พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 เตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าสัปดาห์ที่ 4

           หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้นด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”
(ลูกา 1:39-45)








วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

อัศจรรย์ไม้กางเขนที่ประเทศเช็ก

ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง  เกิดอัศจรรย์ไม้กางเขนขึ้นในโบสถ์  และพระสงฆ์เจ้าอาวาสประจำโบสถ์แห่งนี้ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกดดันให้ปฏิเสธความจริงของอัศจรรย์นี้  แต่ท่านไม่ยอม  ทางการจึงทรมานท่านอย่างโหดเหี้ยมจนกระทั่งท่านเสียชีวิต
......อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สาส์นแม่พระ 2-25 ก.พ. 2015

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ก.พ. 2015
ลูกที่รักทั้งหลาย  
  ในเวลาแห่งพระหรรษทานนี้  แม่เรียกลูกทุกคน  จงสวดภาวนาให้มากขึ้นและพูดคุยให้น้อยลง  ในการสวดภาวนา  จงแสวงหาน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าและดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติซึ่งพระเป็นเจ้าทรงเรียกลูก  แม่อยู่กับลูกและสวดภาวนาพร้อมกับลูก
ขอขอบใจลูกที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่

สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 ก.พ. 2015
ลูกที่รักทั้งหลาย 
แม่อยู่ที่นี่แล้ว อยู่ท่ามกลางพวกลูก แม่กำลังมองดูลูกและยิ้มให้พวกลูก แม่รักลูกด้วยวิธีที่มีแต่ผู้ที่เป็นแม่เท่านั้นจึงจะทำได้ โดยอาศัยองค์พระจิตเจ้าผู้ทรงเสด็จมาผ่านทางความบริสุทธิ์ของแม่ แม่จึงมองเห็นหัวใจของพวกลูกและได้นำไปถวายแด่องค์พระบุตรของแม่ แม่ได้ขอร้องพวกลูกเป็นเวลานานแล้วให้พวกลูกเป็นอัครสาวกของแม่ ให้พวกลูกสวดภาวนาเพื่อผู้ที่ยังไม่มารู้จักความรักของพระเป็นเจ้า แม่ขอร้องพวกลูกให้สวดภาวนาโดยออกมาจากความรัก สวดภาวนาพร้อมด้วยการงานและความเสียสละ อย่าไปเสียเวลาคิดว่าลูกเหมาะสมหรือไม่ที่จะเป็นอัครสาวกของแม่ พระบิดาเจ้าสวรรค์จะทรงพิพากษาทุกๆคน และลูกผู้ซี่งรักพระองค์และสดับฟังพระองค์ แม่ทราบว่าสิ่งเหล่านี้อาจทำให้ลูกสับสน ถึงแม้แม่จะมาอยู่ท่ามกลางพวกลูกก็ตาม แต่ขอให้ลูกยอมรับด้วยความยินดีเถิด และสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะได้เข้าใจว่า ลูกนั้นเหมาะสมที่จะทำงานเพื่อสวรรค์ ความรักของแม่อยู่เหนือพวกลูก จงสวดภาวนาเพื่อที่ความรักขงแม่จะชนะหัวใจทุกดวง เพราะความรักนั้นให้อภัยเสมอและไม่เคยหยุดที่จะให้
ขอขอบใจลูก

จงสรรเสริญพระเป็นเจ้า


“ให้เราสรรเสริญพระเป็นเจ้าตลอดเวลาเถิด”(ฮบ. 13:15)
วันที่ 28 ก.พ. 1944 หญิงสาวชาวดัทช์ชื่อ คอร์รี เทนบูมและคนในครอบครัวของเธอถูกจับและส่งตัวไปค่ายกักกันชาวยิว  ช่วงเวลานั้นนาซีกำลังยึดครองฮอล์แลนด์อยู่  ในท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากอย่างยิ่งนี้  เบทซี่ พี่สาวของคอร์รี ได้พูดเตือนคนในครอบครัวว่า  พระคัมภีร์กล่าวว่าให้เราขอบพระคุณพระเป็นเจ้าในทุกสิ่ง  ทุกคนในครอบครัวจึงทำตามคำพูดของเธอ  พวกเขาขอบพระคุณพระเป็นเจ้า แม้แต่ในเรื่องที่ถูกรบกวนจากเห็บหมัดในที่พักของค่ายกักกันนี้  พวกเขาขอบพระคุณพระเป็นเจ้าเสมอ  และสังเกตเห็นว่ายามจะปล่อยพวกเขาให้อยู่ตามลำพังโดยไม่มาคอยควบคุม  ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ได้และยังช่วยให้คนอื่นที่ถูกจับกุมมาพร้อมกันให้รู้จักและเชื่อในพระเยซูเจ้าอีกด้วย  พวกเขามารู้ภายหลังว่าที่ยามอยู่ห่างจากพวกเขาก็เป็นเพราะเห็บหมัดนี่เอง  มองอีกด้านหนึ่ง  พระเป็นเจ้าทรงทำงานของพระองค์ในทุกสิ่งและพระองค์ทรงช่วยเหลือพวกเราด้วยวิธีการพิเศษ  ขณะที่คอร์รีและเบทซี่สรรเสริญพระเป็นเจ้า  พวกเธอก็สนใจในความยากลำบากของตัวเองน้อยลง  แต่สนใจในผู้อื่นที่ได้รับความยากลำบากเช่นเดียวกับเธอและได้แนะนำพวกเขาให้มารู้จักพระเยซูเจ้า
ในพระวรสารกล่าวว่า พระเยซูเจ้าตรัสกับศิษย์ของพระองค์ว่า “ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด” (มก. 6: 31) การสรรเสริญและขอบพระคุณพระเป็นเจ้าเป็นสิ่งที่เราสามารถทำ ณ.ที่ใดก็ได้ ในถนน ในรถยนต์ ในห้องอาหาร ฯลฯ  เราเพียงแต่ยกจิตใจขึ้นหาพระเยซูเจ้าและขอบพระคุณพระองค์ในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อเรา  และเช่นเดียวกับที่คอร์รีและเบทซี่ได้ค้นพบ  ยิ่งเราสรรเสริญพระเป็นเจ้ามากเท่าไร พระองค์ยิ่งทรงช่วยเหลือเรามากเพียงนั้น
“พระบิดา  พระองค์ทรงพระทัยดีและทรงฤทธานุภาพ  ลูกขอบพระคุณพระองค์สำหรับความรักและพระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อลูก  ลูกขอสรรเสริญพระองค์ที่ทรงโอบอุ้มค้ำชูลูกไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์”

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

นักปราชญ์ของพระศาสนจักรคนใหม่


2015-02-23 Vatican Radio
พระสันตะปาปาทรงประกาศให้ นักบุญ เกรกอรี่ แห่ง นาเรค Saint Gregory of Narek นักพรตและนักกวีชาวอาร์มาเนียเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักรPrint
            น. เกรกอรี่ เกิดที่เมือง นาเรค ในอาร์มาเนีย ประมาณปีค.ศ. 950 ท่านมาจากตระกูลขุนนางและนักบวช ท่านได้รับการศึกษาภายใต้การดูแลของบิดาของท่านซึ่งเป็นสังฆราช คือ Bishop Khosrov  น.เกรกอรี่และพี่น้องของท่านสองคนได้เข้าสู่อารามเป็นนักพรตตั้งแต่ในวัยหนุ่ม  ไม่นาน น.เกรกอรี่ก็เชี่ยวชาญในด้านดนตรี  ดาราศาสตร์  เรขาคณิต  คณิตศาสตร์  การประพันธ์และเทววิทยา  ท่านบวชเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุ 25 ปี ท่านอุทิศชีวิตให้แก่พระเจ้า  ท่านอยู่ในอารามที่นาเรคเป็นส่วนใหญ่  โดยเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียน  ท่านเริ่มเขียนหนังสือเล่มแรก เป็นคำอธิบายเกี่ยวกับพระคัมภีร์บท “Song of Songs,”  ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของเจ้าชายแห่งอาร์มาเนีย  ทั้งๆที่มีผู้ทักท้วงว่าท่านยังอ่อนเยาว์เกินไปสำหรับงานนี้  แต่หนังสือคำอธิบายกลายเป็นหนังสือที่มีชื่อเสียงด้วยคำอธิบายที่ชัดเจนทางความคิด , ภาษาและความรอบรู้ทางเทววิทยา
ท่านยังได้ประพันธ์หนังสือและจดหมายอีกมากมาย  บทภาวนาหลายบทที่ท่านแต่งได้กลายมาเป็นบทภาวนาในพิธีกรรมวันอาทิตย์ในโบสถ์ของอาร์มาเนียทั่วโลก
บทประพันธ์ชิ้นเยี่ยมที่สุดของท่านคือ Book of Lamentations เป็นบทภาวนา 95 บท แต่ละบทจะมี “การสนทนากับพระเจ้าจากส่วนลึกของหัวใจ” หัวข้อหลักคือการที่มนุษย์แยกตัวออกจากพระเจ้า  และพระเจ้าทรงเรียกร้องให้มนุษย์กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์  น.เกรกอรี่อธิบายงานของท่านไว้ดังนี้ “ตัวหนังสือนั้นก็เหมือนกับร่างกายของข้าพเจ้า  เนื้อหาของมันก็เหมือนกับวิญญาณของข้าพเจ้า”  ท่านเรียกหนังสือของท่านว่า “สารานุกรมบทภาวนาสำหรับมวลมนุษยชาติ” encyclopedia of prayer for all nations  ท่านหวังจะให้หนังสือเป็นแนวทางการสวดภาวนาสำหรับทุกคนในโลก  หนังสือถูกตีพิมพ์ที่มาร์ซายในฝรั่งเศส เมื่อปี 1673  และถูกแปลเป็นภาษาต่างๆอย่างน้อย 30 ภาษา
วันฉลองของท่านในอาร์มาเนียตรงกับเดือนตุลาคม