พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

รูปภาพพระเมตตาต้นฉบับ


มีภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ถูกสร้างขึ้นและออกฉายแล้ว  เกี่ยวกับประวัติของ “ภาพพระเมตตาต้นฉบับ”  เป็นเรื่องที่ไม่เคยเล่ามาก่อนเลย  ชื่อของภาพยนตร์สารคดีคือ “The Original Image of Divine Mercy: the Untold Story of an Unknown Masterpiece,” โดยได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย  เช่น  comedian Jim Gaffigan, actor and musician Harry Connick, Jr., George Weigel, Bishop Robert Barron, and others.
ถึงแม้จะมีรูปภาพพระเมตตาในหลายรูปแบบที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกในปัจจุบัน  แต่มีเพียงรูปภาพเดียวเท่านั้นที่ถูกใช้ในเวลาที่นักบุญโฟสตีนายังมีชีวิตอยู่  ซึ่งเป็นรูปภาพที่นักบุญโฟสตีนาเห็นในนิมิต  และรูปภาพนี้เกือบถูกทำลายไปแล้ว
 “พวกโซเวียตที่แอนตี้คาทอลิกอย่างรุนแรงได้เข้าครอบครองเมืองวิลนีอุส  ทำให้ต้องมีการซ่อนรูปภาพพระเมตตาเอาไว้  ในที่สุดก็มีซิสเตอร์สองคนยอมรับภารกิจที่ท้าทายและแทบเป็นไปไม่ได้  นั่นคือการลักลอบนำรูปภาพพระเมตตาข้ามพรมแดนระหว่างลิธูเนียกับเบลารุส”
             จนกระทั่งปี 2005 รูปภาพพระเมตตานี้ก็ได้กลับมายังที่อยู่ดั้งเดิมที่เมืองวิลนีอุสตามความปรารถนาของนักบุญโฟสตีนาและบุญราศีคุณพ่อไมเคิล  โซปอกโก
    รูปพระเมตตาต้นฉบับ                                                        รูปพระเมตตาวาดเหมือนต้นฉบับมากที่สุด
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น