พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

จินตภาพในการสวดภาวนา

เป็นไปไม่ได้ที่ไม่มีจินตภาพและความเข้าใจในเวลาที่เราสวดภาวนา  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราใช้จินตภาพเหล่านี้เพื่อช่วยทำให้จิตใจของเราเกิดพลวัต  บางคนกล่าวว่าไม่จำเป็นต้องใช้จินตภาพเพื่อช่วยให้เราปรากฏอยู่เบื้องหน้าองค์พระผู้ไถ่ผู้ทรงถ่อมพระองค์  บางทีอาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ที่มีความก้าวหน้าในความสมบูรณ์พร้อมแล้ว  แต่สำหรับพวกเราผู้กำลังอยู่ในหุบเขา และเราปรารถนาจะปีนขึ้นไปบนภูเขานั้น ข้าพเจ้าคิดว่าเราสมควรที่จะต้องใช้เครื่องมือช่วยเหลือทุกอย่างที่หาได้  ซึ่งก็รวมทั้งจินตภาพด้วย  อย่างไรก็ตาม จินตภาพควรจะเป็นลักษณะง่ายๆ  เปรียบเหมือนกับเข็มที่นำพาเอาเส้นด้ายแห่งความรักและความละเอียดอ่อนเข้าไปในผืนผ้าแห่งจิตใจ  นี่เป็นถนนสายสำคัญที่เราไม่ควรออกนอกเส้นทางจนกว่าแสงสว่างอันสดใสจะปรากฏขึ้นและทำให้เราเห็นเส้นทางที่แคบๆ  จินตภาพต้องไม่ทำให้จิตใจของเราสับสนหันเหออกจากเป้าหมายหลักของการสวดภาวนา  แต่ต้องเรียบง่าย และทำให้เราอยู่ในหุบเขาแห่งความปรารถนานั้นนานขึ้นอีกสักเล็กน้อย
จากหนังสือ Roses Among Thorns  ของนักบุญ ฟรังซิส  เดอ  ซาล 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น