พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566

คำขอร้องของแม่พระ


พระนางพรหมจารีย์มารีย์ทรงขอความช่วยเหลือจากเรา แต่เพื่อที่จะช่วยเหลือพระนาง, เราจำเป็นต้องมีความตระหนักรู้ว่า เหตุผลที่พระนางทรงมาที่ฟาติมาก็เพื่อร้องขอคำภาวนาของเรา,โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสวดสายประคำทุกวัน 
พระนางยังขอให้เราสวมสายจำพวกและถวายตัวของเราแด่พระหทัยนิรมลของพระนาง 
โลกอยู่ในภาวะของการละทิ้งความเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้น การละทิ้งความเชื่อได้รุกรานเข้ามาในพระศาสนจักร นั่นคือสิ่งที่อยู่ในความลับแห่งฟาติมาข้อที่สาม ความลับข้อที่สามหมายถึงการละทิ้งความเชื่อในพระศาสนจักรเอง 
นักบุญอาธานาซีอุสบอกเราว่า พื้นฐานของความรอดของเราคือความเชื่อคาทอลิก บทแสดงความเชื่อคือสิ่งที่นักบุญอาธานาซีอุสอ้างถึง ท่านบอกเราว่า "ผู้ที่ปรารถนาที่จะได้รับความรอดจะต้องยึดมั่นในความเชื่อคาทอลิก,ทุกอย่างและทุกประการ" สังคายนาวาติกันครั้งที่หนึ่งบอกเราว่าไม่มีข้ออ้าง,ไม่มีเหตุผลใดที่คาทอลิกจะละทิ้งความเชื่อ 
ที่มา: Jesus Tells Us "Make It Known" 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น