พลังอำนาจจากการสวดภาวนาของเรานั้น เกิดจากพระเป็นเจ้าผู้ทรงฟังคำภาวนาของเรา ใน 1ยอห์น 5:14-15 บอกเราว่า “ความมั่นใจของเราต่อพระเป็นเจ้ามีอยู่ว่า ถ้าเราวอนขอสิ่งใดที่เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์จะทรงฟังเรา และถ้าเรารู้ว่าพระองค์ทรงฟังสิ่งที่เราวอนขอ
ไม่ว่าเราจะวอนขอสิ่งใด เราย่อมรู้ว่า เราจะได้รับตามที่เราวอนขอนั้น”
เหตุนี้ ไม่ว่าผู้ใดจะวอนขอสิ่งใด ด้วยจุดประสงค์อันใด พระเป็นเจ้าจะทรงประทานตามวอนขอก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เท่านั้น
พระองค์อาจไม่ประทานให้ตามที่เราวอนขอเสมอไป
แต่จะทรงประทานให้เพื่อประโยชน์ที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับเรา เมื่อความปรารถนาของเราสอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระองค์
และเราจะเข้าใจเมื่อถึงเวลา ดังนั้นเมื่อเราสวดภาวนาด้วยสุดหัวใจของเราวอนขอสิ่งที่สอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า พระองค์จะทรงตอบสนองคำภาวนาของเราอย่างแน่นอน
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2025 สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า
& ประชาชนรู้จึงติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสสอนเขาเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ทรงรักษาคนที่ต้องการการบำบัดรักษา เมื่อจวนถึงเวลาเย็น อัครสาวกสิบสองคนมาทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด” ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน” เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง
(ลูกา 9:11-17)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2025 สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า
& ประชาชนรู้จึงติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสสอนเขาเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ทรงรักษาคนที่ต้องการการบำบัดรักษา เมื่อจวนถึงเวลาเย็น อัครสาวกสิบสองคนมาทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด” ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน” เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง
(ลูกา 9:11-17)
วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ประธานาธิบดีสหรัฐกับเมดจูกอเรจ์
หลังจากท่านประธานาธิบดีได้อ่านจดหมายแล้วท่านพูดว่า
‘เวลานี้ผมกำลังจะไปพบกับกอบาชอฟด้วยจิตใจใหม่”
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
พลังอำนาจของการสวดภาวนา2
อย่าประเมินพลังอำนาจของการสวดภาวนาต่ำเกินไป ยากอบ 5:16-18 กล่าวว่า “...คำภาวนาของผู้ชอบธรรมมีพลังอำนาจมากและมีประสิทธผล เอลียาห์ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเรา
ท่านสวดาภาวนาด้วยสิ้นสุดจิตใจวอนขออย่าให้มีฝนตก และฝนก็ไม่ตกบนแผ่นดินอิสราแอลเป็นเวลาสามปีครึ่ง
ท่านสวดภาวนาอีกครั้งหนึ่งและสวรรค์ก็ประทานฝนให้ตกลงมาทำให้แผ่นดินเกิดผลผลิตงอกงาม”
พระเป็นเจ้าทรงฟังคำภาวนาอย่างแน่นอนและทรงตอบสนองคำภาวนาเหล่านั้น
พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า
“...เราบอกความจริงแก่ท่านว่า
ถ้าท่านมีความเชื่อเพียงเท่าเมล็ดมัสตาดเล็กๆ ท่านจะสามารถย้ายภูเขา จากที่นี่ไปที่นั่น
และมันก็จะย้าย ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับท่าน”
(มท. 17:20) และ 2 โครินทร์ 10:4-5 บอกเราว่า “อาวุธที่เราใช้ต่อสู้ไม่ใช่อาวุธของโลกนี้ ตรงกันข้าม
พวกมันเป็นอาวุธจากสวรรค์ที่ทำลายอำนาจของศัตรู
เราทำลายการโต้เถียงและการโอ้อวดทุกชนิดที่ต่อสู้กับความรู้ของพระเป็นเจ้า และเราทำลายความสงสัยในความคิด ทำให้มันเชื่อฟังพระคริสตเจ้า” พระคัมภีร์ยังกระตุ้นเตือนเราว่า
“จงอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ ขอพระจิตเจ้าทรงดลใจคำอธิษฐานวอนขอต่างๆทุกโอกาส จงตื่นเฝ้า
อย่าท้อถอยที่จะวอนขอเพื่อบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย” (อฟ. 6:18)
วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
พลังอำนาจของการสวดภาวนา
นางมอนิกาสวดภาวนาเพื่อลูกชายคนเดียวของเธอที่ดำเนินชีวิตในบาปหนัก เธอสวดภาวนาด้วยสุดจิตใจของเธอ เฝ้าวิงวอนพระเป็นเจ้าโปรดดลใจในออกัสตินลูกชายกลับใจ บางครั้งเธอสวดภาวนาไปร้องไห้ไป พระเป็นเจ้าเป็นเพียงความหวังเดียวของเธอเท่านั้น เพราะลูกชายไม่ฟังคำเตือนของเธอเลย เธอสวดภาวนานานเป็นเวลาหลายปี แล้วในที่สุด ออกัสตินก็ได้พบแสงสว่างจากพระวาจาในพระคัมภีร์ซึ่งสะดุดใจของเขา
วันหนึ่งเขาได้ยินเสียงเด็กร้องเพลงว่า “หยิบขึ้นอ่าน หยิบขึ้นอ่าน” ออกัสตินจึงหยิบพระคัมภีร์ขึ้นมาอ่านและพบตอนที่เขียนว่า “ให้เราเดินไปอย่างซื่อสัตย์ในเวลากลางวัน อย่าเอาแต่ดื้อดึงขัดขืนและดื่มจนเมามาย อย่าเอาแต่เสเพลและทำสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ อย่าทะเลาะวิวาทกันและอิจฉาริษยากัน แต่จงมอบตนเองไว้ในพระเยซูคริสตเจ้า และละทิ้งสิ่งที่เป็นเรื่องของเนื้อหนังและกิเลสตัณหา”
“แสงสว่างเข้ามาเปี่ยมล้นหัวใจของข้าพเจ้า และความมืดมิดและความสงสัยทั้งหลายก็สูญสิ้นมลายไป”
ออกัสตินเขียนเล่าไว้ในเวลาต่อมา
จากคนบาปออกัสตินได้กลายเป็นนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ พระศาสนจักรประกาศให้ท่านเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักร สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะคำภาวนาของนักบุญมอนิกาผู้เป็นมารดา
นักบุญออกัสตินกล่าวว่า “พระเป็นเจ้าทรงรักเราแต่ละคน ราวกับว่าพระองค์มีแต่เราเพียงคนเดียวเท่านั้น”
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
อนุสาวรีย์คุณพ่อการ์โล

พิธีเล็กๆแต่อบอุ่นท่ามกลางลูก
เชิญหีบบรรจุร่างของคุณพ่อการ์โล เดลลา โตร์เร
สู่อนุสาวรีย์แห่งความรัก....อนุสาวรีย์คุณพ่อการ์โล
เดลลา โตร์เร>>>อ่านต่อ
วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560
แง่คิดดีๆชายชราผู้จากไป
>>>อ่านต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)