เมื่อวันที่ 13-15 สิงหาคม 2017
นี้มีเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นหลายอย่างในหลายประเทศ เช่น คลื่นสูง 5
เมตรซัดเข้าชายฝั่งของปราซิล พายุทอร์นาโด โคลนถล่ม ไฟป่า น้ำท่วมฯลฯ
เกิดในประเทศต่างๆ ที่ชิลี อินเดีย จีน รัสเซีย ฯลฯ
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์
  ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา”
  ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
(มัทธิว 2:1-12)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2025 สมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์
  ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทางมายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย ชาวกรุงเยรูซาเล็มทุกคนต่างก็วุ่นวายใจไปด้วย พระองค์ทรงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ ตรัสถามเขาว่า “พระคริสต์จะประสูติที่ใด” เขาจึงทูลตอบว่า “ในเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย เพราะประกาศกเขียนไว้ว่า เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่เล็กที่สุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผู้นำคนหนึ่งจะออกมาจากเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้นำอิสราเอล ประชากรของเรา”
  ดังนั้น กษัตริย์เฮโรดทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมืองเบธเลเฮม ทรงกำชับว่า “จงไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด และเมื่อพบพระกุมารแล้ว จงกลับมาบอกให้เรารู้ เราจะได้ไปนมัสการพระองค์ด้วย” เมื่อบรรดาโหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้ และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อเห็นดาวอีกครั้งหนึ่งบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก เขาเข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์ แต่พระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึงกลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น
(มัทธิว 2:1-12)
วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2560
วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560
คริสตชนในอินเดีย
ซิสเตอร์ อลันซา นายัค สมัครเป็นนักบวชเพราะฝูงช้างได้ทำลายบ้านเรือนและไร่นาของผู้ที่สังหารคริสตชน เธอเชื่อว่านี่เป็นพระยุติธรรมของพระเจ้า
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560
การนับถือศาสนาในเกาหลีเหนือ
นายคิม จอง
อุนจึงลงโทษทุกคนที่สงสัยว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อเขา
มีการลงโทษแบบพิเศษสำหรับคนที่ปฏิบัติกิจทางศาสนาหรือสงสัยว่าเขาไม่ใช่พระเจ้า
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560
วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560
คาทอลิกชาวจีนมีชีวิตความเชื่ออย่างไร?
ทั้งๆที่มีความยากลำบาก
พระสันตปาปาฟรังซิสยังทรงปรารถนาที่จะเสด็จไปประเทศจีน
“พ่ออยากจะไปประเทศจีนมาก
พ่อรักประชาชนชาวจีน พ่อรักพวกเขามาก พ่อหวังว่าจะมีความเป็นไปได้ที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เราติดต่อกัน เราพูดคุยกัน และเราจะทำต่อไปเพื่อที่จะเป็นมิตรกับประเทศจีน
ซึ่งมีวัฒนธรรมหลากหลายและมีโอกาสที่จะทำสิ่งดีๆมากมาย
มันจะเป็นความชื่นชมยินดีมาก”
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนกับพระศาสนจักรคาทอลิกถูกจำกัดลงตั้งแต่
เหมา เจ๋อตุงขึ้นมามีอำนาจ ส่งผลทำให้เกิดชุมชนสองชุมชนที่แยกจากกัน ชุมชนหนึ่งคือชุมชนคาทอลิกที่อยู่ใต้อำนาจของรัฐบาลและอีกชุมชนหนึ่งเป็นชุมชนคาทอลิกใต้ดินที่อยู่อย่างลับๆ
เนื่องจากถูกทางการจีนควบคุม
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อธิบายว่าชาวคาทอลิกมีชีวิตอยู่อย่างไรในประเทศจีน
ผู้แต่งคือ Kin Sheung Chiaretto Yan เขากล่าวว่า
“มีเพียงพระศาสนจักรเดียวในประเทศจีน
อย่างไรก็ตามมีสองชุมชนของผู้ที่นับถือ
สืบเนื่องมาจากปัญหาในประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดความยุ่งยากนี้ขึ้น เราเป็นชุมชนที่ประสบกับความทุกข์มากที่สุดและมันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับอีกชุมชนหนึ่ง
และอยู่ร่วมกับพวกเขา
แต่เรากำลังอยู่ในปีแห่งเมตตาธรรม
และนี่เตือนใจเราว่าจะต้องดำเนินไปโดยอาศัยเมตตาธรรมและการประนีประนอมกัน”
พระอัครสังฆราชแซลลีทำงานที่วาติกันในแผนกที่รักผิดชอบทางด้านต่างประเทศกับประเทศต่างๆรวมทั้งประเทศจีนด้วย
ท่านจำได้ถึงวันที่ชุมชนคาทอลิกใต้ดินมีการประกอบพิธีบวชพระสังฆราชสามองค์สำหรับสังฆมณฑลเดียว เพราะถ้าพระสังฆราชองค์ใดถูกจับกุมก็จะมีองค์อื่นมารับหน้าที่แทน
ท่านยังจำได้ถึงช่วงเวลาแห่งความยุ่งยากที่พวกเขาจะต้องเอาชนะให้ได้
“พวกเขาตรวจสอบสถานะของตนเอง
ผมขอพูดว่ามีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ของจีนที่ดีหลายครั้ง หนทางไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่มีความปรารถนาที่จะไปให้ถึงความเห็นที่ตรงกันสำหรับความดีของพระศาสนจักรคาทอลิกและของผู้มีความเชื่อชาวจีนด้วย
เพื่อทำให้เกิดสันติภาพระหว่างประเทศ”
มีการประมาณการว่า
ในแต่ละปีมีชาวจีนหนึ่งหมื่นคนได้รับศีลล้างบาป
ในปี 2050 ประเทศจีนจะกลายเป็นประเทศคริสตศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นี่ไม่เป็นเพียงทำให้ความปรารถนาของพระสันตปาปาสมบูรณ์เท่านั้นแต่ยังเป็นโอกาสที่ทำให้พระองค์เป็นพระสันตปาปาองค์แรกที่เหยียบย่างในประเทศจีนอีกด้วย
วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560
คำสรรเสริญการเข้าสู่สวรรค์ของแม่พระโดยคุณพ่อปีโอ.
ความรักอันศักดิ์สิทธิ์ที่เผาไหม้ในดวงหทัยของพระนางมารีย์ร้อนแรงเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ จนพระกายมนุษย์ของพระนางมิอาจทนทานได้
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560
ข่าวคาทอลิก
เว็ปไซต์ข่าวคาทอลิกในโปแลนด์ Religia Deon.pl ได้สัมภาษณ์ผู้แทนของพระสันตะปาปา (Archbishop Henryk Hoser) ที่ไปเยี่ยมเมดจูกอเรจ์รายงานว่า
“ในเมดจูกอเรจ์
ทุกอย่างไปในทางที่ถูกต้อง”
พระสังฆราชได้ประเมินผลลัพท์ของเมดจูกอเรจ์ไปในทางบวก
และเมื่อถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการรับรองการประจักษ์ ท่านตอบว่า “ทุกอย่างบ่งชี้ว่าการประจักษ์จะได้รับการรับรอง
บางทีอาจจะเป็นในปีนี้”พระสังฆราชกล่าว “ผมคิดว่าการจะรู้ทุกอย่างในทางลึกของเหตุการณ์ในเมดจูกอเรจ์นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะเราต้องเข้าไปในความลึกลับของพระเจ้าและของมนุษย์ และสิ่งนี้เป็นความลับที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ เราทำได้แต่เพียงพิจารณาจากปรากฏการณ์และสถานการณ์ในทางกว้างและในทางลึกเท่านั้นซึ่งสามารถทำได้ แต่เราจะไม่ท้อใจ มีสิ่งที่เป็นเรื่องของจิตซึ่งบ่อยครั้งเป็นที่น่าประหลาดใจและลึกล้ำ มีเพียงพระเป็นเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบถึงสิ่งที่อยู่ในหัวใจของมนุษย์”
แม่ชีชาวอิรักเตรียมตัวที่จะกลับไปโมซุล หลังจากสามปีที่กลุ่มไอซิสขับไล่ออกมา
“ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเป็นเจ้า” ซิสเตอร์คณะโดมินิกันกล่าว
ซิสเตอร์คณะนี้ทำงานท่ามกลางคริสตชนทางตอนเหนือของอิรัก“โมซุลถูกปลดปล่อยแล้ว แต่ทั้งเมืองถูกทำลายไม่เหลือ”
“ต้องใช้เวลาหลายปีในการบูรณะซ่อมแซม แต่ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเป็นเจ้า”
“ไม่ใช่เรื่องง่ายในการตัดสินใจว่าจะกลับไปโมซุลดีหรือไม่ บางคนยังพยายามเข้าใจในน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ถ้ากลุ่มไอซิสพ่ายแพ้ก็ไม่หมายความว่าแผ่นดินนีนาเวห์ปลอดภัยจากความคิดที่รุนแรงนั้น”
บรรดาซิสเตอร์สวดภาวนาด้วยความหวังให้ประชาชนมีความกล้าหาญที่จะกลับยังแผ่นดินบ้านเกิดของพวกเขาและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
“พระเป็นเจ้าทรงอยู่กับพวกเราและจะไม่ทรงละทิ้งพวกเรา” ซิสเตอร์กล่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)