พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์

           พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ ผู้ที่เชื่อจะทำอัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปีศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ ๆ ได้ จะจับงูได้ และถ้าดื่มยาพิษก็จะไม่ได้รับอันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย” เมื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้แล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นสู่สวรรค์ ให้ประทับ ณ เบื้องขวา บรรดาศิษย์ก็แยกย้ายกันออกไปเทศนาสั่งสอนทั่วทุกแห่งหน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานร่วมกับเขา และทรงรับรองคำสั่งสอนโดยอัศจรรย์ที่ติดตามมา
(มาระโก 16:15-20)








วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

จงสรรเสริญพระเป็นเจ้า


“ให้เราสรรเสริญพระเป็นเจ้าตลอดเวลาเถิด”(ฮบ. 13:15)
วันที่ 28 ก.พ. 1944 หญิงสาวชาวดัทช์ชื่อ คอร์รี เทนบูมและคนในครอบครัวของเธอถูกจับและส่งตัวไปค่ายกักกันชาวยิว  ช่วงเวลานั้นนาซีกำลังยึดครองฮอล์แลนด์อยู่  ในท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากอย่างยิ่งนี้  เบทซี่ พี่สาวของคอร์รี ได้พูดเตือนคนในครอบครัวว่า  พระคัมภีร์กล่าวว่าให้เราขอบพระคุณพระเป็นเจ้าในทุกสิ่ง  ทุกคนในครอบครัวจึงทำตามคำพูดของเธอ  พวกเขาขอบพระคุณพระเป็นเจ้า แม้แต่ในเรื่องที่ถูกรบกวนจากเห็บหมัดในที่พักของค่ายกักกันนี้  พวกเขาขอบพระคุณพระเป็นเจ้าเสมอ  และสังเกตเห็นว่ายามจะปล่อยพวกเขาให้อยู่ตามลำพังโดยไม่มาคอยควบคุม  ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ได้และยังช่วยให้คนอื่นที่ถูกจับกุมมาพร้อมกันให้รู้จักและเชื่อในพระเยซูเจ้าอีกด้วย  พวกเขามารู้ภายหลังว่าที่ยามอยู่ห่างจากพวกเขาก็เป็นเพราะเห็บหมัดนี่เอง  มองอีกด้านหนึ่ง  พระเป็นเจ้าทรงทำงานของพระองค์ในทุกสิ่งและพระองค์ทรงช่วยเหลือพวกเราด้วยวิธีการพิเศษ  ขณะที่คอร์รีและเบทซี่สรรเสริญพระเป็นเจ้า  พวกเธอก็สนใจในความยากลำบากของตัวเองน้อยลง  แต่สนใจในผู้อื่นที่ได้รับความยากลำบากเช่นเดียวกับเธอและได้แนะนำพวกเขาให้มารู้จักพระเยซูเจ้า
ในพระวรสารกล่าวว่า พระเยซูเจ้าตรัสกับศิษย์ของพระองค์ว่า “ท่านทั้งหลายจงมาพักผ่อนกับเราตามลำพังในที่สงัดระยะหนึ่งเถิด” (มก. 6: 31) การสรรเสริญและขอบพระคุณพระเป็นเจ้าเป็นสิ่งที่เราสามารถทำ ณ.ที่ใดก็ได้ ในถนน ในรถยนต์ ในห้องอาหาร ฯลฯ  เราเพียงแต่ยกจิตใจขึ้นหาพระเยซูเจ้าและขอบพระคุณพระองค์ในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อเรา  และเช่นเดียวกับที่คอร์รีและเบทซี่ได้ค้นพบ  ยิ่งเราสรรเสริญพระเป็นเจ้ามากเท่าไร พระองค์ยิ่งทรงช่วยเหลือเรามากเพียงนั้น
“พระบิดา  พระองค์ทรงพระทัยดีและทรงฤทธานุภาพ  ลูกขอบพระคุณพระองค์สำหรับความรักและพระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อลูก  ลูกขอสรรเสริญพระองค์ที่ทรงโอบอุ้มค้ำชูลูกไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น