วันที่ 7 ก.ค. 2016 มีพิธีเปิดเรือสำเภาโนอาห์จำลองอย่างเป็นทางการ ตั้งอยู่ในสวนสาธารณ Grant County, Kentucky เรือจำลองนี้ใช้มาตราส่วนจริงจากเรือโนอาห์ที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์คือ
ยาว 510 ฟุต กว้าง 85 ฟุต และสูง 81 ฟุต
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2024 คำถามเรื่องการหย่าร้าง
  ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระองค์ว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” พระองค์ตรัสตอบว่า “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่าน โมเสสจึงได้เขียนบัญญัติข้อนี้ไว้ แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ผู้ใดหย่าร้างภรรยา และแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม และถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน”
  พระเยซูเจ้าและเด็กเล็ก ๆ
  มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าเพื่อทรงสัมผัสอวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น เมื่อทรงเห็นเช่นนี้ พระองค์กริ้ว ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้ เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็ก ๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเหล่านั้นไว้ ทรงปกพระหัตถ์ และประทานพระพร
(มาระโก 10:2-16)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2024 คำถามเรื่องการหย่าร้าง
  ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระองค์ว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” พระองค์ตรัสตอบว่า “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่าน โมเสสจึงได้เขียนบัญญัติข้อนี้ไว้ แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ผู้ใดหย่าร้างภรรยา และแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม และถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน”
  พระเยซูเจ้าและเด็กเล็ก ๆ
  มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าเพื่อทรงสัมผัสอวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น เมื่อทรงเห็นเช่นนี้ พระองค์กริ้ว ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้ เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็ก ๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเหล่านั้นไว้ ทรงปกพระหัตถ์ และประทานพระพร
(มาระโก 10:2-16)
วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2560
วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560
สาส์นแม่พระวันที่2+25ก.ย.2017
ลูกที่รักทั้งหลาย
แม่ขอร้องพวกลูกให้เป็นผู้มีใจกว้างในการเสียสละ
สวดภาวนา และทำพลีกรรมอดอาหารเพื่อคนเหล่านั้นที่ถูกประจญทดลอง
พวกเขาเป็นพี่น้องชายหญิงของลูก
แม่ขอร้องวิงวอนพวกลูกเป็นพิเศษให้สวดภาวนาเพื่อพระสงฆ์และเพื่อผู้ที่อุทิศถวายตนทุกคน เพื่อที่พวกท่านจะมีความรักในพระเยซูเจ้าอย่างเร่าร้อนมากยิ่งขึ้น
และพระจิตเจ้าจะได้ทรงทำให้หัวใจของพวกท่านเต็มเปี่ยมด้วยความปิติยินดี
เพื่อพวกท่านจะได้เป็นพยานยืนยันแห่งสวรรค์และพระธรรมล้ำลึกแห่งสวรรค์ วิญญาณของคนจำนวนมากอยู่ในบาป เพราะพวกเขาไม่อุทิศถวายตนเองในการสวดภาวนาเพื่อการกลับใจของพวกเขา แม่อยู่กับพวกลูกและกำลังสวดภาวนาเพื่อให้หัวใจของพวกลูกเต็มเปี่ยมด้วยความปิติยินดีขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 ก.ย. 2017
ลูกที่รักทั้งหลาย
ใครเล่าที่สามารถพูดถึงความรักและความเจ็บปวดขององค์พระบุตรได้ดีมากกว่าแม่? แม่อยู่กับพระองค์ แม่ทนทุกข์กับพระองค์
การมีชีวิตในโลกทำให้แม่รู้สึกเจ็บปวดเพราะว่าแม่เป็นแม่คนหนึ่ง
องค์พระบุตรของแม่ทรงรักในความคิดและการงานของพระบิดาสวรรค์ – พระเจ้าเที่ยงแท้
และตามที่พระองค์ทรงบอกกับแม่เอง
พระองค์เสด็จมาเพื่อไถ่กู้พวกลูก
แม่ซ่อนความเจ็บปวดไว้โดยอาศัยความรัก
แต่พวกลูก ลูกทั้งหลายของแม่ ลูกมีความถามมากมาย ลูกไม่เข้าใจในความเจ็บปวด
ลูกไม่เข้าใจว่า ในความรักของพระเป็นเจ้าลูกจำเป็นต้องยอมรับความเจ็บปวดและแบกรับเอาไว้
มนุษย์ทุกคนจะมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย
แต่ด้วยความสงบสันติในจิตใจและในสถานะพระหรรษทานทำให้ความหวังดำรงอยู่ นี่คือองค์พระบุตรของแม่ ผู้ทรงเป็นพระเจ้า ทรงเป็นการกำเนิดของพระเจ้า เมล็ดพันธุ์ของพระองค์เป็นชีวิตนิรันดร เมื่อหว่านลงในจิตวิญญาณจะบังเกิดผลมากมาย
องค์พระบุตรทรงทนรับความเจ็บปวดเพราะพระองค์ทรงแบกรับบาปของพวกลูกไว้ด้วยพระองค์เอง เพราะฉะนั้น
พวกลูก ลูกทั้งหลายของแม่ อัครสาวกแห่งความรักของแม่ ผู้ที่ทนทุกข์
จงรู้ไว้เถิดว่าความเจ็บปวดของพวกลูกจะกลายเป็นแสงสว่างและศักดิ์ศรีอันรุ่งโรจน์ ลูกทั้งหลายของแม่ ขณะที่พวกลูกกำลังแบกรับความเจ็บปวด ขณะที่พวกลูกกำลังทนทุกข์ สวรรค์ได้เข้ามาในตัวลูก
และลูกได้มอบบางส่วนของสวรรค์และความหวังให้แก่ทุกคนที่อยู่รอบๆตัวลูก
ขอขอบใจลูก
ขอขอบใจลูก
วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560
จงสวดภาวนาเพื่อพระสันตะปาปาฟรังซิส
แม่พระทรงแจ้งให้ทราบ
พระสันตะปาปาฟรังซิสจะได้รับความยากลำบาก ทรงขอให้เราสวดภาวนาเพื่อพระองค์
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2560
คริสตชนมาอยู่ในโลกนี้ทำไม
วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560
แม่พระเตือนเกี่ยวกับซาตานและสงคราม
ซาตานมีแผนการณ์ที่จะทำลายสันติภาพ
โจมตีพระศาสนจักรคาทอลิกและควบคุมจิตใจของมนุษย์
โดยอาศัยการสวดภาวนาเราจะสามารถมีชัยชนะต่ออิทธิพลการล่อลวงทุกอย่างของมันได้........
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560
รูปถ่ายที่สวยที่สุด
รูปถ่าย 10
รูปที่สวยงามที่สุดที่ถ่ายได้ขณะเกิดสุริยคลาสที่สหรัฐอเมริกา http://blog.spiritdaily.com/news/best-eclipse-photos
ชายที่ช่วยโลกให้รอดจากสงครามนิวเคลียร์
อดีตพันโทแห่งกองทัพโซเวียต
ผู้ที่ช่วยไม่ให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และกองทัพแดงในช่วงสงครามเย็น
เสียชีวิตแล้วอย่างเงียบๆ ที่บ้านของตัวเองในมอสโก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า
สตานิสลาฟ เปตรอฟ อดีตพันโทแห่งกองทัพสหภาพโซเวียต
ผู้สร้างวีรกรรมที่ชาวโลกส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ ซึ่งช่วยให้โลกไม่ต้องเผชิญสงครามนิวเคลียร์
วีรกรรมของเปตรอฟเกิดขึ้นในวันที่
26 กันยายน ปี 2526 แต่เรื่องราวได้รับการเปิดเผยออกมาในอีกหลายปีให้หลัง
โดยขณะนั้น พันโท เปตรอฟ อายุ 44 ปี ทำงานอยู่ทีศูนย์เตือนภัยนิวเคลียร์ของโซเวียต
แต่ในวันเกิดเหตุ เรดาร์ตรวจพบสัญญาณขีปนาวุธจำนวนมากกำลังเดินทางจากสหรัฐฯ
มุ่งสู่รัสเซีย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อาจเป็นชนวนให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างมหาอำนาจทั้ง
2 ประเทศขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม
นายเปตรอฟเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเองว่า สัญญาณดังกล่าวเป็นการเตือนที่ผิดพลาด
และฝ่าฝืนคำสั่งไม่แจ้งเบื้องบนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที ซึ่งในท้ายที่สุดก็เป็นการเตือนที่ผิดพลาดจริง
โดยผลการสอบสวนในภายหลังชี้ว่า เป็นความผิดพลาดของดาวเทียมโซเวียต ที่ระบุว่า
แสงอาทิตย์ที่สะท้อนกับเมฆเป็นเครื่องยนต์ของขีปนาวุธข้ามทวีป
“ผมมีข้อมูลทุกอย่างที่ชี้ว่ามีการโจมตีโดยขีปนาวุธเกิดขึ้น
ถ้าผมรายงานไปตามสายบังคับบัญชาของผม คงไม่มีใครพูดโต้แย้งเรื่องนี้แน่
สิ่งที่ผมต้องทำก็คือเอืเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ ต่ดสายตรงถึงผู้บังคับบัญชาของเรา
แต่ผมขยับไม่ได้ ผมรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนกระทะร้อนๆ” นายเปตรอฟให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี
ภาษารัสเซีย ในปี 2556
และสุดท้ายเขาก็โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่กองทัพเพื่อแจ้งว่าระบบขัดข้อง
นายเปตรอฟระบุด้วยว่า
หากตัวเขาทำผิดไป ระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีต่อมา แต่ทว่า
หลังจากผ่านไปแล้ว 23 นาที ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้เขาโล่งใจมาก
ทั้งนี้ นายเปตรอฟเสียชีวิตไปตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม
แต่ข่าวการตายของเขาเพิ่งได้รับการเปิดเผยออกมาในเดือนนี้ หลังจาก คาร์ล
ชูมัคเกอร์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวเยอรมัน
และคนแรกที่เผยแพร่วีรกรรมของนายเปตรอฟให้โลกได้รับรู้โทรศัพท์ไปหานายเปตรอฟเพื่อแสดงความยินดีในวันคล้ายวันเกิดเมื่อ
7 กันยายน แต่ ดีมิทรี ลูกชายของเปตรอฟระบุว่า
บิดาของเขาเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นชูมัคเกอร์จึงนำข่าวนี้เผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)