พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วันภาวนาอุทิศแด่วิญญาณในไฟชำระ



วิญญาณมากมายได้รับการปลดปล่อยในวันนี้

บุญราศีจอห์นแห่งลาเวอร์นา(Blessed John of La Verna) เป็นหนึ่งในนักบวชฟรังซิสกันรุ่นแรกๆ เขาเกิด 33 ปีหลังจากนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซีเสียชีวิต บุญราศีจอห์นมีถิ่นฐานบ้านเกิดที่เมืองเฟอร์โม(Fermo) ประเทศอิตาลี แต่ผู้ใหญ่ในคณะได้ส่งเขาไปอาศัยอยู่บนภูเขาลาเวอร์นา ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักบุญฟรังซิส อัสซีซีได้รับรอยบาดแผลศักดิ์สิทธิ์ บุญราศีจอห์นอุทิศตนในการสวดภาวนาและการชดเชยใช้โทษบาป และเชื่อกันว่าเขายังเป็นผู้ประพันธ์บทคำนำของพิธีมิสซาของนักบุญฟรังซิสอีกด้วย เขายังทำกิจการดีมากมายเพื่ออุทิศให้แก่วิญญาณในไฟชำระ

ครั้งหนึ่งเมื่อเขาถวายมิสซาในวันภาวนาอุทิศแด่วิญญาณในไฟชำระ เขาก็รู้สึกปิติยินดีอย่างท่วมท้น พระเจ้าทรงประทานนิมิตอันน่าตื่นตะลึงแก่เขาในการได้เห็นวิญญาณทั้งหมดที่ได้รับการปลดปล่อยจากไฟชำระเนื่องจากการประกอบพิธีมิสซาที่จัดขึ้นทั่วโลกในวันฉลองนี้ บุญราศีจอห์นเห็นไฟชำระเปิดออกและวิญญาณที่ได้รับการปลดปล่อยก็ทยอยกันออกมา พวกเขาเหมือนประกายไฟจากเตาเผาที่กำลังลุกไหม้ พวกเขามีมากมายจนบุญราศีจอห์นไม่สามารถนับได้

เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้ทำให้เรายึดมั่นในวันที่เราภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระนี้! และพิจารณาไตร่ตรองว่าวิญญาณจำนวนมากได้รับการปลดปล่อยจากการชำระล้างให้บริสุทธิ์ในวันนี้ ในพิธีมิสซาที่เราอุทิศแก่พวกเขาในวัดของเราและวัดทุกแห่งทั่วโลก เหมือนกับที่พวกเขาได้รับการปลดปล่อยในวันที่บุญราศีจอห์นถวายเครื่องบูชาศักดิ์สิทธิ์เมื่อ 7 ศตวรรษก่อน

บุญราศีจอห์น เสียชีวิตและถูกฝังที่ภูเขาลาเวอร์นา มีอัศจรรย์มากมายที่สถานที่พักผ่อนสุดท้ายของเขา ขอให้ผู้อ่านทุกคนได้รับพระพรในวันที่เราภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระด้วยเทอญ

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

หญิงโสเภณีที่ขัดขืนพระหรรษทาน


เรื่องนี้ได้รับการสอบสวนในกระบวนการสถาปนาเป็นนักบุญของบุญราศีฟรานซิส เจอโรม (St. Francis Jerome ค.ศ. 1642-1716) และภายใต้คำสาบานที่รับรองโดยพยานเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก ในปี ค.ศ. 1707 นักบุญฟรานซิส เจอโรมกำลังเทศน์สอนตามธรรมเนียมของท่านในละแวกเมืองเนเปิลส์ นักบุญพูดถึงนรกและการลงโทษอันน่ากลัวที่รอคอยคนบาปที่ใจแข็งไม่ยอมกลับใจ หญิงโสเภณีที่หน้าด้านคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่น รู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดที่จะทำให้เธอสำนึกผิด จึงพยายามขัดขวางด้วยการพูดตลกและตะโกนพร้อมกับใช้เครื่องดนตรีที่มีเสียงดัง ขณะที่เธอยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง นักบุญก็ร้องออกมาว่า “ระวังตัวไว้เถิด,ลูกสาวของฉัน อย่าขัดขืนพระหรรษทาน ก่อนที่พระเจ้าจะลงโทษเธอภายในแปดวัน” หญิงที่น่าสงสารกลับยิ่งส่งเสียงโหวกเหวกมากขึ้น แปดวันผ่านไป และบังเอิญท่านนักบุญมาอยู่หน้าบ้านหลังเดิมอีกครั้ง คราวนี้เธอเงียบ หน้าต่างถูกปิด ผู้ฟังต่างพากันบอกนักบุญด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงว่า แคทเธอรีน (ซึ่งเป็นชื่อของหญิงคนนั้น) เสียชีวิตกะทันหันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน นักบุญกล่าวว่า “เธอเสียชีวิตแล้ว!” “เอาล่ะ ให้เธอเล่าให้เราฟังตอนนี้ว่าเธอได้อะไรจากการหัวเราะเยาะเรื่องเกี่ยวกับนรก มาถามเธอกันดีกว่า”

 นักบุญกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ และทุกคนต่างคาดหวังว่าจะมีอัศจรรย์ ฝูงชนจำนวนมากตามมาด้วย นักบุญจึงขึ้นไปยังห้องของผู้ตาย และที่นั่น หลังจากสวดภาวนาอยู่ครู่หนึ่ง นักบุญก็เปิดหน้าศพออก และกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า “แคทเธอรีน บอกเราหน่อยว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” เมื่อได้รับคำสั่ง ผู้ตายก็เงยหน้าขึ้น พร้อมกับลืมตา ใบหน้ามีสีคล้ำ ใบหน้าแสดงออกถึงความสิ้นหวังที่น่ากลัว และด้วยน้ำเสียงเศร้าโศก ผู้ตายก็กล่าวว่า “ในนรก ฉันอยู่ในนรก” และทันใดนั้น เธอก็ล้มลงสู่สภาพศพอีกครั้ง

“ผมได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น” พยานคนหนึ่งที่ให้การต่อผู้สอบสวนของสันตะสำนักกล่าว “แต่ผมไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมและผู้คนที่อยู่ที่นั้นได้ หรือแม้แต่ความรู้สึกที่ผมยังคงรู้สึกทุกครั้งที่เดินผ่านบ้านหลังนั้นและมองไปที่หน้าต่าง เมื่อเห็นบ้านที่โชคร้ายหลังนั้น ผมยังคงได้ยินเสียงร้องอันน่าเวทนาที่ดังก้องอยู่ว่า “ในนรก ฉันอยู่ในนรก”  

  (ชีวประวัติของนักบุญฟรานซิส เจอโรม โดย Fr. Bach)

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ไม่มีใครไปสวรรค์โดยที่วิญญาณไม่บริสุทธิ์


“เมื่อคนหนึ่งตายไป เขาจะไม่ได้ไปสวรรค์โดยตรง เว้นแต่ว่าเขาจะเป็นนักบุญบนโลก ลูกกำลังทำความชั่วร้ายครั้งใหญ่กับคนที่ลูกรัก ถ้าหากลูกไม่สวดภาวนาให้พวกเขา อย่าพูดว่า ญาติของฉันอยู่บนสวรรค์แล้วตอนนี้! ไม่หรอก พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น ถ้าพวกเขาเป็นคาทอลิกและเสียชีวิตโดยได้สารภาพบาปแล้ว พวกเขาจะไปที่ไฟชำระ เป็นหน้าที่ของลูกที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าบุคคลนั้นได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์สุดท้ายสำหรับผู้ใกล้เสียชีวิต และถ้าลูกรักพวกเขาอย่างแท้จริง ลูกก็จะต้องสวดภาวนาเพื่อให้พวกเขาออกจากไฟชำระโดยเร็วที่สุด

ขอมิสซาอุทิศแก่เขาปีละครั้งหรือ, มันโหดร้ายนะ! ขอมิสซาเดือนละครั้งหรือ,ก็ไม่ดีไปกว่านักหรอก ลองนึกถึงเวลาของลูกบ้าง ลูกอยากให้คนอื่นสวดภาวนาให้ลูกอย่างไร จำไว้ว่าหนึ่งวินาทีในไฟชำระ,พวกเขารู้สึกเหมือนหลายปี จงสวดภาวนาและขอมิสซาให้คนที่ลูกรักหลายๆครั้ง ไม่มีใครไปสวรรค์โดยที่วิญญาณไม่บริสุทธิ์ พ่อขอบอกลูกว่าพวกเขาต้องทนทุกข์ในไฟชำระ พวกเขาร้องไห้คร่ำครวญ และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากคำภาวนาและกิจการดีๆของลูกอย่างเร่งด่วน

พ่อเหมือนได้ยินพวกเขากำลังร้องไห้ส่งเสียงจากห้วงลึกของไฟที่เผาผลาญพวกเขาอยู่: "ช่วยบอกคนที่เรารักด้วย บอกลูกๆของเรา บอกญาติพี่น้องของเราทุกคนว่า เป็นความโหดร้ายที่ยิ่งใหญ่นัก,การที่พวกเขาทำให้เราต้องทนทุกข์ เราขอกราบแทบเท้าพวกเขาเพื่อวิงวอนขอความช่วยเหลือจากคำภาวนาของพวกเขา โอ้! บอกพวกเขาว่าตั้งแต่เราถูกพรากจากพวกเขา เราก็ถูกเผาไหม้ในกองไฟที่นี่!" "  

-- นักบุญยอห์น มารี บัพติสต์ เวียนเนย์

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ไฟชำระเป็นอย่างไร?


พระเจ้าข้า และหากไม่ทรงคัดค้าน ข้าพเจ้าขอชำระล้างร่างกายเสียก่อนดีกว่า’
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

การสู้รบฝ่ายจิต


ขณะนี้มีการต่อสู้ฝ่ายจิตกำลังเกิดขึ้น ซึ่งเราทุกคนต่างก็มีส่วนร่วม ทุกคนต้องเข้าใจว่ามีองค์ประกอบสำคัญที่เดิมพันอยู่ในการต่อสู้ครั้งนี้สำหรับผู้ชายและผู้หญิงทุกคน ทุกคนมีส่วนร่วมในการต่อสู้ทางจิตวิญญาณนี้ และมันไม่ใช่การต่อสู้ของเนื้อหนังและเลือด แต่เป็นการต่อสู้ของจิตวิญญาณ เรากำลังต่อสู้อยู่กับพลังอำนาจฝ่ายจิต สิ่งมีชีวิตฝ่ายจิต ที่มีอิทธิพลต่อเราและล่อลวงให้เราทำชั่ว พวกมันพยายามฝังรากลึกสิ่งชั่วร้ายในจิตใจของเราเพื่อให้เราทำสิ่งที่ผิด

 เราได้เรียนรู้แล้วว่ากองกำลังชั่วร้ายเหล่านี้ต้องการทำลายทั้งร่างกายของเรา,และที่สำคัญยิ่งกว่าคือทำลายจิตวิญญาณของเรา พวกมันอยากเห็นเราใช้ชีวิตนิรันดร์ในนรกกับพวกมัน และต้องทนทุกข์ทรมานพร้อมกับมัน พวกมันจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายการสร้างสรรค์ของพระเจ้า สงคราม, อาชญากรรม, ความเกลียดชังของประเทศหนึ่งที่มีต่ออีกประเทศหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการบงการของซาตาน

 ปีศาจโกรธพระเจ้าและอิจฉาที่พระเจ้าทรงรักเรา พวกมันโกรธแค้นทุกสิ่งที่พระเจ้ารัก พวกมันโกรธแค้นและสิ้นหวังเมื่อตระหนักว่าท้ายที่สุดแล้วพวกมันจะต้องพ่ายแพ้ แต่ระหว่างนั้นพวกมันก็ยังคงโวยวายด้วยความโกรธเกรี้ยวและทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายทุกสิ่งที่พระเจ้ารักและให้คุณค่า