พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างชัยชนะ

           เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินต่อไป เสด็จนำหน้าประชาชนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเสด็จเข้าใกล้หมู่บ้านเบธฟายีและเบธานี ใกล้กับภูเขาที่เรียกกันว่าภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงส่งศิษย์สองคนไป ทรงสั่งว่า ‘จงเข้าไปในหมู่บ้านข้างหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านจะพบลูกลาตัวหนึ่งผูกอยู่ ยังไม่มีใครเคยขี่ลาตัวนั้นเลย จงแก้เชือกและจูงมาให้เราเถิด ถ้าผู้ใดถามว่า ท่านแก้เชือกผูกลาทำไม จงตอบเขาว่า พระอาจารย์ต้องการใช้มัน” ศิษย์ที่พระองค์ทรงสั่ง ได้ไปและพบตามที่พระองค์ทรงบอกเขา ขณะที่เขากำลังแก้เชือกผูกลูกลาอยู่ เจ้าของลาถามว่า ‘ท่านแก้เชือกลูกลาทำไม’ ศิษย์ทั้งสองคนก็ตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการใช้มัน’ ศิษย์ทั้งสองคนจูงลูกลามาถวายพระเยซูเจ้า ปูเสื้อคลุมของตนบนหลังลา แล้วทูลเชิญพระเยซูเจ้าให้ทรงลาตัวนั้น ขณะที่พระองค์เสด็จไป ประชาชนปูเสื้อคลุมของตนบนทาง เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ทางลงจากภูเขามะกอกเทศแล้ว บรรดาศิษย์ต่างมีความชื่นชมยินดี โห่ร้องสรรเสริญพระเจ้าเพราะการอัศจรรย์ทุกอย่างที่เขาเห็นว่า
           ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์ผู้เสด็จมา
           ในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
           สันติจงมีในสวรรค์
           และพระสิริรุ่งโรจน์จงมีในที่สูงสุด
           ชาวฟาริสีบางคนในหมู่ประชาชนทูลพระองค์ว่า ‘พระอาจารย์ จงห้ามบรรดาศิษย์ของท่านเถิด’ พระองค์ตรัสตอบว่า ‘เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนเหล่านี้นิ่งเงียบ ก้อนหินทั้งหลายจะส่งเสียงตะโกน’
(ลูกา 19:28-40 (บทอ่านก่อนแห่ใบลาน))








วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2566

คริสตชนทุกนิกายจะรวมกัน


11 ตุลาคม 2504: การาบังดัล
คำชี้แจงครั้งแรกของการเปิดเผยที่สำคัญของวันที่ 1 ตุลาคม 1961: 
อนาคตของ "การเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ของคริสตชนทุกคนนิกาย" 
การสนทนาระหว่างคุณพ่อหลุยส์(Father Luis)กับผู้เห็นแม่พระแห่งการาบังดัล ดูเหมือนว่าสำหรับเราแล้วจะเป็นไปในเชิงบวกสำหรับคริสตชนเสมอ เนื่องในวันสมโภชพระนางมารีย์พระชนนีของพระเจ้า,คุณพ่อหลุยส์และคอนชิตาพูดถึงคำทำนายพิเศษนี้ซึ่งแม่พระทรงเปิดเผยบางส่วนแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา: "อา คริสตจักรต่างๆจะกลับมารวมกันอีกครั้ง . . . ใช่ค่ะ,พวกเขาจะกลับมารวมกันอีกครั้ง! . . " คอนชิตารู้สึกยินดีกับการลงข่าวคำทำนายนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 1965 เธอได้พูดมาแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 1961 เธอได้ยืนยันความถูกต้องของการเปิดเผยอันยิ่งใหญ่นั้นต่อบรรณาธิการชาวเยอรมัน อัลเบรชท์ เวเบอร์ เธอยังชี้แจงถึงสิ่งที่พระแม่มารีย์ทรงบอกเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งใหญ่ของพระศาสนจักรที่จะมาถึง 
“พระนาง (แม่พระ) บอกเราอีกครั้งว่าคริสตจักรที่แตกแยกจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง จะมี 'ศาสนา' เพียงหนึ่งเดียว คำแปลที่ดีกว่า: "คริสตจักรคริสเตียนจะเป็นหนึ่งเดียวในพระศาสนจักรคาทอลิก" เมื่อพิจารณาถึงการเปิดเผยเชิงพยากรณ์ดังกล่าว ความหมายและขอบเขตของ "พระศาสนจักรหนึ่งเดียว สากล(คาทอลิก),สืบเนื่องมาจากอัครสาวก, และพระศาสนจักรแห่งโรมัน" ที่บรรดาผู้เห็นแม่พระแห่งการาบังดัลประกาศด้วยความปีติยินดีเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 สิงหาคม 1961 ในขณะที่พวกเขาอยู่ในญาณนิมิตและกำลังสวดบทข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้า 
นำมาจากหนังสือ 'Garabandal', J. Serre, หน้า 107

วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566

หอบาเบลแห่งยุคปัจจุบัน


เราเข้าสู่การต่อสู้ขั้นเด็ดขาดกับมังกรแดงแห่งพระวิวรณ์เพื่อพิชิตความคิดสัมพัทธภาพและความจริงเชิงอัตวิสัยด้วยพระหรรษทานของพระเจ้า
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2566

พระเมตตาของพระเยซูเจ้า


พระเยซูตรัสกับวิญญาณที่สิ้นหวัง 
พระเยซู: โอ วิญญาณที่จมอยู่ในความมืด … . จงมาและวางใจในพระเจ้าของเจ้า,ผู้ทรงเป็นความรักและพระเมตตาเถิด 
- แต่วิญญาณ,ที่หูหนวกแม้แต่คำวิงวอนนี้, เขากลับห่อหุ้มตัวเองอยู่ในความมืด 
พระเยซูทรงร้องอีกครั้งว่า ลูกเอ๋ย,จงฟังเสียงของพระบิดาผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตาเถิด 
— แต่วิญญาณตอบด้วยคำนี้: “สำหรับข้าพเจ้าไม่มีความเมตตา” ทำให้วิญญาณตกอยู่ในความมืดที่ยิ่งใหญ่กว่า … . 
พระเยซูทรงเรียกวิญญาณนี้เป็นครั้งที่สาม,แต่วิญญาณยังคงหูหนวก, ตาบอด, ใจแข็งกระด้างและสิ้นหวัง จากนั้นพระเมตตาของพระเจ้าก็เริ่มแสดงออก, และ,โดยปราศจากความร่วมมือใดๆจากวิญญาณ,พระเจ้าก็ประทานพระหรรษทานสุดท้ายแก่วิญญาณ … วิญญาณรู้ดีว่าสิ่งนี้สำหรับเธอคือพระหรรษทานสุดท้าย,และหากแสดงความปรารถนาดีเพียงเล็กน้อย,พระเมตตาของพระเจ้าก็จะบรรลุผลในส่วนที่เหลือ 
พระเมตตาที่ทรงฤทธานุภาพทุกประการของเราซึ่งสัมฤทธิ์ผล,อยู่ที่นี่แล้ว,วิญญาณที่ใช้ประโยชน์จากพระหรรษทานนี้ก็เป็นสุข (ไดอารี่, 1486) 

วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2566

วันพุธที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2566

มอบของขวัญอะไรให้พระกุมารเยซูดี


นักบุญเจอโรม (347-420) เป็นพระสงฆฆ์ชาวดัลเมเชียน,ท่านเป็นนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่และเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักร ท่านเป็นผู้แปลพระคัมภีร์จากภาษากรีกเป็นภาษาละตินคนแรก 
นักบุญเจอโรม พักอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในเมืองเบธเลเฮมใกล้กับสถานที่ประสูติของพระเยซู ครั้งหนึ่ง,ในคืนวันคริสต์มาส,ท่านกำลังนั่งพิจารณาไตร่ตรองเกี่ยวกับการประสูติของพระเยซู และคิดว่าเขาจะมอบของขวัญอะไรให้กับพระเยซูได้ ทันใดนั้นเขาก็มีนิมิต 
พระเยซูกุมารทรงปรากฏต่อหน้าเขา,ท่ามกลางแสงที่เจิดจ้าและสุกใสและถามเขาว่า “เจอโรม ท่านจะมอบอะไรเป็นของขวัญวันเกิดแก่เรา? "
นักบุญเจอโรมตอบในญาณนิมิตนั้น “โอ พระกุมารแห่งสวรรค์, ข้าพเจ้าขอมอบหัวใจของข้าพเจ้าให้กับพระองค์” “ใช่ แต่มอบสิ่งอื่นอีกสิ” พระเยซูกุมารทรงร้องขอ “ข้าพเจ้าขอมอบคำภาวนาและความรักแห่งหัวใจของข้าพเจ้าทั้งหมดแก่พระองค์” นักบุญตอบ 
พระกุมารศักดิ์สิทธิ์ทรงร้องขอมากขึ้นและมากขึ้น 
ในที่สุด นักบุญเจอโรมกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะมอบทุกสิ่งที่ข้าพเจ้ามีและทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าเป็น” 
ถึงกระนั้น, พระเยซูกุมารก็ยังทรงต้องการมากกว่านี้ ตอนนี้นักบุญเจอโรมไม่มีคำตอบ เขาจึงถามว่า “ข้าแต่พระกุมารผู้ศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้าไม่มีอะไรอีกแล้ว ข้าพเจ้าจะมอบอะไรแด่พระองค์ได้อีกหรือ” 
พระเยซูกุมารทรงตอบด้วยรอยยิ้มบนพระพักตร์ของพระองค์ว่า “เจอโรม, จงมอบบาปของท่านแก่เรา” 
นักบุญเจอโรมค่อนข้างงุนงงจึงถามว่า “พระเจ้าข้า พระองค์จะทรงทำอะไรกับบาปของข้าพเจ้า?” 
“จงมอบบาปของท่านแก่เรา เพื่อเราจะได้อภัยบาปทั้งหมดของท่าน” พระกุมารตรัสตอบ เมื่อได้ยินดังนี้ นักบุญเจอโรมก็ร้องไห้ด้วยความยินดีและความรักต่อพระเยซูผู้เปี่ยมด้วยความรัก 

วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566

สาส์นจากแม่พระแห่งกัวดาลูเป

               สาส์นที่สนับสนุนชีวิต(Pro-Life)สำหรับปัจจุบันนี้จากแม่พระแห่งกัวดาลูเป 
ภาพแม่พระแห่งกัวดาลูเปที่มีชื่อเสียงระดับโลกเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์บนผืนผ้าที่ทอด้วยเส้นใยจากต้นกระบองเพชรหรือเสื้อคลุม "agave" (tilma ทิลมา) ของชาวนาชาวเม็กซิกันในปี 1531 และทำให้เกิดการกลับใจของชาวอินเดียนแดงสิบสองล้านคน ปัจจุบันได้รับการเคารพเทิดทูนว่าเป็นสัญลักษณ์ของ "การสนับสนุนชีวิต"(pro-life) ในทวีปอเมริกา 
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2007 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่รัฐสภาออกกฏหมายให้การทำแท้งเป็นสิ่งถูกกฎหมายในเม็กซิโก, หลังจากที่พิธีมิสซาสำหรับทารกในครรภ์ที่ไม่ได้ถือกำเนิดในมหาวิหารซึ่งมีพระรูปแม่พระแห่งกัวดาลูเปอัศจรรย์ประดิษฐานอยู่ ทันใดนั้น,แสงที่เจิดจ้ามากก็ปรากฏขึ้นบนทิลมา, ในตำแหน่งระดับพระครรภ์ แสงปรากฏเป็นรัศมีแวววาว เป็นรูปคล้ายทารกวัยเริ่มแรกในครรภ์มารดา ผู้เชี่ยวชาญให้การเป็นพยานว่านี่ไม่ใช่ภาพสะท้อนหรือสิ่งที่ทำเพิ่มเติมเข้ามา แต่มาจากทิลมาและอยู่ในตำแหน่งที่แน่นอนของมดลูกของผู้หญิง พยานสามารถถ่ายรูปและบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หนึ่งชั่วโมงเต็ม 
คุณพ่อหลุยส์ มาตอส Father Luis Matos) แห่งชุมชน the Beatitudes Community เขียนว่า: 
“วิศวกร หลุยส์ จิโรลต์ (Luis Girault)ผู้ศึกษาภาพหนึ่งของรูปถ่ายที่มีแสงนี้,ได้ยืนยันความน่าเชื่อถือของแสง และสามารถระบุได้ว่าแสงนั้นไม่ได้ถูกการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงด้วยการซ้อนทับของภาพอื่น เขาได้ค้นพบว่าภาพนั้นไม่ได้เกิดจากการสะท้อนกลับแต่แท้จริงแล้วมาจากด้านในของพระรูปแม่พระนั่นเอง แสงที่ได้จะขาวมาก,บริสุทธิ์และเข้มข้น ต่างจากแสงที่ส่องมาจากแฟลชของกล้องถ่ายภาพ แสงมีรัศมีล้อมรอบคล้ายลอยอยู่ในท้องของแม่พระ รัศมีนี้มีรูปร่างและสัดส่วนเหมือนทารกวัยอ่อน ถ้าจะพิจารณาภาพนี้ให้ละเอียดยิ่งขึ้นโดยหมุนเป็นระนาบซากิทัล(sagittal plane) ก็จะสามารถแยกแยะภายใน halo ภายในบริเวณรัศมีได้ โดยมีลักษณะเป็นตัวอ่อนมนุษย์(human embryo)ในครรภ์มารดา”