พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566

สาส์นจากแม่พระแห่งกัวดาลูเป

               สาส์นที่สนับสนุนชีวิต(Pro-Life)สำหรับปัจจุบันนี้จากแม่พระแห่งกัวดาลูเป 
ภาพแม่พระแห่งกัวดาลูเปที่มีชื่อเสียงระดับโลกเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์บนผืนผ้าที่ทอด้วยเส้นใยจากต้นกระบองเพชรหรือเสื้อคลุม "agave" (tilma ทิลมา) ของชาวนาชาวเม็กซิกันในปี 1531 และทำให้เกิดการกลับใจของชาวอินเดียนแดงสิบสองล้านคน ปัจจุบันได้รับการเคารพเทิดทูนว่าเป็นสัญลักษณ์ของ "การสนับสนุนชีวิต"(pro-life) ในทวีปอเมริกา 
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2007 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่รัฐสภาออกกฏหมายให้การทำแท้งเป็นสิ่งถูกกฎหมายในเม็กซิโก, หลังจากที่พิธีมิสซาสำหรับทารกในครรภ์ที่ไม่ได้ถือกำเนิดในมหาวิหารซึ่งมีพระรูปแม่พระแห่งกัวดาลูเปอัศจรรย์ประดิษฐานอยู่ ทันใดนั้น,แสงที่เจิดจ้ามากก็ปรากฏขึ้นบนทิลมา, ในตำแหน่งระดับพระครรภ์ แสงปรากฏเป็นรัศมีแวววาว เป็นรูปคล้ายทารกวัยเริ่มแรกในครรภ์มารดา ผู้เชี่ยวชาญให้การเป็นพยานว่านี่ไม่ใช่ภาพสะท้อนหรือสิ่งที่ทำเพิ่มเติมเข้ามา แต่มาจากทิลมาและอยู่ในตำแหน่งที่แน่นอนของมดลูกของผู้หญิง พยานสามารถถ่ายรูปและบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หนึ่งชั่วโมงเต็ม 
คุณพ่อหลุยส์ มาตอส Father Luis Matos) แห่งชุมชน the Beatitudes Community เขียนว่า: 
“วิศวกร หลุยส์ จิโรลต์ (Luis Girault)ผู้ศึกษาภาพหนึ่งของรูปถ่ายที่มีแสงนี้,ได้ยืนยันความน่าเชื่อถือของแสง และสามารถระบุได้ว่าแสงนั้นไม่ได้ถูกการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงด้วยการซ้อนทับของภาพอื่น เขาได้ค้นพบว่าภาพนั้นไม่ได้เกิดจากการสะท้อนกลับแต่แท้จริงแล้วมาจากด้านในของพระรูปแม่พระนั่นเอง แสงที่ได้จะขาวมาก,บริสุทธิ์และเข้มข้น ต่างจากแสงที่ส่องมาจากแฟลชของกล้องถ่ายภาพ แสงมีรัศมีล้อมรอบคล้ายลอยอยู่ในท้องของแม่พระ รัศมีนี้มีรูปร่างและสัดส่วนเหมือนทารกวัยอ่อน ถ้าจะพิจารณาภาพนี้ให้ละเอียดยิ่งขึ้นโดยหมุนเป็นระนาบซากิทัล(sagittal plane) ก็จะสามารถแยกแยะภายใน halo ภายในบริเวณรัศมีได้ โดยมีลักษณะเป็นตัวอ่อนมนุษย์(human embryo)ในครรภ์มารดา”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น