พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

ผลงานที่ถูกซ่อนไว้


             ผลงานศิลปะทางศาสนาที่ถูกซ่อนไว้ได้เปิดเผยออกมาเมื่อมีการบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ที่ประสูติของพระเยซู Church of the Nativity
            หนังสือพิมพ์ Time of Israel  ได้รายงานว่า  ผลงานศิลปะชิ้นนี้ทำด้วย ทองแดง เงิน  เปลือกหอย และหิน  มันถูกปิดทับด้วยปูนปลาสเตอร์และพบอยู่ใกล้หน้าต่างของโบสถ์ซึ่งสร้างขึ้นโดยคำสั่งของจักรพรรดิคอนสแตนตินและพระมารดาของพระองค์  ราชินีเฮเลนา ในคริสต์ศตวรรษที่ 4  เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผลงานศิลปะนี้ถูกทำความสะอาดแล้ว  แต่จะยังไม่เปิดให้ชม และไม่มีรูปภาพใด  Ziad al-Bandak ชาวปาเลสไตน์ , ประธานที่ปรึกษาของ Christian Affairs กล่าวว่า “ผลงานศิลปะชิ้นนี้เป็นวัตถุทางศาสนาและประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่ามาก”
            โบสถ์ที่ประสูติของพระเยซูถูกสร้างขึ้นปกคลุมถ้ำที่พระเยซูทรงบังเกิด  ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของคริสตศาสนา  ปัจจุบันถูกขึ้นบัญชีโดยยูเนสโกว่าเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย  โบสถ์ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมเป็นเวลานานและต้องใช้เงินจำนวนมากในการบูรณะให้อยู่ในสภาพดี
            จนกระทั่งเมื่อสองปีที่แล้ว  มีน้ำรั่วซึมจากหลังคาที่แตก  ทำให้แผ่นหินโมเซอิกภายในเสียหายจึงได้มีการซ่อมแซมใหม่เป็นครั้งแรก  จากที่ไม่ได้มีการแตะต้องมานานนับพันปี 
            แหล่งเงินทุนในการซ่อมแซมได้มาจากหลายแหล่ง  ได้แก่ จากส่วนเอกชนปาเลสไตน์  โรมันคาทอลิก  กรีกออร์โธดอกซ์ และโบสถ์อาร์เมเนียน  และเงินทำบุญจากประเทศอื่นๆ
            Al-Bandak กล่าวว่า “เงิน 8 ล้านดอลลาร์ถูกใช้ไปแล้ว  และยังต้องการเงินอีก 11 ล้านดอลลาร์เพื่อดำเนินงานต่อ  โครงการนี้คงใช้เวลานานอย่างน้อย  3 ปี  เฟสแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว  เรามีความภูมิใจมากที่ได้ปกป้องทรัพย์สมบัติของชาติ ปกป้องประวัติศาสตร์ของเรา  และปกป้องอนาคตของเรา”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น