พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์4

             ในปี ค.ศ. 1955 หลังการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศมหาอำนาจเหลือเพียง 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา  และ สหภาพโซเวียต โลกแบ่งเป็นสองขั้วอย่างชัดเจนคือ เสรีประชาธิปไตย และคอมมิวนิสต์  ทั้งสองขั้วไม่มีความไว้วางใจกันเลย  หลังสงครามโลกสหรัฐถอนทหารออกจากประเทศในยุโรปตะวันออก  ส่วนโซเวียตยังคงทหารเอาไว้และยังเพิ่มทหารเข้าไปในกรีกและตุรกี ทำให้โซเวียตยึดครองประเทศในยุโรปตะวันออกได้จำนวนมาก 

ยังเกิดเหตุการณ์ที่อาจจะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ขึ้น  ในสมัย ประธานาธิบดีเคนเนดี อเมริกาพยายามแทรกแซงการเมืองภายในของคิวบาด้วยการพยายามโค่นล้มอำนาจของคาสโตรในการยกพลขึ้นบกที่อ่าวหมู ซึ่งล้มเหลว เป็นช่องทางให้โซเวียต โดยครุสชอฟ ใช้ความอ่อนแอของอเมริกาในการไม่ตัดสินใจเด็ดขาดด้วยการ สร้างฐานยิงขีปนาวุธที่คิวบา และขนส่งขีปนาวุธมาจากโซเวียตทางเรือ เนื่องจากเชื่อว่า อเมริกาจะต้องขอเจรจา แต่เมื่อ ประธานาธิบดีเคนเนดี ออกแถลงการณ์ให้โซเวียตถอนเรือกลับโซเวียตและถอนฐานยิงขีปนาวุธออก ไม่อย่างนั้นอเมริกาจะทำสงครามเต็มรูปแบบกับโซเวียต ท่ามกลางความตึงเครียดนี้โซเวียตตัดสินใจถอยออกจากการปฏิบัติภารกิจและกลับโซเวียต  โลกจึงรอดพ้นจากวิกฤตการณ์ไปได้
เกิดสงครามภายในประเทศต่างๆ เช่น เกาหลี เวียตนาม ลาว กัมพูชา วิกฤตการณ์คลองสุเอส  ลัทธิคอมมิวนิสต์แพร่หลายไปในหลายประเทศ
กลับมาที่โปแลนด์

 รัฐบาลโปแลนด์ออกนโยบายให้ประชาชนใช้คูปองสำหรับการปันส่วน
เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจที่วางแผนไว้ที่ส่วนกลางได้รับการแนะนำโดย รัฐบาลคอมมิวนิสต์ซึ่งไม่ยอมให้มีการครอบครองทรัพย์สินส่วนบุคคลในอุตสาหกรรมหรือในส่วนงานบริการ  นโยบายของรัฐบาลทำให้ความสามารถในการทำกำไรและความคิดริเริ่มในอุตสาหกรรมต้องสูญเสียไป ระดับการบริการลดต่ำลง และมีการปันส่วนอาหาร

 
 
คิวที่ด้านหน้าของร้านขายของชำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น