พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2025 ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

           ขณะนั้น ประชาชนกำลังรอคอย ทุกคนต่างคิดในใจว่า ยอห์นเป็นพระคริสต์หรือ ยอห์นจึงประกาศต่อหน้าทุกคนว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่ผู้ที่ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้าจะมา และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและด้วยไฟ
           ลก 3:21-22 พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง
           ขณะนั้นประชาชนทั้งหมดกำลังรับพิธีล้าง พระเยซูเจ้าก็ทรงรับพิธีล้างด้วย และขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา”
(ลูกา 3:15-16; 21-22)








วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สดุดีที่72คำอธิษฐานเพื่อกษัตริย์



บทสดุดีที่ 72 คำอธิษฐานเพื่อกษัตริย์
               ข้าแต่พระเจ้าจอมสวรรค์                ข้าฯ วอนทรงธรรม์ประภาศรี
โปรดสอนกษัตริย์ให้ทรงมี                            ยุติธรรมเยี่ยงที่พระทรงธรรม์
               เพื่อกษัตริย์ปกครองผองผสก        เที่ยมธรรมดิลกมิแปรผัน
คนมีคนจนคนเหมือนกัน                               อย่าได้แบ่งชั้นขีดขั้นคน
               ขอให้ประเทศทั่วเขตขัณฑิ์             รุ่งโรจน์สุขสันติ์ทุกแห่งหน
ชื่นชมเที่ยงธรรม์อันมงคล                             ดั่งนี้ปวงชนได้ร่มเย็น
               ขอให้กษัตริย์ทรงตัดสิน                 คนจนทั้งสิ้นที่ทุกข์เข็ญ
โดยยุติธรรมทุกประเด็น                                 ทั้งทรงเล็งเห็นทุรพล
ขอให้พระองค์ทรงช่วยเขา             ผ่อนหนักเป็นเบาคนขัดสน
แต่ปราบคนข่มขี่ผู้คน                                     อย่าให้เขาพันอาชญา
ขอให้ทั่วหน้าประชาชี                    ดำรงเสรีพระศาสนา
ตราบเท่าดวงตะวันและจันทรา                    ยังคงส่องหล้าตลอดไป
ขอให้กษัตริย์เป็นเช่นฝน                โปรดสัตว์ผู้คนให้สดใส
หลั่งมาจากฟ้าสุราลัย                                     รดทุ่งนาไร่และแผ่นดิน
               ให้ทรงบริสุทธิ์ยุติธรรม                   ทรงเป็นผู้นำนิจศีล
บ้านเมืองพัฒนาเป็นอาจิณ                            ตราบเท่าจนสิ้นรัชกาล
               และให้พระเกียรติ ธ ดำรง              อยู่ยั่งยืนยงคนเล่าขาน
ตราบเท่าแสงโสมส่องสราญ                        เชิดชูผลงานพระภูมี
               อาณาจักรของพระองค์ไซร้           จะขยายแผ่ไปเสริมศักดิ์ศรี
จากทะเลจดทะเลรุ่งรุจี                                  เสมือนว่ามิมีซึ่งพรมแดน

ขอพระเป็นเจ้าทรงรับพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศไว้ในสวรรค์นิรันดรเทอญ
ธ สถิตย์ในดวงใจ

วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2559

มิสซาถวายพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

       คริสตชนบ้านหนองทามน้อย จ.ศรีสะเกษ นับ 1,000 คน ร่วมพิธีบูชามิสซาถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
วันที่ข่าว : 16 ตุลาคม 2559
วันที่ 16 ตุลาคม 2559 นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยนายนพ พงศ์พลาดิสัย นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับคริสตชนบ้านหนองทามน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จำนวนกว่า 1,000 คน ประกอบพิธีบูชามิสซา ซึ่งเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในศาสนาคริสต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย โดยมี บาทหลวงบุญพฤกษชาติ ทองอินทร์ รักษาการวัดนักบุญยอแซฟ อัครสังฆมณฑลอุบลราชธานี นำคริสตชนประกอบพิธีบูชามิสซา ณ วัดนักบุญยอแซฟ บ้านหนองทามน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
บาทหลวงบุญพฤกษชาติ ทองอินทร์ กล่าวว่า เนื่องในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศที่รัก เคารพ และศรัทธายิ่งของปวงชนชาวไทย ตลอดจนพี่น้องศริสตชนลูกวัดนักบุญยอแซฟ บ้านหนองทามน้อยทุกคน เศร้าโศกเสียใจเป็นที่สุด ในวันนี้พวกเราในฐานะคริสตชนที่เกิดใต้ร่มพระบารมีและมีความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ จึงได้ร่วมใจกันอธิฐานภาวนาถวายพิธีบูชามิสซาอย่างตั้งใจ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สดุดีบทที่121


บทสดุดีที่ 121  พระเจ้าผู้ปกป้องผองภัย
               ยามเมื่อข้าฯทอดสายตา                                 แลดูภูผา
ความอุปถัมภ์มาจากไหน?
               จากพระเจ้าผู้ทรงฤทธิไกร                            สร้างโลกกว้างใหญ่
รวมหล้าทั้งหมดจดสวรรค์
               ทั้งทรงคุ้มครองปัองกัน                                 มิเคยเคลิ้มฝัน
หรือทรงเผลอสนิทนิทร์ไป
               พระองค์ปกป้องผองภัย                                 อิสราแอลอย่างไร
แก่ท่านก็เช่นเดียวกัน
               พระอาทิตย์ไร้พิษกลางวัน                            ถึงแม้พระจันทร์
ไม่ทำร้ายยามค่ำคืน
               ปลอดภัยทั้งหลับและตื่น                               ท่านจะสดชื่น
ในยามดำเนินไปมา
               พระเจ้าทรงพิทักษ์รักษา                                ด้วยพระทัยเมตตา
บัดนี้   เบื้องหน้า  นิรันดร

ขอพระเป็นเจ้าทรงรับพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศไว้ในสวรรค์นิรันดรเทอญ
ธ สถิตในดวงใจ

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ปรีชาญาณบทที่3



ปริชาญาณบทที่ 3 จุดประสงค์เร้นลับของพระเป็นเจ้า
ก. เกี่ยวกับความทุกข์ทรมาน
1.         วิญญาณของคนดีมีธรรมอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า ความทุกข์ร้อนใดเล่าจะกล้ำกราย
2.         ในสายตาของคนโฉดเขลา เขาดูเหมือนว่าสิ้นชีวี การลาโลกนี้ดูคล้ายกับเป็นความทุกข์
3.         การพรากจากกันไปดูเหมือนกับเป็นการสูญสิ้น แต่ที่ไหนได้ เขากลับอยู่เย็นเป็นสุข
4.         ในสายตาของมนุษย์ เขาคล้ายกับว่าต้องรับอาชญา แต่เขาก็หวังอย่างเต็มที่ว่าจะได้ชีวิตอมตะ
5.         เขาต้องทนทุกข์เพียงเล็กน้อย แต่แล้วก็จะได้รับพระพรมากมาย เพราะพระเจ้าทรงลองใจ และทรงพบว่า เขาเหมาะสมกับพระองค์
6.         พระองค์ทรงทดลอง เหมือนหลอมทองในเบ้า และทรงพอพระทัยเขา ดังเครื่องยัญบูชา
7.         วาระเมื่อพระองค์เสด็จมาพิพากษา เขาจะรุ่งโรจน์วิไล เขาจะเป็นเหมือนประกายไฟที่ว่องไวในกองฟาง
8.         เขาจะเป็นผู้ตัดสินนานาชาติ และปกครองประชาชาติ พระเป็นเจ้าจะครองราชย์เหนือคนชั่วกาลนาน

ขอพระเป็นเจ้าทรงรับพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศไว้ในสวรรค์นิรันดรเทอญ
ธ สถิตย์ในดวงใจ

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บุตรสิรา(17:10-19)



บุตรสิรา (17:10-19) บทเพลงจากพันธสัญญาเก่า การพิพากษาของพระเจ้า
พระทรงไขให้เรารู้พระบัญญัติ                     ผู้ปฏิบัติจะภิญโญสโมสร
พระทรงทำพันธสัญญานิรันดร                     กับนิกรมนุษย์บุตรพระองค์
นัยน์ตามนุษย์ได้ชมความยิ่งใหญ่                 ฤทธิไกรเดชะและพระประสงค์
หูได้ยินพระวจนะของพระองค์                    แว่วดำรงกังวานหวานจับใจ
พระประทานพระบัญญัติประเสริฐสุด        เรื่องมนุษย์สัมพันธ์อันทันสมัย
จงละเว้นความชั่วทั้งปวงไป                         รักกันไว้เพราะทั้งผองพี่น้องกัน
พระเป็นเจ้าทรงธรรม์สัพพัญญู                    ทรงล่วงรู้เท็จและจริงทุกสิ่งสรรพ์
ใครประพฤติอย่างไรที่ไหนกัน                     องค์ทรงธรรม์ทราบแจ้งแห่งกิจจา
พระโปรดให้แต่ละชาติสามารถอยู่                โดยมีผู้ปกครองป้องรักษา
ส่วนมรดกของพระเจ้าเหล่าประชา             มีนามว่าอิสราแอลเด่นรุจี
พฤติการณ์ของเขาเป็นที่ประจักษ์                เฉพาะพระพักตร์ขององค์ผู้ทรงศรี
สว่างแจ้งดุจแสงแห่งสุรีย์                              มิได้มีเคลื่อนคลาดปลาตไป
สิริพึงมีแด่พระบิดา                                       พระบุตราพระจิตผู้เรืองศรี
เหมือนดังในแรกเริ่มแต่เดิมที                       ทั้งบัดนี้และตลอดกาล อาแมน

ขอพระเป็นเจ้าทรงรับพระวิญญาณของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศไว้ในสวรรค์นิรันดรเทอญ
ธ สถิตในดวงใจ

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พิธีมิสซาสำหรับในหลวงที่วัดอัสสัมชัญ



คริสตชนทั่วประเทศร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในฐานะทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกพระผู้ทรงอุปถัมภ์ทุกศาสนา

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สายจำพวกสีน้ำตาล2


แม่พระแห่งภูเขาคาร์แมล ปี 1251ผู้ใดก็ตามที่เสียชีวิตโดยสวมสายจำพวกนี้อยู่จะไม่ต้องรับความทุกข์ในไฟชั่วนิรันดร”

แม่พระกุหลาบทิพย์  14 กันยายน 1985 “แม่ขอสัญญากับลูกทุกคน  เมื่อลูกสวมสายจำพวกของแม่นี้  ลูกจะไม่ถูกสาปแช่งให้ไปสู่นรก  แม่ขอย้ำว่า  ถ้าลูกกำลังจะสิ้นใจและลูกได้สวมสายจำพวกอยู่  ลูกจะไม่ต้องเห็นไฟนรก”

ในปี 1917 แม่พระแห่งฟาติมาทรงร้องขอกิจปฏิบัติ  5 ประการจากคริสตชนคือ
1)        ถวายตนเองแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ
2)        รับศีลมหาสนิทในวันเสาร์ต้นเดือนติดต่อกัน 5 เดือน
3)        มอบถวายพลีกรรมสำหรับการกลับใจของคนบาป
4)        สวดสายประคำหนึ่งสายทุกวัน
5)        *สวมสายจำพวกแห่งภูเขาคาร์แมลเพื่อเป็นเครื่องหมายของการที่เราถวายตนเองแด่แม่พระ
ลูซีอาแห่งฟาติมาเล่าว่า “แม่พระมิได้ตรัสอะไร  แต่พระนางทรงถือสายจำพวกของพระนางขณะที่ประจักษ์บนท้องฟ้าในการประจักษ์ครั้งสุดท้ายที่ฟาติมา  แม่พระทรงทำเช่นนี้เพื่อบ่งบอกว่าพระนางทรงประสงค์ให้พวกเราทุกคนสวมสายจำพวกนี้  การสวดสายประคำและสายจำพวกเป็นสองสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้  และเหตุผลที่เราต้องสวมใส่สายจำพวกนี้ก็เพราะเป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าเราได้ถวายตนเองแด่ดวงหท้ยนิรมลของพระนางมารีย์นั่นเอง”