พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2025 สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า

         & ประชาชนรู้จึงติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสสอนเขาเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ทรงรักษาคนที่ต้องการการบำบัดรักษา เมื่อจวนถึงเวลาเย็น อัครสาวกสิบสองคนมาทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด” ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน” เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง
(ลูกา 9:11-17)








วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ชีวิตฝ่ายจิต


ขั้นแรก ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยเมล็ดพันธ์เล็กๆของการรับศีลล้างบาปของเรา จากนั้นชีวิตก็เติบโตขึ้น, สำหรับคริสตชนคนใดก็ตาม นี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัย หรือเราเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เลยก็ได้ นักบุญบรูโน, วันหนึ่งท่านได้ยินเสียงเบาๆจากที่หนึ่งในลักษณะที่ไม่อาจต้านทานได้ เสียงนั้นคือจงทิ้งทุกสิ่งเพื่อพระเจ้าเท่านั้น เป็นคำเชื้อเชิญภายในใจ แต่ท่านต้องเลือก เพื่อทำตามการเรียกนี้ ท่านจะต้องละทิ้งทุกสิ่งโดยสิ้นเชิง นั่นคือ หนีจากโลกและหันไปหาพระเจ้าเท่านั้น เป็นการหลุดพ้นจากสิ่งสร้างและผูกพันกับพระเจ้า 
สำหรับนักบุญบรูโน,สิ่งนี้สามารถบรรลุได้เฉพาะในชีวิตที่อุทิศให้กับความรักของพระคริสต์อย่างเต็มที่ ด้วยการเสริมสร้างชีวิตภายในของตนเอง ไปจนถึงการสวดภาวนา,การอยู่ในความลับแห่งความสันโดษ นักบุญบรูโนเขียนถึงราล์ฟเพื่อนของท่าน,เล่าให้เขาฟังว่า ความสันโดษทำให้แม่ชีผู้นั้น “อยู่กับตัวเอง” ซึ่งในความเป็นจริงหมายถึง: การปรากฏเบื้องพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าในส่วนลึกของหัวใจของเธอ ในลักษณะที่จิตใจมีสถานะที่มั่นคง 
 จากนั้นบทสนทนาส่วนตัวกับองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เกิดขึ้น การสนทนาระหว่างเจ้าสาวกับพระคริสต์,ผู้เป็นเจ้าบ่าวของเธอ ความผูกพันเริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้นในความรัก แต่ในสถานะ “ฉันกับพระองค์” นี้ ก็เป็นสิ่งที่ปรากฏในพระศาสนจักรทั้งมวลด้วย เพราะพระศาสนจักรมีพระคริสต์เป็นเจ้าบ่าวเพียงผู้เดียว ในเวลาเดียวกัน, เจ้าสาวก็คือพระศาสนจักรผู้เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ ได้รับการบำรุงเลี้ยงด้วยอาหารแห่งพระวาจาและปังแห่งศีลมหาสนิท แม่ชีผู้นั้นจึงมุ่งหน้าสู่เส้นทางที่จะยิ่งทำให้เธอมีความรักมากขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตอันซ้ำซากจำเจของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น