ผู้คนจำนวนมากเดินทางไปดูพระรูปแม่พระทรงหลั่งโลหิตที่ดวงตาข้างหนึ่ง
ที่พระรูปมีของเหลวสีแดงไหลลงมาที่แก้มของพระรูป พระรูปนี้อยู่ที่ ฟลอริดาบลังกา
ในประเทศโคลัมเบีย
หลายคนเชื่อว่านี่เป็นอัศจรรย์และคำเตือนบางอย่างจากสวรรค์
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้
  เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้
  เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)
วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2559
วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559
พระเยซูเจ้าปรากฏบนท้องฟ้าของเม็กซิโก
ภาพวาด El SeñorDe La
Misericordia De Ocotlán ปี 1912
ตั้งอยู่ที่อาสนวิหารพระเมตตาของพระเยซูเจ้าในเมือง โอคอทแลน รัฐ จาลิสโค
ประเทศเมกซิโก
นี่เป็นอัศจรรย์ที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน
วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 1847
มีคนมากกว่า 2,000 คนในเมือง โอคอทแลน (Ocotlán) ของประเทศเม็กซิโก
ได้เห็นภาพพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขนปรากฏบนท้องฟ้าเป็นเวลานานมากกว่า 30 นาที
เรื่องนี้ได้รับการรับรองแล้วว่าเกิดขึ้นจริงโดยสังฆมณฑล Guadalajara ในปี 1911
ปรากฏการณ์นี้ได้ชื่อว่า “อัศจรรย์แห่งเมืองโอคอทแลน” (Miracle of Ocotlán) และเกิดขึ้นก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวที่คร่าชีวิตคนไป 40
คนและทำให้เมืองในรัฐ Jalisco State พังเสียหาย
ก่อนเริ่มพิธีมิสซาผู้ตายที่วัดน้อยพระมารดานิรมลซึ่งมีคุณพ่อ
Julián Navarro เป็นผู้ประกอบพิธี
ที่บนท้องฟ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ก้อนเมฆสองก้อนได้ลอยมาบรรจบกัน
แล้วปรากฏภาพของพระเยซูเจ้าขึ้น
มีประชาชนในเมืองนี้และเมืองที่อยู่ใกล้เคียงเห็นภาพนี้ ต่างพากันตื่นเต้น บางคนตกใจเป็นทุกข์ถึงบาปของตน บางคนร้องไห้ออกมาและพูดว่า “พระเยซูเจ้า
โปรดเมตตาลูกด้วยเทอญ”
การปรากฏของพระคริสต์นี้ได้ชื่อว่า “พระเยซูเจ้าผู้ทรงเมตตา”( the Lord of Mercy)
และเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระนามนี้
ในเดือนกันยายน 1875 ได้มีการสร้างโบสถ์ใหม่ขึ้นในพระนามนี้
ในบรรดาผู้ที่ได้เห็นอัศจรรย์นี้มีคุณพ่อ Julián Martín del Campo และนาย Antonio Jiménez นายกเทศมนตรีของเมือง
รวมอยู่ด้วย
ทั้งสองได้ส่งจดหมายไปยังผู้ใหญ่ของตนเพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากอัศจรรย์นี้
ผู้เป็นพยานเห็นเหตุการณ์ได้เขียนเล่าเหตุการณ์และลงลายมือชื่อเป็นหลักฐานไว้ 50ปีต่อมา ในปี 1897 โดยคำสั่งของพระอัครสังฆราช Pedro Loza y Pardavé แห่ง Guadalajara ได้เพิ่มเติมพยานขึ้นอีก
30 คนโดยรวมพระสงฆ์อีก 5 องค์ด้วย
วันที่ 29 ก.ย. 1911 พระอัครสังฆราช José de Jesús Ortiz y Rodríguez แห่ง
Guadalajara ในสมัยนั้น ได้ลงนามบนเอกสารรับรองการปรากฏของพระเยซูคริสต์แห่งโอคอทแลน และอนุญาตให้มีการเคารพสักการะพระรูป “พระเยซูเจ้าผู้ทรงเมตตา”ซึ่งตั้งอยู่ในอาสนวิหารซึ่งมีชื่อเดียวกัน
“เราต้องเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการพิสูจน์สมบูรณ์แล้ว นั่นคือ
การปรากฏของภาพพระเยซูคริสต์ผู้ทรงถูกตรึงกางเขน....มันไม่ใช่เป็นภาพลวงตาหรือการหลอกลวง
เพราะมันเกิดขึ้นในเวลากลางวันต่อหน้าประชาชนมากกว่า 2,000 คน “
พระคาร์ดินัลท่านหนึ่งกล่าวไว้
ท่านยังบอกว่า
พระเยซูผู้ทรงเมตตา ไม่ควรถูกละลืมไป
ผู้มีความเชื่อต้องต้องทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้ในการชำระจิตใจให้สะอาดด้วยศีลอภัยบาป และรับศีลมหาสนิทในวันฉลองของพระองค์ในวันที่ 3
ตุลาคมของทุกปี
ต่อมาในปี 1997 พระสันตะปาปายอห์นปอลที่
2 ทรงส่งคำอวยพรไปยังประชาชนแห่งโอคอทแลนเนื่อนในโอกาสครบ 150 ปีของอัศจรรย์นี้
วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
การแสดงคอนเสริทในซีเรีย
หลังจากที่รัฐบาลซีเรียยึดเมืองปาลมีรา คืนจากการปกครองของกลุ่ม ISIS
แล้ว
รัฐบาลได้จัดงานแสดงคอนเสริทขึ้นโดยคณะดนตรีที่มีชื่อเสียงของโลก Valery Gergiev ซึ่งเคยแสดงที่งาน St. Petersburg’s Mariiinsky Theatre Orchestra
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
บทสรรเสริญพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า
วันอาทิตย์ที่ 29 พ.ค. 2016
เป็นวันฉลองพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า
บทเพลง
Pange Lingua Gloriosi ประพันธ์โดยนักบุญโทมัส อไควนัส
เพื่อใช้ในพิธีเฉลิมฉลองนี้วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
นักบุญคัทรินแห่งเซียนนา5
สาส์นของพระบิดา
น.คัทรินได้รับพระพรพิเศษในการฟังและบันทึกสาส์นจากพระบิดานิรันดร ในหนังสือของเธอชื่อ “The Dialogue” บรรยายถึงการเปิดเผยของพระบิดาที่ให้ความมั่นใจและท้าทายแก่พวกเรา
พระบิดาทรงเป็นผู้ปกครองและอาจารย์สวรรค์ของพวกเรา พระองค์ทรงสอนดังนี้
เกี่ยวกับพิจารณาไตร่ตรอง
(Discernment)
·
การพิจารณาไตร่ตรอง
คือแสงสว่างที่สลายความมืดมิดทั้งปวง กำจัดความโง่เขลา
และเพิ่มรสชาติให้กับคุณธรรมและการทำความดีทุกประการ มันเป็นความฉลาดที่ไม่อาจถูกหลอกลวงได้ เป็นพละกำลังที่ไม่อาจเอาชนะได้ เป็นความถูกต้องอันมั่นคงจนถึงที่สุด มันเชื่อมโยงโลกขึ้นไปสู่สวรรค์
เชื่อมโยงความรอบรู้ของเราไปสู่ความรอบรู้ของมนุษย์
เชื่อมโยงความรักต่อเราไปสู่ความรักต่อเพื่อนมนุษย์
·
ความถ่อมตนที่แท้จริงและรอบคอบของการพิจารณาไตร่ตรอง
ทำลายสิ่งชั่วร้ายและการประจญล่อลวงทุกชนิด
และโดยอาศัยความทุกข์ มันมีชัยชนะต่อผีปีศาจและเนื้อหนังด้วยมือเปล่า โดยอาศัยแสงสว่างรุ่งโรจน์อันอ่อนโยนนี้
วิญญาณมองเห็นและชิงชังความอ่อนแอของตนเองอย่างชัดเจน
ดังนั้นด้วยการดูหมิ่นตนเอง วิญญาณจึงเป็นเจ้านายเหนือโลก ทำให้มันอยู่ใต้เท้าด้วยความรักของวิญญาณและดูหมิ่นโลกว่าเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)