พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

คุณพ่อปีโอ:นักบุญผู้ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์


ชื่อของท่านคือฟรานเชสโก ท่านเกิดวันที่ 25 พ.ค. 1887 บิดามารดาซึ่งเป็นคริสตชนไม่ประหลาดใจเลยที่ท่านตัดสินใจบวชเป็นนักพรตคาปูชิน และเมื่อท่านอายุ 23 ปี ท่านก็ได้บวชเป็นพระสงฆ์
ท่านไม่สามารถเข้าคณะได้นานถึง 6 ปี เนื่องด้วยปัญหาทางสุขภาพ  แต่เมื่อท่านได้เข้าอารามของคณะซึ่งตั้งอยู่ที่ซานจีโอวานนี รอตตอนโด  ภารกิจหลักของท่านก็คือการฟังแก้บาปซึ่งท่านต้องใช้เวลานานถึงวันละ 14 ชั่วโมง
ฟรานเชสโก ดิเลโอ: นักพรตในคณะคาปูชิน
ท่านดำเนินชีวิตนักบวชอย่างศักดิ์สิทธิ์  ท่านประพฤติปฏิบัติคุณธรรมของชีวิตนักบวชอย่างลึกซึ้ง  แสดงให้โลกเห็นถึงความเป็นนักบุญที่ยิ่งใหญ่ของท่านในการปฏิบัติรับใช้พระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์
แต่พระเป็นเจ้าทรงเรียกร้องจากท่านมากกว่านั้น  ในปี 1918 เมื่อท่านมีอายุ 31 ปี  มือของท่านและสีข้างของท่านก็เริ่มมีรอยแผลแบบเดียวกับพระคริสต์ผู้ทนทุกข์อยู่บนกางเขน  ถูกตะปูตอกที่พระหัตถ์และถูกหอกแทงที่สีข้าง
ฟรานเชสโก ดิเลโอ: นักพรตในคณะคาปูชิน
ท่านยอมรับการมีส่วนร่วมในพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า  แต่ท่านไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหมายภายนอกเหล่านั้น  ท่านพูดว่า “ทำไมผมจึงต้องได้รับความสับสนเหล่านั้นด้วยเล่า?”  เพราะท่านรู้ว่า  ผู้คนรอบข้างท่านจะมีความคาดหวังในรอยแผลที่ท่านได้รับ”
คุณพ่อปีโอได้รับผลสืบเนื่องจากรอยแผลบนร่างกายของท่าน  ท่านต้องคอยดูแลผู้คนที่มาที่ซานจีโอวานนีรอตตอนโด  และมีอัศจรรย์เกิดขึ้น  และท่านก็ได้รับจดหมายนับร้อยๆฉบับที่เขียนมาขอความช่วยเหลือจากท่าน
จดหมายมีมากมายจนบรรดาเพื่อนนักพรตของท่านต้องมาช่วยท่านอ่านพวกมันทั้งหมด  ท่านไม่ได้พักผ่อนมากนัก  แต่ท่านก็ยังมีความสุข  และเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนที่อาจเป็นไปได้  ทางวาติกันได้ขอให้ท่านไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน  และท่านก็เชื่อฟัง
11 ปีต่อมา  พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงอนุญาตให้ท่านปฏิบัติภารกิจในที่สาธารณะได้  และท่านก็ต้อนรับผู้ที่เป็นคาทอลิกและไม่เป็นคาทอลิก
ฟรานเชสโก ดิเลโอ: นักพรตในคณะคาปูชิน
เล่ากันว่า ชายคนหนึ่งที่มาพบกับคุณพ่อปีโอเพื่อมาช่วยในงานก่อสร้างโรงพยาบาล  เขาเป็นหมอหรือเป็นวิศวกรนี่แหละ  เขาพูดว่า “ผมไม่เชื่อในพระเจ้า” และคุณพ่อปีโอตอบว่า “ไม่ต้องวิตกหรอก  พระเป็นเจ้าทรงเชื่อในตัวคุณ”
ทุกวันนี้ ผู้คนยังจดจำคุณพ่อปีโอและเฉลิมฉลองให้ท่าน  แบบอย่างของท่านและคำพูดของท่านยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ที่ศรัทธาในตัวคุณพ่อ  นอกเหนือไปจากเหตุการณ์พิเศษในชีวิตของคุณพ่อปีโอแล้ว  ก็คือความเรียบง่ายและความเอาใจใส่ต่อผู้อื่นของคุณพ่อที่ยังเป็นแรงบันดาลใจแก่ประชาชนในทุกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น