พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ข่าวคาทอลิก




เว็ปไซต์ข่าวคาทอลิกในโปแลนด์ Religia Deon.pl ได้สัมภาษณ์ผู้แทนของพระสันตะปาปา (Archbishop Henryk Hoser) ที่ไปเยี่ยมเมดจูกอเรจ์รายงานว่า
“ในเมดจูกอเรจ์ ทุกอย่างไปในทางที่ถูกต้อง” พระสังฆราชได้ประเมินผลลัพท์ของเมดจูกอเรจ์ไปในทางบวก และเมื่อถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการรับรองการประจักษ์  ท่านตอบว่า “ทุกอย่างบ่งชี้ว่าการประจักษ์จะได้รับการรับรอง บางทีอาจจะเป็นในปีนี้”
พระสังฆราชกล่าว “ผมคิดว่าการจะรู้ทุกอย่างในทางลึกของเหตุการณ์ในเมดจูกอเรจ์นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะเราต้องเข้าไปในความลึกลับของพระเจ้าและของมนุษย์  และสิ่งนี้เป็นความลับที่เราไม่สามารถมองเห็นได้  เราทำได้แต่เพียงพิจารณาจากปรากฏการณ์และสถานการณ์ในทางกว้างและในทางลึกเท่านั้นซึ่งสามารถทำได้  แต่เราจะไม่ท้อใจ  มีสิ่งที่เป็นเรื่องของจิตซึ่งบ่อยครั้งเป็นที่น่าประหลาดใจและลึกล้ำ มีเพียงพระเป็นเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบถึงสิ่งที่อยู่ในหัวใจของมนุษย์”


แม่ชีชาวอิรักเตรียมตัวที่จะกลับไปโมซุล หลังจากสามปีที่กลุ่มไอซิสขับไล่ออกมา
“ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเป็นเจ้า” ซิสเตอร์คณะโดมินิกันกล่าว ซิสเตอร์คณะนี้ทำงานท่ามกลางคริสตชนทางตอนเหนือของอิรัก
“โมซุลถูกปลดปล่อยแล้ว แต่ทั้งเมืองถูกทำลายไม่เหลือ”
“ต้องใช้เวลาหลายปีในการบูรณะซ่อมแซม แต่ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเป็นเจ้า”
“ไม่ใช่เรื่องง่ายในการตัดสินใจว่าจะกลับไปโมซุลดีหรือไม่ บางคนยังพยายามเข้าใจในน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ถ้ากลุ่มไอซิสพ่ายแพ้ก็ไม่หมายความว่าแผ่นดินนีนาเวห์ปลอดภัยจากความคิดที่รุนแรงนั้น”
บรรดาซิสเตอร์สวดภาวนาด้วยความหวังให้ประชาชนมีความกล้าหาญที่จะกลับยังแผ่นดินบ้านเกิดของพวกเขาและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
“พระเป็นเจ้าทรงอยู่กับพวกเราและจะไม่ทรงละทิ้งพวกเรา” ซิสเตอร์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น