แม่พระคือป้อมปราการที่แข็งแกร่งสำหรับความรอดของเรา น.ยอห์นมารีย์ เวีนนเนย์กล่าวว่า
“ขอให้ท่านจงพยายามปีนขึ้นไปให้ถึงเชิงกางเขน
เพราะเชิงกางเขนนั้นคือประตูสวรรค์”
และเราจะได้พบกับแม่พระทรงประทับอยู่ทั้งที่เชิงกางเขนและที่ประตูสวรรค์ น.เบอร์นาร์ดกล่าวว่า
“ความทุกข์ในพระทัยของพระมารดาของชาวเรามีมากยิ่งกว่าความทุกข์ของบรรดานักบุญทั้งหลายรวมกัน” เด็กที่เสียชีวิตที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์นั้นเป็นสัญญลักษณ์บ่งบอกถึงบาปหนักและบาปของสาธารณชน เพราะในพระวรสารกล่าวว่า
“ทุกคนในเมืองพากันมาดูเด็กที่เสียชีวิต”
การสำนึกผิดกลับใจและความตั้งใจที่จะไม่ทำบาปอีก
เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการได้รับความรอด หลังจากที่เราไปสารภาพบาปแล้ว
เราต้องเตรียมตัวที่จะต่อสู้กับการประจญล่อลวงที่จะกลับมาอีก นี่เป็นข้อแนะนำของนักบุญอัลฟองโซ เราต้องไปสารภาพบาปเสมอเมื่อตกในบาป และพยายามหามาตรการเพื่อที่จะเอาชนะบาปที่ทำซ้ำๆเป็นนิสัย เด็กที่เสียชีวิตในพระวรสารนั้นกลับฟื้นคืนชีพโดยอาศัยคำวิงวอนของมารดาของเขาต่อพระเยซูเจ้า เช่นเดียวกัน ขอให้เรามีความศรัทธาต่อแม่พระ ผู้ที่คอยวิงวอนต่อพระบุตรของพระนางเพื่อช่วยพวกเราเสมอ
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 พระเยซูทรงรักษาคนตาบอด
  พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์ ขณะที่พระองค์เสด็จออกจากเมืองเยรีโคพร้อมกับบรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมาก บารทิเมอัสบุตรของทิเมอัส คนขอทานตาบอดนั่งอยู่ริมทาง เมื่อได้ยินว่าพระเยซูชาวนาซาเร็ธกำลังเสด็จผ่านมา เขาเริ่มส่งเสียงร้องตะโกนว่า “ข้าแต่พระเยซู โอรสของกษัตริย์ดาวิด เจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” หลายคนดุเขาให้เงียบ แต่เขากลับตะโกนดังยิ่งกว่าเดิมว่า “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าเถิด” พระเยซูเจ้าทรงหยุด ตรัสว่า “ไปเรียกเขามาซิ” เขาก็เรียกคนตาบอดพลางกล่าวว่า “ทำใจดี ๆ ไว้ ลุกขึ้น พระองค์กำลังเรียกเจ้าแล้ว” คนตาบอดสลัดเสื้อคลุมทิ้ง กระโดดเข้าไปเฝ้าพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านอยากให้เราทำอะไรให้” คนตาบอดทูลว่า “รับโบนีให้ข้าพเจ้าแลเห็นเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” ทันใดนั้น เขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
(มาระโก 10:46-52)
วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558
วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558
สาส์นแม่พระ 2-25 มี.ค. 2015
สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 มี.ค. 2015
ลูกที่รักทั้งหลาย
พวกลูกคือพละกำลังของแม่ พวกลูกคืออัครสาวกของแม่ โดยอาศัยความรักของลูก ความถ่อมตน และ การสวดภาวนาอย่างเงียบสงบของลูก การที่ผู้อื่นจะมารู้จักองค์พระบุตรของแม่นั้นก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ลูกอาศัยอยู่ในแม่ ลูกรับแม่ไว้ในหัวใจของลูก ลูกรู้ว่า ลูกมีแม่ผู้หนึ่งซึ่งรักลูกและได้มาหาลูกเพื่อนำความรักมาให้ แม่มองดูลูกในองค์พระบิดาสวรรค์ แม่เห็นความคิดของลูก ความเจ็บปวดของลูก ความทุกข์ของลูก และแม่ได้มอบถวายทุกสิ่งนี้แด่องค์พระบุตรของแม่ จงอย่ากลัวและอย่าสูญเสียความหวัง เพราะองค์พระบุตรทรงสดับฟังพระมารดาของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงบังเกิด พระองค์ทรงรักและแม่ประรถนาให้ลูกทุกคนของแม่มารู้จักความรักนั้น แม่ปรารถนาให้ลูกทุกคนที่ได้ละทิ้งพระองค์ไป เนื่องจากความเจ็บปวดและความไม่เข้าใจของพวกเขา ให้กลับมาหาพระองค์ และทุกคนที่ไม่เคยรู้จักพระองค์จะได้มารู้จักพระองค์ ด้วยเหตุนี้ พวกลูกจึงมาอยู่ที่นี่ ลูกผู้เป็นอัครสาวกของแม่ และแม่มาอยู่กับพวกลูกในฐานะมารดา จงสวดภาวนาสำหรับความเชื่ออันมั่นคง เพราะความรักและความเมตตามาจากความเชื่ออันมั่นคง โดยอาศัยความรักและความเมตตา ลูกจะช่วยเหลือคนเหล่านั้นทุกคนที่ยังไม่รู้ตัวว่า พวกเขาได้เลือกความมืดแทนที่จะเลือกความสว่าง จงสวดภาวนาสำหรับนายชุมพาบาลของลูกด้วย เพราะพวกท่านเป็นพละกำลังของพระศาสนจักรซึ่งองค์พระบุตรของแม่ทรงมอบแก่พวกลูก โดยผ่านทางองค์พระบุตร พวกท่านได้เป็นนายชุมพาบาลของวิญญาณ
ขอขอบใจลูก
ลูกที่รักทั้งหลาย
เช่นเดียวกัน ในวันนี้องค์พระผู้สูงสุดทรงอนุญาตให้แม่มาอยู่กับพวกลูกและนำทางลูกไปบนหนทางแห่งการกลับใจ
หลายคนได้ปิดหัวใจของพวกเขาต่อพระหรรษทานและได้กลายเป็นคนหูหนวกต่อเสียงเรียกของแม่ ส่วนลูก
ลูกน้อยๆทั้งหลาย จงสวดภาวนาและต่อสู้กับการประจญล่อลวงและแผนการณ์ชั่วร้ายทุกอย่างซึ่งเจ้าปีศาจเสนอให้ลูกโดยอาศัยลัทธิสมัยใหม่นิยม
จงเข้มแข็งในการสวดภาวนาและด้วยกางเขนที่อยู่ในมือของลูก จงสวดภาวนาเพื่อที่ความชั่วร้ายไม่อาจใช้ลูกและไม่มีชัยชนะในตัวลูก แม่อยู่กับลูกและสวดภาวนาเพื่อลูกเสมอ
ขอขอบใจลูกที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
ขอขอบใจลูกที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
ลูกที่รักทั้งหลาย
พวกลูกคือพละกำลังของแม่ พวกลูกคืออัครสาวกของแม่ โดยอาศัยความรักของลูก ความถ่อมตน และ การสวดภาวนาอย่างเงียบสงบของลูก การที่ผู้อื่นจะมารู้จักองค์พระบุตรของแม่นั้นก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ลูกอาศัยอยู่ในแม่ ลูกรับแม่ไว้ในหัวใจของลูก ลูกรู้ว่า ลูกมีแม่ผู้หนึ่งซึ่งรักลูกและได้มาหาลูกเพื่อนำความรักมาให้ แม่มองดูลูกในองค์พระบิดาสวรรค์ แม่เห็นความคิดของลูก ความเจ็บปวดของลูก ความทุกข์ของลูก และแม่ได้มอบถวายทุกสิ่งนี้แด่องค์พระบุตรของแม่ จงอย่ากลัวและอย่าสูญเสียความหวัง เพราะองค์พระบุตรทรงสดับฟังพระมารดาของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงบังเกิด พระองค์ทรงรักและแม่ประรถนาให้ลูกทุกคนของแม่มารู้จักความรักนั้น แม่ปรารถนาให้ลูกทุกคนที่ได้ละทิ้งพระองค์ไป เนื่องจากความเจ็บปวดและความไม่เข้าใจของพวกเขา ให้กลับมาหาพระองค์ และทุกคนที่ไม่เคยรู้จักพระองค์จะได้มารู้จักพระองค์ ด้วยเหตุนี้ พวกลูกจึงมาอยู่ที่นี่ ลูกผู้เป็นอัครสาวกของแม่ และแม่มาอยู่กับพวกลูกในฐานะมารดา จงสวดภาวนาสำหรับความเชื่ออันมั่นคง เพราะความรักและความเมตตามาจากความเชื่ออันมั่นคง โดยอาศัยความรักและความเมตตา ลูกจะช่วยเหลือคนเหล่านั้นทุกคนที่ยังไม่รู้ตัวว่า พวกเขาได้เลือกความมืดแทนที่จะเลือกความสว่าง จงสวดภาวนาสำหรับนายชุมพาบาลของลูกด้วย เพราะพวกท่านเป็นพละกำลังของพระศาสนจักรซึ่งองค์พระบุตรของแม่ทรงมอบแก่พวกลูก โดยผ่านทางองค์พระบุตร พวกท่านได้เป็นนายชุมพาบาลของวิญญาณ
ขอขอบใจลูก
วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558
วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558
การอดอาหาร 4
อิสยาห์ 58;6-7 “การอดอาหารแบบนี้มิใช่หรือที่เราต้องการ?
คือแก้พันธนาการแก่ผู้ที่ถูกจองจำ
การไม่กดขี่ผู้อื่น และปล่อยทาสเป็นอิสระ และทำลายแอกทุกอัน? ให้อาหารแก่ผู้หิวโหย
เปิดประตูรับคนยากจนให้มาอยู่อาศัย ให้เสื้อผ้าแก่คนที่ไม่มีใส่ ช่วยเหลือญาติพี่น้องของเจ้า?
วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558
วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558
พระสันตปาปาเสด็จเนเปิล
22 มี.ค. 2015 - พระสันตะปาปาเสด็จไปที่เนเปิล ทางตอนใต้ของอิตาลี
และประกอบพิธีมิสซาที่อาสนวิหารนักบุญ จาเนโร ซึ่งมีโลหิตของท่านบรรจุในภาชนะกระจก
กล่าวกันว่าโลหิตของท่านนักบุญซึ่งแข็งตัวจะกลายเป็นของเหลวปีละครั้งในวันฉลองของท่าน พระสันตะปาปาต้องประหลาดใจเมื่อถูกล้อมโดยซิสเตอร์หลายคนที่นำของขวัญมาให้พระองค์ เนเปิลยังเป็นศูนย์กลางของพวกมาเฟีย พระสันตะปาปาเตือนพวกมาเฟียให้กลับใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตเสียใหม่
ในช่วงสุดท้ายพระสันตปาปาทรงจูบภาชนะบรรจุโลหิตของนักบุญจาเนโร พระสังฆราชประกาศว่า โลหิตบางส่วนของท่านนักบุญได้กลายเป็นของเหลว พระสันตะปาปาทรงพูดตลกว่า เพราะโลหิตของนักบุญกลายเป็นของเหลวเพียงบางส่วน
ดังนั้นพระองค์จะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชนะใจท่านนักบุญ ด้วยการประกาศพระวรสาร
http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/the-pope/11488383/They-are-going-to-eat-him-nuns-stun-Pope.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)