พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ข่าวคาทอลิก




เว็ปไซต์ข่าวคาทอลิกในโปแลนด์ Religia Deon.pl ได้สัมภาษณ์ผู้แทนของพระสันตะปาปา (Archbishop Henryk Hoser) ที่ไปเยี่ยมเมดจูกอเรจ์รายงานว่า
“ในเมดจูกอเรจ์ ทุกอย่างไปในทางที่ถูกต้อง” พระสังฆราชได้ประเมินผลลัพท์ของเมดจูกอเรจ์ไปในทางบวก และเมื่อถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการรับรองการประจักษ์  ท่านตอบว่า “ทุกอย่างบ่งชี้ว่าการประจักษ์จะได้รับการรับรอง บางทีอาจจะเป็นในปีนี้”
พระสังฆราชกล่าว “ผมคิดว่าการจะรู้ทุกอย่างในทางลึกของเหตุการณ์ในเมดจูกอเรจ์นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะเราต้องเข้าไปในความลึกลับของพระเจ้าและของมนุษย์  และสิ่งนี้เป็นความลับที่เราไม่สามารถมองเห็นได้  เราทำได้แต่เพียงพิจารณาจากปรากฏการณ์และสถานการณ์ในทางกว้างและในทางลึกเท่านั้นซึ่งสามารถทำได้  แต่เราจะไม่ท้อใจ  มีสิ่งที่เป็นเรื่องของจิตซึ่งบ่อยครั้งเป็นที่น่าประหลาดใจและลึกล้ำ มีเพียงพระเป็นเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบถึงสิ่งที่อยู่ในหัวใจของมนุษย์”


แม่ชีชาวอิรักเตรียมตัวที่จะกลับไปโมซุล หลังจากสามปีที่กลุ่มไอซิสขับไล่ออกมา
“ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเป็นเจ้า” ซิสเตอร์คณะโดมินิกันกล่าว ซิสเตอร์คณะนี้ทำงานท่ามกลางคริสตชนทางตอนเหนือของอิรัก
“โมซุลถูกปลดปล่อยแล้ว แต่ทั้งเมืองถูกทำลายไม่เหลือ”
“ต้องใช้เวลาหลายปีในการบูรณะซ่อมแซม แต่ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเป็นเจ้า”
“ไม่ใช่เรื่องง่ายในการตัดสินใจว่าจะกลับไปโมซุลดีหรือไม่ บางคนยังพยายามเข้าใจในน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ถ้ากลุ่มไอซิสพ่ายแพ้ก็ไม่หมายความว่าแผ่นดินนีนาเวห์ปลอดภัยจากความคิดที่รุนแรงนั้น”
บรรดาซิสเตอร์สวดภาวนาด้วยความหวังให้ประชาชนมีความกล้าหาญที่จะกลับยังแผ่นดินบ้านเกิดของพวกเขาและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
“พระเป็นเจ้าทรงอยู่กับพวกเราและจะไม่ทรงละทิ้งพวกเรา” ซิสเตอร์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น