ถ้าจะมีคำใดที่ใช้บรรยายชีวิตของ
น. ปีเตอร์ จูเลียน เอียมาร์ด
Saint Peter Julian Eymard
ได้แล้วก็คงเป็นคำว่า “เข็นครกขึ้นภูเขา” นั่นแหละ
>>>อ่านต่อ
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี
พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี
พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)
วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
สาส์นแม่พระ2+25ก.พ.2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในเวลาแห่งพระหรรษทานนี้ แม่กำลังเรียกพวกลูกทุกคนให้กลับใจ ลูกน้อยทั้งหลาย
พวกลูกมีความรักเพียงเล็กน้อยและการสวดภาวนายิ่งมีน้อยกว่า
พวกลูกกำลังหลงทางและไม่รู้ว่าเป้าหมายของลูกคืออะไร จงรับกางเขนเถิด มองดูพระเยซูเจ้าและติดตามพระองค์ พระองค์ประทานพระองค์เองแก่พวกลูกด้วยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ก็เพราะพระองค์ทรงรักพวกลูก ลูกน้อยทั้งหลาย แม่กำลังส่งเสียงร้องเตือนพวกลูกว่า :
จงหันกลับมาสู่การสวดภาวนาด้วยหัวใจ
เพื่อที่ลูกจะได้พบกับความหวังและความหมายของการมีชีวิตของลูก ในการสวดภาวนา
แม่จะอยู่กับลูกและสวดภาวนาเพื่อลูกขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
ลูกที่รักทั้งหลาย
แม่ขอเรียกให้พวกลูกมารู้จักกับพระบุตรของแม่อีกครั้ง ขอให้ลูกมารู้จักองค์ความจริง
แม่อยู่กับพวกลูกและสวดภาวนาเพื่อพวกลูกเสมอ
ลูกทั้งหลายของแม่ ลูกต้องสวดภาวนามากๆเพื่อที่ลูกจะได้มีความรักและความอดทนมากขึ้น และจะได้รู้จักที่จะเสียสละทำพลีกรรมและมีความยากจนในจิตใจ
โดยอาศัยพระจิตเจ้า องค์พระบุตรของแม่ทรงอยู่กับพวกลูกเสมอ
พระศาสนจักรของพระองค์บังเกิดในหัวใจทุกดวงที่มารู้จักพระองค์
จงสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะได้รู้จักพระองค์เถิดและจิตวิญญาณของลูกจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์
นั่นคือการสวดภาวนาและความรักซึ่งจะดึงดูดผู้อื่นและทำให้ลูกเป็นอัครสาวกของแม่
แม่มองดูพวกลูกด้วยความรัก ด้วยความรักเยี่ยงมารดา แม่รู้จักพวกลูก แม่รู้ถึงความเจ็บปวดและความเศร้าโศกของพวกลูก
เพราะแม่ก็เศร้าโศกอยู่อย่างเงียบๆเช่นกัน
ความเชื่อของแม่ให้ความรักและความหวังแก่แม่
แม่ขอย้ำว่า การกลับคืนชีพขององค์พระบุตรของแม่และการรับเกียรติยกขึ้นสู่สวรรค์ของแม่เป็นความหวังและความรักสำหรับพวกลูก
เพราะฉะนั้น ลูกๆทั้งหลายของแม่ จงสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะได้รู้จักความจริง จะได้มีความเชื่อที่มั่นคงซึ่งจะนำทางหัวใจของพวกลูกและจะเปลี่ยนความเจ็บปวดและความทุกข์ของพวกลูกให้กลายเป็นความรักและความหวัง
ขอขอบใจลูก
วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
พระพรการรู้ล่วงหน้า2
นักบุญแอนโทนี มารีย์ คลาเรต์ (1807-1870) เป็นผู้ก่อตั้งคณะ the Missionary Sons of the Immaculate Heart of Mary (หรือเรียกอีกชื่อว่า Claretians)
ครั้งหนึ่งท่านจัดให้มีการเข้าเงียบเตรียมจิตใจสำหรับสัตบุรุษ
แต่ช่วงเวลานั้นเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลของชาวบ้าน
และชาวบ้านต้องไปทำงานในทุ่งนาของพวกเขา คุณพ่อได้ไปเยี่ยมแต่ละบ้านและชักชวนให้พวกเขามาร่วมเข้าเงียบเตรียมจิตใจ
ท่านบอกว่าพระเป็นเจ้าจะอวยพรพวกเขาถ้าพวกเขามาร่วม ชาวบ้านหลายคนตอบปฏิเสธ บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้
เพราะพืชผลทั้งหมดอาจเสียหายได้ภายในวันเดียว
ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณพ่อได้กล่าวทำนายว่า
“ในนามของพระเป็นเจ้า
พ่อขอบอกพวกคุณว่า
ถ้าพวกคุณมาร่วมในการเตรียมจิตใจครั้งนี้
ต้นข้าวสาลีจะให้ผลมากมาย
ฝนและพายุจะไม่มาทำลาย
แต่ถ้าพวกคุณไม่มาร่วมงาน
พืชผลของพวกคุณก็จะเสียหาย” ด้วยคำทำนายนี้
คุณพ่อจึงสามารถดำเนินกิจการงานของท่านต่อไปได้
มีชาวนาและคนงานมาร่วมมากมาย
แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่มา
สองวันต่อมา
ชาวนาที่ไม่มาร่วมงานก็ได้เห็นพืชผลที่เขาปลูกไว้ถูกทำลายจนราบเรียบจากพายุหนักที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
แต่ในที่นาของชาวนาที่มาร่วมงานกลับไม่ได้รับความเสียหาย
มิหนำซ้ำต้นข้าวสาลีของพวกเขายังออกรวงมีเมล็ดข้าวมากกว่าแต่ก่อนด้วย เป็นไปตามคำทำนายของคุณพ่อ คลาเรต์
คำทำนายอีกอันหนึ่งของคุณพ่อเกิดขึ้นที่สังฆมณฑลวิค
ในสเปน คู่สามีภรรยา โจเซ่
โรวิรา และ โรซ่า มาลาตส์
พวกเขามีลูกสาวสองคน
คนหนึ่งตายตั้งแต่ยังเล็ก
ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อ แคนดีดา เธอปรารถนาจะเข้าอารามเป็นนักบวชและได้บอกความปรารถนาให้พ่อแม่ทราบ พ่อแม่ขอให้เธอคิดทบทวนดู พ่อได้พาลูกสาวมาปรึกษากับพระสงฆ์ชื่อ Father Canals ซึ่งเป็นอธิการของคณะคาร์เมไลท์แห่งวิค ท่านได้พูดคุยสอบถามแคนดีดา
และได้เห็นถึงความยากจนและอายุของผู้เป็นพ่อ ท่านจึงรู้สึกลังเลใจ เพราะพ่อแม่ปรารถนาให้ลูกสาวอยู่กับพวกเขาดูแลพวกเขาในยามแก่ชรา คุณพ่อคานาลรู้เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของคุณพ่อคลาเรต์ ท่านจึงส่งพวกเขาไปหาคุณพ่อคลาเรต์
หลังจากคุณพ่อคลาเรต์สอบถามผู้เป็นลูกสาวแล้ว ท่านสวดภาวนาและพูดกับผู้เป็นพ่อโดยกล่าวทำนายว่า “เป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า ที่จะให้แคนดีดาเข้าเป็นนักบวช จงอย่าวิตกกังวลไปเลย เพราะภายในหนึ่งปี
พระเป็นเจ้าจะทรงอวยพรพวกคุณให้ได้ลูกชายคนหนึ่ง เขาจะเป็นผู้ปลอบประโลมใจของคุณในยามที่คุณแก่ชรา” ผู้เป็นพ่อฟังแล้วก็ยิ้ม เพราะรู้ดีว่าภรรยาของเขาหมดเวลาที่จะมีลูกได้แล้ว แต่เขาก็ตอบคุณพ่อคลาเรต์ว่า
“ถ้าในหนึ่งปีนี้ผมมีลูกชาย
เราจะอนุญาตให้ลูกสาวของเราเข้าคอนแวนต์ครับ” และก็เป็นไปตามคำทำนาย ปีถัดมาพวกเขาก็ได้ลูกชาย คนทั้งเมืองรู้เรื่องเกี่ยวกับคำทำนายนี้ และถือว่านี่เป็นการกำเนิดที่อัศจรรย์ แคนดีดาได้เข้าเป็นคาร์เมไลท์ชั้นที่สาม
ส่วนน้องชายของเธอก็เติบโตเป็นคนที่ดูแลพ่อแม่ในยามแก่ชราตามที่คุณพ่อคลาเรต์ทำนายไว้
วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
พระพรการรู้ล่วงหน้า
คุณพ่อยอห์น บอสโก(1815-1888), ผู้ก่อตั้งคณะซาเลเซียนได้เคยทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดกับคนบางคนที่ท่านเพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรก ดังเช่นกรณีนี้ที่เกิดในปี 1853 เด็กหญิงคนหนึ่งได้พบกับคุณพ่อบอสโกและเล่าให้ท่านฟังว่าเธอได้รับกระแสเรียกที่จะเป็นนักบวช คุณพ่อลังเลใจพักหนึ่งก่อนที่จะตอบว่า
“ลูกจะต้องรอเป็นเวลานานก่อนที่ลูกจะตระหนักใจในความปรารถนาของลูก แต่ในที่สุดลูกจะเข้าสู่คณะนักบวชคณะหนึ่งซึ่งก่อตั้งขึ้นในปีเดียวกับวันเกิดของลูก” สิบสองปีผ่านไป เด็กหญิงผู้นั้นก็ได้เข้าสู่คณะ Little
Sisters of the Assumption ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเวลาเดียวกับวันเกิดของเด็กหญิงคนนี้ เป็นไปตามที่คุณพ่อบอสโกได้กล่าวทำนายไว้ ทั้งๆที่คุณพ่อบอสโกเพิ่งพบเด็กหญิงคนนี้เป็นครั้งแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)