พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระสันตปาปาสวดหน้าพระรูปแม่พระกัวดาลูเป



พระสันตะปาปาเสด็จเยี่ยมอาสนวิหารแม่พระกัวดาลูเป ในเม็กซิโก และทรงสวดหน้าพระรูปอย่างเงียบๆ


วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ศีลมหาสนิท

ศีลมหาสนิท – พันธสัญญาระหว่างพระเยซูเจ้ากับประชากรของพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงกระทำพันธสัญญาในการเสกปังระหว่างอาหารค่ำมื้อสุดท้าย  พันธสัญญานี้เป็นความสัมพันธ์ในครอบครัว  ประชาชนจากหลายครอบครัวได้กลายมาเป็นครอบครัวเดียว  ความสัมพันธ์นี้ไม่เหมือนความสัมพันธ์อื่น  อย่างเช่นการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าหรือการบริการทางด้านเศรษฐกิจ  แต่เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนกับการแต่งงานซึ่งทำให้คนสองคนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน  สิ่งเดียวกันนี้บังเกิดขึ้นในศีลมหาสนิทด้วย  พระเยซูคริสต์ทรงกลายเป็นกายและโลหิตเดียวกันกับเรา  เพราะเรามีเนื้อและพระโลหิตของพระองค์อยู่ในตัวของเรา  และเราก็เป็นเหมือนพระแม่มารีย์ด้วย  เพราะพระนางทรงรับพระเยซูไว้ในครรภ์ของพระนางเป็นเวลา 9 เดือน  พันธสัญญานี้มีความหมายว่าบัดนี้เราเป็นสมาชิกในครอบครัวแล้ว  เปรียบเหมือนเด็กที่เกิดมาแล้วและเขาได้กลายเป็นทายาทที่มีสิทธิในมรดก  เช่นเดียวกับในการรับศีลล้างบาป  เราได้กลายเป็นบุตรของพระเจ้า  เรามีพระเจ้าเป็นบิดาของเรา  มีพระเยซูเจ้าเป็นพระผู้ไถ่ของเรา  และมีพระจิตเจ้าเป็นผู้คอยช่วยเหลือเรา  เมื่อมีการแต่งงาน  คู่แต่งงานได้เข้าไปอยู่ในครอบครัวของแต่ละฝ่าย  บิดามารดาของเจ้าสาวก็กลายเป็นบิดามารดาของฝ่ายชาย  และบิดามารดาของฝ่ายชายก็กลายเป็นบิดามารดาของเจ้าสาวเช่นกัน  เมื่อทั้งคู่มีลูก  ลูกที่เกิดมาก็เข้ามาอยู่ในครอบครัวของพวกเขา  ลูกมีทั้งบิดาและมารดา  ด้วยเหตุนี้พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับยอห์นว่า “นี่คือแม่ของท่าน”  (ยน.19:27)  เมื่อเราเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า เราจึงควรทำเช่นเดียวกับยอห์นซึ่งรับพระมารดามารีย์มาอยู่ในบ้านของตน  เราก็ต้องรับพระมารดามารีย์มาอยู่ในหัวใจของเราเช่นกัน

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

อัศจรรย์วันพุธรับเถ้าปี 1218


“เราบอกความจริงแก่ท่านว่า  ถ้าท่านมีความเชื่อเพียงเท่าเมล็ดมัสตาด  ท่านจะบอกแก่ภูเขาว่า  จงย้ายไปจากที่นี่ มันก็จะเชื่อฟังท่าน  ไม่มีสิ่งใดที่ท่านจะทำไม่ได้” – (มธ. 17.20)
จากหนังสือ Butler’s Lives of Saints ได้บันทึกไว้ว่า - วันพุธรับเถ้าของปี 1218  น.โดมินิคซึ่งมีอายุ 48 ปี  กำลังปรึกษางานอยู่กับพระคาร์ดินัลในห้อง  ทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา  เข้าร้องห่มร้องไห้ใหญ่โต  เขานำข่าวร้ายมาบอกว่า  หลานชายของพระคาร์ดินัลถูกฆ่าตาย
ในตอนแรก  ทุกคนรู้สึกงุนงงและเงียบไปพักใหญ่  พระคาร์ดินัลตกใจและเศร้าโศกมาก  น.โดมินิคพยายามพูดจากปลอบโยน  แล้วน.โดมินิคก็สั่งให้นำศพผู้ตายมาและให้เตรียมประกอบพิธีมิสซาที่โบสถ์ใกล้เคียงทันที
ในระหว่างพิธีมิสซา  น.โดมินิครู้สึกเศร้าใจและร้องไห้  เมื่อถึงตอนเสกศีลก็มีบางสิ่งที่เหลือเชื่อเกิดขึ้น  ขณะที่น.โดมินิคยกแผ่นศีลและถ้วยกาลิกส์ขึ้น  ท่านก็ตกอยู่ในภวังค์และตัวก็ลอยสูงขึ้น  ทุกคนที่อยู่ที่นั่นได้เห็นกันหมด
เมื่อพิธีจบลงแล้ว  น.โดมินิคนำทุกคนไปที่ศพของผู้ตาย  ท่านคุกเข่าและสวดภาวนาอย่างเงียบๆสักพักหนึ่ง  แล้วก็ลุกขึ้นยืน  ทำสำคัญมหากางเขน  แล้วตัวของน.โดมินิคก็ลอยขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง  ท่านพูดเสียงดังว่า “เราขอบอกท่าน  ในพระนามของพระเยซูคริสต์พระผู้ไถ่ของเรา  จงลุกขึ้น”
ด้วยฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้า  ต่อหน้าผู้คนทั้งหลาย  คนตายก็กลับฟื้นมีชีวิตและลุกขึ้นยืน  ข่าวอัศจรรย์นี้แพร่กระจายไปในเมืองอย่างรวดเร็ว  ชาวเมืองและแม้แต่พระสันตะปาปาก็ทราบข่าวนี้   และทุกคนก็เฉลิมฉลองสรรเสริญพระเป็นเจ้า

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

นักบุญ-3

ถ้าจะมีคำใดที่ใช้บรรยายชีวิตของ น. ปีเตอร์ จูเลียน เอียมาร์ด Saint Peter Julian Eymard ได้แล้วก็คงเป็นคำว่า “เข็นครกขึ้นภูเขา” นั่นแหละ
>>>อ่านต่อ 

พระสันตปาปาพบกับพระอัยกา


HAVANA -- เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ก.พ. 2016 พระสันตปาปาฟรังซิสได้พบก้บพระอัยกาคิริลแห่งศาสนจักรรัสเซียออร์โธดอกซ์  นับเป็นประวัติศาสตร์ของการพัฒนาความสัมพันธ์ในรอบ 1000 ปีจากการแบ่งแยกกัน
ในห้อง VIP ของสนามบินแห่งชาติในกรุงฮาวานา ของคิวบา  เมื่อได้พบกันพระสันตปาปาฟรังซิส ตรัสว่า “ในที่สุด” แล้วทรงโอบกอดพระอัยกาคิริล  แล้วตรัสต่อไปว่า “เราเป็นพี่น้องกัน”  ทั้งสองจูบทักทายกันสามครั้งตามธรรมเนียมตะวันออก  พระอัยกาคิริลตรัสกับพระสันตปาปาผ่านทางล่ามว่า  “บัดนี้ สิ่งต่างๆก็ง่ายขึ้นแล้ว”  การพบกันนี้ใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

นักบุญอากาทา


อากาทา แปลว่า ดี,ความดี
ชีวิตของนักบุญอากาทา ก็คล้ายกับนักบุญอักแนส  ทั้งสองเป็นพรหมจารีย์มรณสักขีในยุคต้นของพระศาสนจักร  แต่สำหรับนักบุญอากาทาเกือบไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเธอในประวัติศาสตร์เลย  เว้นแต่บอกว่าเธอเป็นมรณสักขีที่เมืองซิซิลี  ในอิตาลี  ในระหว่างการเบียดเบียนศาสนาของจักรพรรดิ์เดซีอุส ในปี ค.ศ.251 ตามตำนานเล่าไว้ในลักษณะคล้ายกับนักบุญอักแนส  อากาทาถูกจับในฐานะเป็นคริสตชน  เธอถูกทรมานและถูกส่งตัวไปที่สำนักโสเภณี  แต่เธอได้รับการปกป้องให้พ้นจากความไม่บริสุทธิ์ทั้งหลาย  ในที่สุดเธอก็ถูกนำไปประหารชีวิต 
นักบุญอากาทาเป็นองค์อุปถัมภ์ของเมืองปาเลโม และคาตาเนีย  ในปีที่เธอเสียชีวิต  ภูเขาไฟเอ็ตน่าได้ปะทุขึ้น  แต่โดยอาศัยการเข้าแทรกแซงช่วยเหลือจากนักบุญอากาทา  ตามคำวอนขอของชาวเมือง  ภูเขาไฟจึงได้สงบลง
              ตามตำนานเล่าว่า  เมื่อนักบุญอากาทาถูกจับ  เธอสวดภาวนาว่า “พระเยซูเจ้าข้า  พระองค์ทรงเป็นเจ้านายของทุกสิ่ง  พระองค์ทรงมองเห็นในใจของลูก  พระองค์ทรงทราบความปรารถนาของลูก  พระองค์เป็นเจ้าของตัวลูก  ลูกเป็นแกะของพระองค์  โปรดทำให้ลูกมีคุณค่าพอที่จะเอาชนะปีศาจด้วยเทอญ”  และระหว่างที่อยู่ในคุก  เธอสวดว่า “พระเยซูเจ้าข้า  องค์พระผู้สร้างของลูก  พระองค์ทรงปกป้องลูกตั้งแต่ลูกยังอยู่ในเปล  พระองค์ทรงนำลูกให้พ้นจากความรักต่อโลกและทรงประทานความอดทนและความทุกข์แก่ลูก  บัดนี้โปรดรับวิญญาณของลูกด้วยเถิด”

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระสันตปาปาจะพบกับพระอัยกาคิริล


VATICANCITY : พระสันตปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยือนเม็กซิโกในระหว่างวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์นี้  และจะทรงหยุดแวะที่คิวบาเพื่อพบกับพระอัยกาแห่งพระศาสนจักรออร์โธดอกซ์แห่งรัสเซีย  นับเป็นการพบกันครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร  ต่อไปนี้เป็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ Fuller
พระศาสนจักรและศาสนจักรแห่งรัสเซียมีความยินดีที่จะประกาศว่า  ด้วยพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า  พระสันตปาปาฟรังซิสและพระอัยกาคิริลแห่งมอสโคและแห่งรัสเซียจะพบกันในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2016  การพบกันจะมีขึ้นที่คิวบา  โดยพระสันตะปาปาจะหยุดแวะในระหว่างการเดินทางไปเม็กซิโก  ส่วนพระอัยกาจะเยี่ยมคิวบาอย่างเป็นทางการ  จะมีการสนทนากันที่สนามบิน โจเซี่ มาร์ติในกรุงฮาวานา  และจะมีการลงนามประกาศร่วมกันด้วย
            การพบกันระหว่างหัวหน้าพระศาสนจักรคาทอลิกและศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย  หลังจากที่มีการเตรียมการอย่างเป็นเวลานานครั้งนี้  จะเป็นการพบกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์และจะเป็นขั้นสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างศาสนจักรทั้งสอง  พระสันตปาปาและพระอัยกาแห่งมอสโคยังหวังว่านี่จะเป็นเครื่องหมายแห่งความหวังสำหรับประชาชนผู้ที่มีน้ำใจดีทั้งหลาย  ทั้งสองท่านต่างเชื้อเชิญให้คริสตชนทุกคนสวดภาวนาเพื่อที่พระเป็นเจ้าจะทรงประทานพระพรสำหรับการพบกันครั้งนี้  เพื่อที่จะได้บังเกิดผลที่ดีตามมา