พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2025 จงเข้าทางประตูที่แคบ

          พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า ‘พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้’ พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า ‘จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ ‘เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “พระเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการชั่วช้า”
(ลูกา 13:22-30)








วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2567

บวชเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุ 75


เขาเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับโลกและศาสตราจารย์จากเคมบริดจ์ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์คาทอลิกที่อาสนวิหารเซนต์จอห์นในเมืองนอริชเมื่อวันที่ 21 กันยายน แม้ว่าจะมีอายุมากกว่าอายุเกษียณตามกำหนดไว้สำหรับพระสงฆ์ของสังฆมณฑลก็ตาม

 จอห์น มอร์ริลล์ วัย 78 ปี ซึ่งเคยเป็นสังฆานุกรมาเป็นเวลา 28 ปี ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์โดยบิชอปปีเตอร์ คอลลินส์ โดยมีพระสงฆ์, ครอบครัว, เพื่อน, นักศึกษาเก่า, และเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย250 คนร่วมในพิธีนี้ด้วย เว็บไซต์ของสังฆมณฑลอีสต์แองเกลียระบุว่า “ชายผู้นี้ได้ยินเสียงพระเจ้าเรียกเขาหลายครั้ง เขาเป็นคนที่ตอบรับการเรียกของพระเยซูอย่างเต็มใจในหลายๆวิธีตลอดชีวิตของเขา” บิชอปปีเตอร์กล่าวในการเทศน์ของท่าน พร้อมกับเน้นย้ำถึงบทบาทของภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วของมอร์ริลล์ “ผู้ซึ่งเป็นครูคำสอนที่แท้จริงของเขาในความเชื่อคาทอลิก”

วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2567

พึงระวังความสนิทสนมอันเกินควร




อย่าเปิดเผยใจของท่านแก่ทุกคน แต่จงปรึกษาเรื่องของท่านกับผู้มีปรีชา และผู้ยำเกรงพระเจ้าเถิด. จงติดต่อกับคนหนุ่มสาวแต่นานๆ ครั้ง ทั้งคนนอก(=คนชาวโลก)ด้วย.

อย่าประจบคนรวย และอย่าชอบแสดงตัวต่อหน้าคนใหญ่คนโต. จงคบหาคนสุภาพ คนซื่อ คนศรัทธา และคนอยู่ในศีลสัตย์. จงสนทนากับเขาในเรื่องปลุกศรัทธา. อย่าสนิทสนมกับสตรีคนใดคนหนึ่ง แต่จงฝากฝังสุภาพสตรีคนดีทั่วๆ ไปไว้กับพระเจ้า. จงปรารถนาสนิทสนมเฉพาะกับองค์พระผู้เป็นเจ้า และทูตสวรรค์ของพระองค์.

จงหลีกเลี่ยงการหาวิธีให้มนุษย์มารู้จักตน.  

♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡

ความรัก เราต้องมีต่อทุกคน แต่ความสนิทสนมนั้น ไม่เหมาะสม. บางครั้ง อาจเกิดขึ้นได้ คนที่เราไม่รู้จัก ได้ยินแต่ชื่อเสียงของเขา เราก็นับถือเขา แต่ครั้นเขามาอยู่ต่อหน้า เรากลับคลายความนับถือ.  

บางครั้ง เราคิดว่า ถ้าเราไปติดต่อกับเขาบ่อยๆ เขาคงยินดี แต่เรื่องกลับตาลปัตร เขาเริ่มกระอักกระอ่วน เพราะสังเกตเห็นตำหนิในตัวเรา.  

โดย Thomas a Kempis:แปลโดย ผู้หว่าน  

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2567

การเดินขบวน 200 วัน


มันเป็นคืนที่มืดมิด และผู้คนไม่สามารถหาทางกลับประเทศของตนได้อีกต่อไป
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567

การเทศน์ของคุณพ่อบอสโก


ให้ข้อคิดว่า เราจะประยุกต์ใช้วิธีการของคุณพ่อบอสโกในเรื่องการเทศน์ได้อย่างไร?
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ความทรมานจากบาปแห่งลิ้น


พระสงฆ์โดมินิกันชื่อดูแรนด์(Durand) ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ดีมาก เขาเข้ากับคนง่ายแต่พูดมากเกินไป เขาเป็นที่รู้จักในเรื่องอารมณ์ขันที่ขัดต่อความรัก และแม้ว่าอธิการของเขาจะตักเตือนเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังคงพูดตามความเคยชินจนถึงขนาดที่ขาดความรักต่อผู้ฟังและบางทีก็ต่อคนที่เขาล้อเล่นด้วย เขาแตกต่างอย่างมากจากลาคอร์แดร์(Lacordaire)แห่งโดมินิกันที่มีชื่อเสียงซึ่งพูดจาไพเราะ,พูดจาอย่างยุติธรรมและมีเหตุผลเสมอ (ภาพด้านบน) ดูแรนด์ซึ่งเป็นนักพรตโดมินิกันซึ่งเป็นคณะนักเทศน์,เขาอาจคิดว่าตนเองสามารถพูดได้มากเท่าที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดายเพราะเขามักพูดจาโดยไม่ระวัง

หลังจากที่เขาเสียชีวิต เขาก็ปรากฏตัวต่อเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นนักบวชเหมือนกันและขอให้พวกเขาสวดภาวนาอุทิศแก่เขา หนังสือที่ฉันอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ระบุว่านักบวชคนนั้นเป็นนักบวชหรือซิสเตอร์ ดูรันด์ถูกทรมานอย่างโหดร้ายในไฟชำระเพราะวิธีที่เขาทำให้คนอื่นทรมานด้วยการพูดจาเยาะเย้ยไม่หยุดหย่อน เมื่อในคณะโดมินิกันรับรู้ถึงความทุกข์ยากของดูรันด์ จึงพวกเขาทำพลีกรรมรักษาความเงียบเป็นเวลา 8 วันและทำกิจกุศลอุทิศให้แก่ดูรันด์ หลังจากนั้นไม่นาน ดูรันด์ก็ปรากฏตัวและบอกให้รู้ว่าเขาพ้นโทษแล้วและกำลังจะขึ้นสวรรค์: 

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ความครบครันโดยความอดทน


ความดีครบครันเกิดขึ้นได้จากกระบวนการของการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์

กระบวนการนี้จำเป็นที่เราต้องฟังและนบนอบเสียงของพระจิตเจ้าเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นต่อจิตวิญญาณของเรา และเกี่ยวกับวิธีที่จะรักษาความบริสุทธิ์ของเราเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ซึ่งอาจต้องมีความอดทนต่อความทุกข์ (ทุกรูปแบบ) แต่ในท้ายที่สุด หากเราซื่อสัตย์ต่อเสียงของพระจิต, เราจะได้ยินพระบิดาตรัสด้วยความยินดีว่า “ดีมาก!”

ความทุกข์อาจทำให้จิตใจของเราแข็งกระด้างต่อพระเจ้า หรืออาจทำให้เราอ่อนน้อมถ่อมตนต่อพระองค์อย่างสุดจิตใจมากขึ้น, ขึ้นอยู่กับเรา เมื่อเกิดความยากลำบาก, จงอย่าบ่น แต่ให้พูดว่า พระเจ้าข้า, โปรดแสดงให้ลูกเห็นถึงสิ่งที่ลูกสามารถทำได้เพื่อให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ด้วยเทอญ

“ผู้ที่ซักเสื้อของตนก็เป็นสุข เขาจะมีสิทธิ์กินผลจากต้นไม้แห่งชีวิต และผ่านประตูเข้าไปในนครนั้นได้” (วิวรณ์ 22:14 )