พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พลังอำนาจของการสวดภาวนา


               นางมอนิกาสวดภาวนาเพื่อลูกชายคนเดียวของเธอที่ดำเนินชีวิตในบาปหนัก  เธอสวดภาวนาด้วยสุดจิตใจของเธอ  เฝ้าวิงวอนพระเป็นเจ้าโปรดดลใจในออกัสตินลูกชายกลับใจ  บางครั้งเธอสวดภาวนาไปร้องไห้ไป  พระเป็นเจ้าเป็นเพียงความหวังเดียวของเธอเท่านั้น  เพราะลูกชายไม่ฟังคำเตือนของเธอเลย  เธอสวดภาวนานานเป็นเวลาหลายปี  แล้วในที่สุด  ออกัสตินก็ได้พบแสงสว่างจากพระวาจาในพระคัมภีร์ซึ่งสะดุดใจของเขา 
                 วันหนึ่งเขาได้ยินเสียงเด็กร้องเพลงว่า “หยิบขึ้นอ่าน หยิบขึ้นอ่าน”  ออกัสตินจึงหยิบพระคัมภีร์ขึ้นมาอ่านและพบตอนที่เขียนว่า “ให้เราเดินไปอย่างซื่อสัตย์ในเวลากลางวัน  อย่าเอาแต่ดื้อดึงขัดขืนและดื่มจนเมามาย  อย่าเอาแต่เสเพลและทำสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ อย่าทะเลาะวิวาทกันและอิจฉาริษยากัน  แต่จงมอบตนเองไว้ในพระเยซูคริสตเจ้า  และละทิ้งสิ่งที่เป็นเรื่องของเนื้อหนังและกิเลสตัณหา”
“แสงสว่างเข้ามาเปี่ยมล้นหัวใจของข้าพเจ้า  และความมืดมิดและความสงสัยทั้งหลายก็สูญสิ้นมลายไป” ออกัสตินเขียนเล่าไว้ในเวลาต่อมา
จากคนบาปออกัสตินได้กลายเป็นนักบุญผู้ยิ่งใหญ่  พระศาสนจักรประกาศให้ท่านเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักร  สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะคำภาวนาของนักบุญมอนิกาผู้เป็นมารดา
นักบุญออกัสตินกล่าวว่า “พระเป็นเจ้าทรงรักเราแต่ละคน  ราวกับว่าพระองค์มีแต่เราเพียงคนเดียวเท่านั้น”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น