พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ชีวิตฝ่ายจิต


ขั้นแรก ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยเมล็ดพันธ์เล็กๆของการรับศีลล้างบาปของเรา จากนั้นชีวิตก็เติบโตขึ้น, สำหรับคริสตชนคนใดก็ตาม นี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัย หรือเราเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เลยก็ได้ นักบุญบรูโน, วันหนึ่งท่านได้ยินเสียงเบาๆจากที่หนึ่งในลักษณะที่ไม่อาจต้านทานได้ เสียงนั้นคือจงทิ้งทุกสิ่งเพื่อพระเจ้าเท่านั้น เป็นคำเชื้อเชิญภายในใจ แต่ท่านต้องเลือก เพื่อทำตามการเรียกนี้ ท่านจะต้องละทิ้งทุกสิ่งโดยสิ้นเชิง นั่นคือ หนีจากโลกและหันไปหาพระเจ้าเท่านั้น เป็นการหลุดพ้นจากสิ่งสร้างและผูกพันกับพระเจ้า 
สำหรับนักบุญบรูโน,สิ่งนี้สามารถบรรลุได้เฉพาะในชีวิตที่อุทิศให้กับความรักของพระคริสต์อย่างเต็มที่ ด้วยการเสริมสร้างชีวิตภายในของตนเอง ไปจนถึงการสวดภาวนา,การอยู่ในความลับแห่งความสันโดษ นักบุญบรูโนเขียนถึงราล์ฟเพื่อนของท่าน,เล่าให้เขาฟังว่า ความสันโดษทำให้แม่ชีผู้นั้น “อยู่กับตัวเอง” ซึ่งในความเป็นจริงหมายถึง: การปรากฏเบื้องพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าในส่วนลึกของหัวใจของเธอ ในลักษณะที่จิตใจมีสถานะที่มั่นคง 
 จากนั้นบทสนทนาส่วนตัวกับองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เกิดขึ้น การสนทนาระหว่างเจ้าสาวกับพระคริสต์,ผู้เป็นเจ้าบ่าวของเธอ ความผูกพันเริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้นในความรัก แต่ในสถานะ “ฉันกับพระองค์” นี้ ก็เป็นสิ่งที่ปรากฏในพระศาสนจักรทั้งมวลด้วย เพราะพระศาสนจักรมีพระคริสต์เป็นเจ้าบ่าวเพียงผู้เดียว ในเวลาเดียวกัน, เจ้าสาวก็คือพระศาสนจักรผู้เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ ได้รับการบำรุงเลี้ยงด้วยอาหารแห่งพระวาจาและปังแห่งศีลมหาสนิท แม่ชีผู้นั้นจึงมุ่งหน้าสู่เส้นทางที่จะยิ่งทำให้เธอมีความรักมากขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตอันซ้ำซากจำเจของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น