พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2025 สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า

         & ประชาชนรู้จึงติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสสอนเขาเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ทรงรักษาคนที่ต้องการการบำบัดรักษา เมื่อจวนถึงเวลาเย็น อัครสาวกสิบสองคนมาทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด” ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน” เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง
(ลูกา 9:11-17)








วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

อัศจรรย์วันพุธรับเถ้าปี 1218


“เราบอกความจริงแก่ท่านว่า  ถ้าท่านมีความเชื่อเพียงเท่าเมล็ดมัสตาด  ท่านจะบอกแก่ภูเขาว่า  จงย้ายไปจากที่นี่ มันก็จะเชื่อฟังท่าน  ไม่มีสิ่งใดที่ท่านจะทำไม่ได้” – (มธ. 17.20)
จากหนังสือ Butler’s Lives of Saints ได้บันทึกไว้ว่า - วันพุธรับเถ้าของปี 1218  น.โดมินิคซึ่งมีอายุ 48 ปี  กำลังปรึกษางานอยู่กับพระคาร์ดินัลในห้อง  ทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา  เข้าร้องห่มร้องไห้ใหญ่โต  เขานำข่าวร้ายมาบอกว่า  หลานชายของพระคาร์ดินัลถูกฆ่าตาย
ในตอนแรก  ทุกคนรู้สึกงุนงงและเงียบไปพักใหญ่  พระคาร์ดินัลตกใจและเศร้าโศกมาก  น.โดมินิคพยายามพูดจากปลอบโยน  แล้วน.โดมินิคก็สั่งให้นำศพผู้ตายมาและให้เตรียมประกอบพิธีมิสซาที่โบสถ์ใกล้เคียงทันที
ในระหว่างพิธีมิสซา  น.โดมินิครู้สึกเศร้าใจและร้องไห้  เมื่อถึงตอนเสกศีลก็มีบางสิ่งที่เหลือเชื่อเกิดขึ้น  ขณะที่น.โดมินิคยกแผ่นศีลและถ้วยกาลิกส์ขึ้น  ท่านก็ตกอยู่ในภวังค์และตัวก็ลอยสูงขึ้น  ทุกคนที่อยู่ที่นั่นได้เห็นกันหมด
เมื่อพิธีจบลงแล้ว  น.โดมินิคนำทุกคนไปที่ศพของผู้ตาย  ท่านคุกเข่าและสวดภาวนาอย่างเงียบๆสักพักหนึ่ง  แล้วก็ลุกขึ้นยืน  ทำสำคัญมหากางเขน  แล้วตัวของน.โดมินิคก็ลอยขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง  ท่านพูดเสียงดังว่า “เราขอบอกท่าน  ในพระนามของพระเยซูคริสต์พระผู้ไถ่ของเรา  จงลุกขึ้น”
ด้วยฤทธานุภาพของพระเป็นเจ้า  ต่อหน้าผู้คนทั้งหลาย  คนตายก็กลับฟื้นมีชีวิตและลุกขึ้นยืน  ข่าวอัศจรรย์นี้แพร่กระจายไปในเมืองอย่างรวดเร็ว  ชาวเมืองและแม้แต่พระสันตะปาปาก็ทราบข่าวนี้   และทุกคนก็เฉลิมฉลองสรรเสริญพระเป็นเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น