พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

ภาพของนรก


ซิสเตอร์ลูซีอา แห่งฟาติมา ได้เขียนในหนังสือของเธอที่ชื่อ  Memoirs: ไว้ดังนี้
“พระนางพรหมจารีย์มารีย์ทรงกางพระหัตถ์ออกอีกครั้งหนึ่ง  เหมือนที่ทรงกระทำเมื่อเดือนที่ผ่านมา  มีรังสีแสงส่องออกมาจากพระหัตถ์ของพระนางทะลุลงไปที่พื้นดิน  แล้วพวกเราก็เห็นทะเลไฟที่กว้างใหญ่  ภายในทะเลไฟนี้  พวกเราเห็นปีศาจและวิญญาณมากมาย (วิญญาณที่ถูกสาปแช่ง)    วิญญาณเหล่านี้ดูเหมือนกับแท่งอำพันที่กำลังถูกเผาจนโปร่งใส  วิญญาณทั้งหมดเป็นสีดำหรือไม่ก็สีบรอนซ์ไหม้ในรูปร่างของมนุษย์  พวกเขากำลังลอยไปมาในทะเลไฟนี้  ตอนนี้พวกเขาถูกโยนขึ้นไปบนอากาศด้วยพลังของเปลวไฟที่เผาไหม้อยู่ภายในตัวและกลุ่มควันที่หนาแน่น  แล้วตอนนี้พวกเขาก็ตกลงมาในทุกทิศทางเหมือนกับสะเก็ดไฟที่ฟุ้งกระจายในกลุ่มไฟที่ใหญ่โต  ไม่มีน้ำหนักหรือมีสมดุลเลย  พวกเขากรีดร้องและโอดครวญด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง  ภาพนี้ทำให้พวกเราอกสั่นขวัญแขวนและหวาดกลัว (ทำให้ฉันกรีดร้องออกมา  ตามที่ประชาชนที่มาชุมนุมนั้นเล่าว่าได้ยินพวกเรากรีดร้อง)  ปีศาจมีลักษณะที่แตกต่างออกไป (แตกต่างจากวิญญาณที่ถูกสาปแช่ง)  พวกมันมีรูปลักษณ์ที่น่ากลัวคล้ายกับสัตว์ประหลาดที่ไม่มีใครรู้จัก  เป็นสีดำและโปร่งใสเหมือนถ่านที่ถูกเผาจนแดง  ภาพนิมิตนี้เกิดขึ้นชั่วเวลาหนึ่ง  ต้องขอบพระคุณพระมารดาสวรรค์ของเรา  ที่ทรงสัญญาในการประจักษ์ครั้งแรกว่าจะทรงนำพวกเราไปสวรรค์  มิฉะนั้นแล้ว  ฉันคิดว่าพวกเราคงจะต้องตายไปในเวลานั้นด้วยความกลัวแน่ๆ
แม่พระตรัสว่า “ลูกได้เห็นนรกที่ซึ่งวิญญาณของคนบาปที่น่าสงสารต้องไปอยู่แล้ว  เพื่อช่วยเหลือพวกเขา  พระเป็นเจ้าทรงปรารถนาให้สถาปนาความศรัทธาต่อดวงหทัยนิรมลของแม่ในโลกนี้”

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559

เมดจูกอเรจ์จะฉลองครบ82ปีของการสร้างกางเขน


วันที่ 16 มีนาคม 2016 เมดจูกอเรจ์จะฉลองครบ 82 ปีของการสร้างกางเขนบนภูเขาครีซาวัค Križevac และฉลองการทำพิธีมิสซาครั้งแรกภายใต้กางเขนนี้
            ความคิดในการสร้างกางเขนบนภูเขามาจากวาติกัน  โดยพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ประสงค์จะสร้างกางเขนบนภูเขาทั่วโลกในโอกาสครบ 1900 ปีของการสิ้นพระชนม์ของพระคริสตเจ้า  และผู้หนึ่งที่ตอบสนองพระประสงค์ของพระสันตะปาปาก็คือคุณพ่อ เบอร์นาดีน Fr. Bernardin Smoljan ซึ่งเป็นพระสงฆ์ในสังฆมณฑลเมดจูกอเรจ์  ท่านได้ประกาศแผนการก่อสร้างกางเขนแก่คนในสังฆมณฑลของท่านในเดือนมกราคม 1934  และทุกคนก็ตอบรับแผนการนี้ในทันที  แต่ละคนแบกปูนที่จะใช้สร้างกางเขนขึ้นไปบนภูเขาด้วยถัง  เป็นงานที่หนักมากซึ่งทุกคนช่วยกันทำอย่างเต็มกำลัง  ในที่สุดงานก็สำเร็จภายในหนึ่งเดือน  และวันที่ 16 มีนาคม 1934  พระสงฆ์ก็เสกกางเขนและประกอบพิธีมิสซาที่ใต้กางเขนนี้เป็นครั้งแรก

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

ผลงานที่ถูกซ่อนไว้


             ผลงานศิลปะทางศาสนาที่ถูกซ่อนไว้ได้เปิดเผยออกมาเมื่อมีการบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ที่ประสูติของพระเยซู Church of the Nativity
            หนังสือพิมพ์ Time of Israel  ได้รายงานว่า  ผลงานศิลปะชิ้นนี้ทำด้วย ทองแดง เงิน  เปลือกหอย และหิน  มันถูกปิดทับด้วยปูนปลาสเตอร์และพบอยู่ใกล้หน้าต่างของโบสถ์ซึ่งสร้างขึ้นโดยคำสั่งของจักรพรรดิคอนสแตนตินและพระมารดาของพระองค์  ราชินีเฮเลนา ในคริสต์ศตวรรษที่ 4  เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผลงานศิลปะนี้ถูกทำความสะอาดแล้ว  แต่จะยังไม่เปิดให้ชม และไม่มีรูปภาพใด  Ziad al-Bandak ชาวปาเลสไตน์ , ประธานที่ปรึกษาของ Christian Affairs กล่าวว่า “ผลงานศิลปะชิ้นนี้เป็นวัตถุทางศาสนาและประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่ามาก”
            โบสถ์ที่ประสูติของพระเยซูถูกสร้างขึ้นปกคลุมถ้ำที่พระเยซูทรงบังเกิด  ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของคริสตศาสนา  ปัจจุบันถูกขึ้นบัญชีโดยยูเนสโกว่าเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย  โบสถ์ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมเป็นเวลานานและต้องใช้เงินจำนวนมากในการบูรณะให้อยู่ในสภาพดี
            จนกระทั่งเมื่อสองปีที่แล้ว  มีน้ำรั่วซึมจากหลังคาที่แตก  ทำให้แผ่นหินโมเซอิกภายในเสียหายจึงได้มีการซ่อมแซมใหม่เป็นครั้งแรก  จากที่ไม่ได้มีการแตะต้องมานานนับพันปี 
            แหล่งเงินทุนในการซ่อมแซมได้มาจากหลายแหล่ง  ได้แก่ จากส่วนเอกชนปาเลสไตน์  โรมันคาทอลิก  กรีกออร์โธดอกซ์ และโบสถ์อาร์เมเนียน  และเงินทำบุญจากประเทศอื่นๆ
            Al-Bandak กล่าวว่า “เงิน 8 ล้านดอลลาร์ถูกใช้ไปแล้ว  และยังต้องการเงินอีก 11 ล้านดอลลาร์เพื่อดำเนินงานต่อ  โครงการนี้คงใช้เวลานานอย่างน้อย  3 ปี  เฟสแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว  เรามีความภูมิใจมากที่ได้ปกป้องทรัพย์สมบัติของชาติ ปกป้องประวัติศาสตร์ของเรา  และปกป้องอนาคตของเรา”

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

นักบุญ-4

ถ้าจะมีคำใดที่ใช้บรรยายชีวิตของ น. ปีเตอร์ จูเลียน เอียมาร์ด Saint Peter Julian Eymard ได้แล้วก็คงเป็นคำว่า “เข็นครกขึ้นภูเขา” นั่นแหละ
>>>อ่านต่อ 

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สาส์นแม่พระ2+25ก.พ.2016

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ก.พ. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในเวลาแห่งพระหรรษทานนี้  แม่กำลังเรียกพวกลูกทุกคนให้กลับใจ  ลูกน้อยทั้งหลาย  พวกลูกมีความรักเพียงเล็กน้อยและการสวดภาวนายิ่งมีน้อยกว่า  พวกลูกกำลังหลงทางและไม่รู้ว่าเป้าหมายของลูกคืออะไร  จงรับกางเขนเถิด  มองดูพระเยซูเจ้าและติดตามพระองค์  พระองค์ประทานพระองค์เองแก่พวกลูกด้วยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  ก็เพราะพระองค์ทรงรักพวกลูก  ลูกน้อยทั้งหลาย  แม่กำลังส่งเสียงร้องเตือนพวกลูกว่า : จงหันกลับมาสู่การสวดภาวนาด้วยหัวใจ  เพื่อที่ลูกจะได้พบกับความหวังและความหมายของการมีชีวิตของลูก  ในการสวดภาวนา  แม่จะอยู่กับลูกและสวดภาวนาเพื่อลูก
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
 สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 ก.พ. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
แม่ขอเรียกให้พวกลูกมารู้จักกับพระบุตรของแม่อีกครั้ง ขอให้ลูกมารู้จักองค์ความจริง 
แม่อยู่กับพวกลูกและสวดภาวนาเพื่อพวกลูกเสมอ 
ลูกทั้งหลายของแม่  ลูกต้องสวดภาวนามากๆเพื่อที่ลูกจะได้มีความรักและความอดทนมากขึ้น  และจะได้รู้จักที่จะเสียสละทำพลีกรรมและมีความยากจนในจิตใจ 
โดยอาศัยพระจิตเจ้า  องค์พระบุตรของแม่ทรงอยู่กับพวกลูกเสมอ 
พระศาสนจักรของพระองค์บังเกิดในหัวใจทุกดวงที่มารู้จักพระองค์ 
จงสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะได้รู้จักพระองค์เถิดและจิตวิญญาณของลูกจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ 
นั่นคือการสวดภาวนาและความรักซึ่งจะดึงดูดผู้อื่นและทำให้ลูกเป็นอัครสาวกของแม่ 
แม่มองดูพวกลูกด้วยความรัก  ด้วยความรักเยี่ยงมารดา  แม่รู้จักพวกลูก  แม่รู้ถึงความเจ็บปวดและความเศร้าโศกของพวกลูก 
เพราะแม่ก็เศร้าโศกอยู่อย่างเงียบๆเช่นกัน 
ความเชื่อของแม่ให้ความรักและความหวังแก่แม่ 
แม่ขอย้ำว่า  การกลับคืนชีพขององค์พระบุตรของแม่และการรับเกียรติยกขึ้นสู่สวรรค์ของแม่เป็นความหวังและความรักสำหรับพวกลูก 
เพราะฉะนั้น  ลูกๆทั้งหลายของแม่  จงสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะได้รู้จักความจริง  จะได้มีความเชื่อที่มั่นคงซึ่งจะนำทางหัวใจของพวกลูกและจะเปลี่ยนความเจ็บปวดและความทุกข์ของพวกลูกให้กลายเป็นความรักและความหวัง

ขอขอบใจลูก