดอ่อนล้าหรือ  ขอให้เขาฟังสิ่งที่อัครสาวกพูดเถิด : ให้ประกาศกสองหรือสามคนพูด แล้วให้อีกคนหนึ่งแปลความหมาย  แต่ถ้าหากการเผยแสดงนั้นมาถึงผู้ใดที่อยู่ที่นั้น  ก็ให้คนแรกเงียบก่อน  พวกเขาทั้งหมดจะเงียบหรือพูดพร้อมกันได้อย่างไรเล่า?  ถ้าพวกเขาเข้าใจในสิ่งที่กำลังพูด  ทุกสิ่งก็จะเต็มไปด้วยปรีชาญาณและความรอบรู้  แต่หาใช่การสั่นสะเทือนของอากาศจากเสียงของมนุษย์และไปถึงหูของพวกเขาที่ทำให้พวกเขาเข้าใจ  แต่เป็นเพราะพระเป็นเจ้าที่ตรัสในจิตใจของประกาศกต่างหาก  ดังเช่นที่ประกาศกอีกองค์หนึ่งกล่าวไว้  “เป็นทูตสวรรค์ที่พูดภายในตัวข้าพเจ้า  จงร้องในหัวใจของเราว่า  อับบา  พระบิดา  และข้าพเจ้าจะฟังสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสในตัวของข้าพเจ้า”