พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2025 สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า

         & ประชาชนรู้จึงติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสสอนเขาเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ทรงรักษาคนที่ต้องการการบำบัดรักษา เมื่อจวนถึงเวลาเย็น อัครสาวกสิบสองคนมาทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด” ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน” เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง
(ลูกา 9:11-17)








วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

นักบุญมาร์กาเร็ต มารี ช่วยวิญญาณพระสงฆ์ในไฟชำระ


ขณะที่ฉันกำลังสวดภาวนาต่อหน้าศีลมหาสนิทในวันฉลองพระคริสตวรกาย(feast of Corpus Christi) จู่ๆก็มีบุคคลที่ถูกห่อหุ้มด้วยไฟมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน จากสภาพที่น่าเวทนาซี่งวิญญาณอยู่ในนั้น,ฉันก็รู้ว่าเขากำลังอยู่ในไฟชำระและฉันก็ร้องไห้อย่างขมขื่น 
วิญญาณนี้บอกฉันว่าเขาเป็นพระสงฆ์ในคณะเบเนดิกติน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยฟังการสารภาพบาปของฉันและสั่งให้ฉันไปรับศีลมหาสนิท เพื่อเป็นรางวัลสำหรับสิ่งนี้,พระเจ้าทรงอนุญาตให้เขามาขอให้ฉันช่วยเขาในความทุกข์ทรมานของเขา เขาขอให้ฉันทำทุกสิ่งเพื่ออุทิศให้เขา,ทุกสิ่งที่ฉํนควรทำหรือยอมรับทนทุกข์เป็นเวลาสามเดือน เมื่อได้การอนุญาตจากคุณแม่อธิการแล้ว,ฉันก็ทำตามที่เขาขอ 
เขาบอกฉันว่าสาเหตุใหญ่ที่สุดของความทุกข์ทรมานของเขาคือในช่วงชีวิตบนโลกของเขา,เขาสนใจเรื่องผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของพระเจ้า เพราะเขายึดติดกับชื่อเสียงที่ดีของเขามากเกินไป ข้อบกพร่องประการที่สองของเขาคือขาดความเมตตากรุณาต่อพี่น้องของเขา อย่างที่สามคือการยึดติดกับสิ่งต่างๆของโลก คงเป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะบรรยายถึงสิ่งที่ฉันต้องยอมรับด้วยความอดทนในช่วงเวลาสามเดือนนั้น 
เขา [พระสงฆ์] ไม่เคยจากฉันไปแลยและฉันเห็นเขาบ่อยๆ,ขณะที่ถูกไฟเผาไหม้อย่างเจ็บปวดสาหัสเช่นนี้ ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากคร่ำครวญและร้องไห้แทบไม่หยุดหย่อน คุณแม่อธิการของฉัน,สัมผัสถึงความน่าสงสาร,จึงบอกให้ฉันทำพลีกรรมอย่างหนัก,โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิบัติตามพระวินัย . . ผ่านมาได้ 3 เดือน,ฉันเห็นวิญญาณของเขาเปล่งแสงด้วยความสุข, ความยินดี, และสิริรุ่งโรจน์. เขากำลังจะมีความสุขชั่วนิรันดร์ และเพื่อขอบคุณฉัน เขาบอกว่าเขาจะปกป้องฉันเมื่อเขาอยู่กับพระเจ้า” 
- นักบุญ มาร์กาเร็ต มารี อาลาก๊อก อัครสาวกแห่งดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น