พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ปีศาจมาประจญพระเยซูเจ้า

           พระเยซูเจ้าทรงได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมทรงพระดำเนินจากแม่น้ำจอร์แดน พระจิตเจ้าทรงนำพระองค์ไปยังถิ่นทุรกันดาร ทรงถูกปีศาจผจญเป็นเวลาสี่สิบวัน ตลอดเวลานั้นพระองค์มิได้เสวยสิ่งใดเลย ในที่สุด ทรงหิว ปีศาจจึงทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า จงสั่งให้หินก้อนนี้กลายเป็นขนมปังเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่ามนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น” ปีศาจจึงนำพระองค์ไปยังที่สูงแห่งหนึ่ง แสดงให้พระองค์ทอดพระเนตรอาณาจักรต่าง ๆ ของโลกทั้งหมดในคราวเดียว และทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะให้อำนาจและความรุ่งเรืองของอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแก่ท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้ผู้ใดก็ได้ตามความปรารถนา ดังนั้น ถ้าท่านกราบนมัสการข้าพเจ้า ทุกสิ่งจะเป็นของท่าน” พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
           ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น’”
           ปีศาจนำพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม วางพระองค์ลงที่ยอดพระวิหาร แล้วทูลว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงกระโจนลงไปเบื้องล่างเถิด เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘พระเจ้าจะทรงสั่งทูตสวรรค์ให้พิทักษ์รักษาท่าน’ และยังมีเขียนอีกว่า ‘ทูตสวรรค์จะคอยพยุงท่านไว้มิให้เท้ากระทบหิน’” แต่พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลย” เมื่อปีศาจทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว จึงแยกจากไป
(ลูกา 4:1-13)








วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

คำแนะนำของคุณแม่เทเรซา


“จงอยู่ใกล้ชิดกับคนที่คุณรักเสมอ, แต่อยู่ในระยะห่างที่เหมาะสมเพื่อไม่ทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก, มีหูที่เอาใจใส่เพื่อคอยช่วยเหลือ, พร้อมด้วยความหวานและความอ่อนโยนมากๆที่จะทำให้พวกเขารู้สึกถึงความรัก กำจัดความอิจฉาไปเสีย: เพราะมันเป็นที่ปรึกษาที่ไม่ดี แล้วนั้นเตรียมตัวคุณให้พร้อมด้วยความจริงใจทั้งหมดที่คุณสามารถทำได้เพื่อปลูกและเติบโตในพวกเขาซึ่งดอกไม้แห่งความไว้วางใจ รู้จักที่จะอยู่ห่างๆ, ห่างไกลจากความหน้าซื่อใจคดเพราะมันเป็นเหมือนโรคร้าย 
 - คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา 

วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ผู้หิวกระหายความขอบธรรมย่อมเป็นสุข


พระเยซูไม่ได้ตรัสว่า ผู้ปรารถนาความชอบธรรมย่อมเป็นสุข มีความแตกต่างระหว่างความปรารถนาในบางอย่าง กับ ความหิวกระหายในบางอย่างซึ่งเกี่ยวกับอาหารหรือน้ำ ผมสามารถปรารถนาอยากได้รถหรูลัมโบกีนี และถ้าผมไม่ได้รับตามที่ปรารถนา ผมก็ไม่เป็นทุกข์ร้อน ผมไม่ต้องดิ้นรนให้ได้รถมาครอบครอง ผมยังคงใช้ชีวิตอยู่ต่อไปเป็นปกติ แต่ถ้าผมหิวกระหายในอาหารหรือน้ำ ถ้าผมไม่ได้รับอาหารหรือน้ำตามต้องการ,ผมก็จะรู้สึกเป็นทุกข์ ผมต้องพยายามแสวงหาอาหารและน้ำเพื่อประทังความหิวกระหาย มิฉะนั้นผมอาจจะตายได้ เพราะฉะนั้น,เมื่อพระเยซูตรัสว่า หิวกระหายความชอบธรรม นั่นหมายความว่า ความชอบธรรมนั้นเป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกับอาหารหรือน้ำ ซึ่งถ้าเราไม่ได้รับความชอบธรรม,เราก็จะเป็นทุกข์ร้อน และพยายามแสวงหาความชอบธรรมจนกว่าจะได้รับ เมื่อได้รับแล้วเราก็เป็นสุข เช่นเดียวกับอาหารและน้ำที่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในชีวิต ความชอบธรรมก็มีความสำคัญเป็นอันดับแรกเช่นกัน เพราะพระเยซูตรัสในพระวรสารว่า “จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งให้เอง”(มัทธิว 6:33) 

วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567

พระเจ้าไม่ยอมแพ้ความใจกว้าง


ยิ่งเรามอบตัวเราเองให้พระเจ้า,ยิ่งเรามอบตัวเราให้พระศาสนจักร,ยิ่งเรารับใช้ซึ่งกันและกัน พระเจ้ายิ่งทรงประทานคืนกลับมาให้เรามากกว่า ยิ่งเราทำตามพระประสงค์ของพระเจ้ามากเท่าไร,ยื่งเราเปลี่ยนแปลงตัวเองในชีวิตของเรา,เราจะยิ่งได้รับบุญกุศลระดับสูง เราจะได้รับเกียรติ,สง่าราศีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในสวรรค์ ถ้าเราใจกว้างต่อพระเจ้า,พระเจ้าทรงประทานให้เราเช่นเดียวกัน ดังที่เขียนไว้ว่า จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นอันดับแรก แล้วทุกสิ่งจะประทานแก่ท่าน และไม่ใช่แค่วัตถุสิ่งของชั่วคราวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งของทางด้านจิตใจด้วย อันได้แก่ ความยินดี,สันติสุข,ความอดทน,ความเมตตากรุณา,ความอ่อนโยน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง พระเจ้าจะทรงประทานให้เรา,ถ้าเรามีใจกว้างต่อพระองค์และต่อพระประสงค์ของพระองค์ นักบุญออกัสตินกล่าวว่า พระเยซูตรัสว่า ท่านให้เราเพียงเล็กน้อย,เราจะให้กลับคืนเป็นอย่างมาก ท่านให้สิ่งของชั่วคราวแก่เรา,เราให้สิ่งของสวรรค์แก่ท่าน ท่านให้สิ่งที่สูญสลายไปได้แก่เรา,เราให้นิรันดรแก่ท่าน  

วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2567

ใครคือผู้เหยียบหัวของซาตาน


ถ้าพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าทรงเหยียบหัวของซาตานด้วยพระองค์เอง ซาตานสามารถพูดได้ว่า มันถูกพระผู้สูงสุด,ผู้ทรงเป็นนิรันดรเหยียบหัวของมัน เพราะฉะนั้นมันก็อยู่เหนือสิ่งสร้างอื่นๆ เพราะมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถเหยียบหัวมันได้ นั่นทำให้ซาตานสามารถคุยโวโอ้อวดและมีใจหยิ่งผยองอีกต่อไป 
พระเจ้าทรงใช้เครื่องมือในการทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ พระองค์ทรงใช้คุณ,ใช้ผมในแผนการณ์ไถ่กู้ของพระองค์ แล้วใครที่เป็นผู้เหยียบหัวงูร้าย,ซึ่งเป็นปีศาจที่ประจญพระเยซูในทะเลทราย ผู้นั้นคือผู้ที่บริสุทธิ์ปราศจากบาป คือสตรีผู้หนึ่ง,พระนางมารีย์พรหมจารีย์ ตามที่พระคัมภีร์ปฐมกาล 3:15 กล่าวไว้ว่า “เราจะทำให้เจ้าและหญิงเป็นศัตรูกัน ให้ลูกหลานของเจ้าและลูกหลานของนางเป็นศัตรูกันด้วย เขาจะเหยียบหัวของเจ้า และเจ้าจะกัดส้นเท้าของเขา” เป็นเรื่องของเวลาที่พระนางมารีย์จะเหยียบหัวของซาตาน เมื่อซาตานถูกเหยียบหัวโดยสตรี มันจะอับอายมากจนไม่สามารถคุยโอ้อวดและหยิ่งผยองได้อีกต่อไป และนั่นจะเป็นวันแห่งชัยชนะของพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล 
สิ่งที่ผมขอแนะนำพวกคุณก็คือ ให้หลีกเลี่ยงการประจญ มีความศรัทธาต่อพระนางมารีย์อย่างมั่นคง 

วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567

สาส์นแม่พระ 25 ม.ค. 2024

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ม.ค. 2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
          ขอให้ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการสวดภาวนา     
          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่           
            
(สาส์นครั้งนี้นับว่าเป็นสาส์นที่สั้นที่สุด  และพระสันตปาปาฟรังซิสได้ประกาศให้ปีนี้เป็นปีแห่งการสวดภาวนา ถือว่าเป็นการตอบสนองสาส์นของแม่พระด้วย  ขอให้เราอย่าลืมสวดภาวนาเพื่อพระสันตปาปาฟรังซิส พระองค์กำลังเจ็บป่วย พระองค์มีปอดเพียงข้างเดียว ปอดอีกข้างถูกตัดออกเพราะติดเชื้อ พระองค์ทรงหกล้มเป็นครั้งที่สองแล้วในเดือนนี้)