ชื่อของท่านคือฟรานเชสโก
ท่านเกิดวันที่ 25 พ.ค. 1887
บิดามารดาซึ่งเป็นคริสตชนไม่ประหลาดใจเลยที่ท่านตัดสินใจบวชเป็นนักพรตคาปูชิน และเมื่อท่านอายุ
23 ปี ท่านก็ได้บวชเป็นพระสงฆ์
ท่านไม่สามารถเข้าคณะได้นานถึง
6 ปี เนื่องด้วยปัญหาทางสุขภาพ
แต่เมื่อท่านได้เข้าอารามของคณะซึ่งตั้งอยู่ที่ซานจีโอวานนี รอตตอนโด
ภารกิจหลักของท่านก็คือการฟังแก้บาปซึ่งท่านต้องใช้เวลานานถึงวันละ 14 ชั่วโมง
ฟรานเชสโก ดิเลโอ: นักพรตในคณะคาปูชิน
ฟรานเชสโก ดิเลโอ: นักพรตในคณะคาปูชิน
ท่านดำเนินชีวิตนักบวชอย่างศักดิ์สิทธิ์
ท่านประพฤติปฏิบัติคุณธรรมของชีวิตนักบวชอย่างลึกซึ้ง แสดงให้โลกเห็นถึงความเป็นนักบุญที่ยิ่งใหญ่ของท่านในการปฏิบัติรับใช้พระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์
แต่พระเป็นเจ้าทรงเรียกร้องจากท่านมากกว่านั้น ในปี 1918 เมื่อท่านมีอายุ 31 ปี
มือของท่านและสีข้างของท่านก็เริ่มมีรอยแผลแบบเดียวกับพระคริสต์ผู้ทนทุกข์อยู่บนกางเขน ถูกตะปูตอกที่พระหัตถ์และถูกหอกแทงที่สีข้าง
ฟรานเชสโก ดิเลโอ: นักพรตในคณะคาปูชิน
ฟรานเชสโก ดิเลโอ: นักพรตในคณะคาปูชิน
ท่านยอมรับการมีส่วนร่วมในพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า
แต่ท่านไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหมายภายนอกเหล่านั้น ท่านพูดว่า “ทำไมผมจึงต้องได้รับความสับสนเหล่านั้นด้วยเล่า?” เพราะท่านรู้ว่า ผู้คนรอบข้างท่านจะมีความคาดหวังในรอยแผลที่ท่านได้รับ”
คุณพ่อปีโอได้รับผลสืบเนื่องจากรอยแผลบนร่างกายของท่าน ท่านต้องคอยดูแลผู้คนที่มาที่ซานจีโอวานนีรอตตอนโด และมีอัศจรรย์เกิดขึ้น และท่านก็ได้รับจดหมายนับร้อยๆฉบับที่เขียนมาขอความช่วยเหลือจากท่าน
จดหมายมีมากมายจนบรรดาเพื่อนนักพรตของท่านต้องมาช่วยท่านอ่านพวกมันทั้งหมด ท่านไม่ได้พักผ่อนมากนัก แต่ท่านก็ยังมีความสุข และเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนที่อาจเป็นไปได้ ทางวาติกันได้ขอให้ท่านไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน และท่านก็เชื่อฟัง
11 ปีต่อมา พระสันตะปาปาปีโอที่
12 ทรงอนุญาตให้ท่านปฏิบัติภารกิจในที่สาธารณะได้ และท่านก็ต้อนรับผู้ที่เป็นคาทอลิกและไม่เป็นคาทอลิก
ฟรานเชสโก ดิเลโอ:
นักพรตในคณะคาปูชิน
เล่ากันว่า ชายคนหนึ่งที่มาพบกับคุณพ่อปีโอเพื่อมาช่วยในงานก่อสร้างโรงพยาบาล เขาเป็นหมอหรือเป็นวิศวกรนี่แหละ เขาพูดว่า “ผมไม่เชื่อในพระเจ้า”
และคุณพ่อปีโอตอบว่า “ไม่ต้องวิตกหรอก
พระเป็นเจ้าทรงเชื่อในตัวคุณ”
ทุกวันนี้ ผู้คนยังจดจำคุณพ่อปีโอและเฉลิมฉลองให้ท่าน
แบบอย่างของท่านและคำพูดของท่านยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ที่ศรัทธาในตัวคุณพ่อ นอกเหนือไปจากเหตุการณ์พิเศษในชีวิตของคุณพ่อปีโอแล้ว ก็คือความเรียบง่ายและความเอาใจใส่ต่อผู้อื่นของคุณพ่อที่ยังเป็นแรงบันดาลใจแก่ประชาชนในทุกวันนี้