พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2566

ปราสาทฝ่ายจิต 4


โดยนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา 
ปราสาทชั้นที่สี่  

เนื่องจากปราสาทชั้นที่สี่นี้อยู่ใกล้ที่ประทับขององค์พระมหากษัตริย์,จึงมีความสวยงามมาก และสิ่งที่เห็นและได้ยินในปราสาทชั้นนี้นั้นละเอียดอ่อนมาก จนบุคคลผู้หนึ่งบอกเราว่า “จิตใจไม่สามารถจินตนาการถึงสิ่งนี้ได้” เขาคือคนที่ได้รับพระพรให้ได้มีประสบการณ์เหล่านี้  
 ดูเหมือนว่าคนๆหนึ่งต้องอยู่ในชั้นเดิมของปราสาทเป็นเวลานานก่อนที่จะเข้ามาถึงชั้นที่สี่ได้ แต่ตามที่ท่านคงเคยได้ยินบ่อยๆว่าไม่มีกฎตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับพระเจ้าว่าทรงประทานให้เมื่อใด,อย่างไร,แก่ผู้ซึ่งพระองค์ทรงประสงค์ สมบัตินั้นเป็นของพระองค์ และการเลือกของพระองค์ไม่ได้ทำผิดต่อผู้ใด สัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษไม่ค่อยเข้ามาในชั้นนี้ และถ้าพวกมันเข้ามาก็สร้างประโยชน์มากกว่าทำอันตราย ฉันคิดว่ามันดีกว่ามากสำหรับพวกเขาที่จะเข้าไปทำสงครามกับวิญญาณในสถานะของการสวดภาวนานี้ หากไม่ถูกล่อลวง บางครั้งปีศาจอาจหลอกให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับการปลอบประโลมจากเบื้องบน....ฉันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่พระจิตจะสถิตอยู่ภายในเราตลอดเวลาในระดับเดียวกันระหว่างการถูกเนรเทศในโลก 
ตอนนี้ฉันจะอธิบายความแตกต่างระหว่างความอ่อนหวานที่เรารู้สึกในระหว่างการสวดภาวนาและการปลอบประโลมฝ่ายจิตตามที่ฉันสัญญาไว้ สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าสิ่งที่เราได้มาในการพินิจใคร่ครวญและการวิงวอนต่อพระเจ้าอาจเรียกว่าเป็น 'ความอ่อนหวานในความศรัทธา' มันเป็นไปตามธรรมชาติและได้รับความช่วยเหลือจากพระหรรษทานของพระเจ้า ความอ่อนหวานนี้เกิดขึ้นจากการงานที่ดีที่เราทำเป็นหลัก และเป็นผลมาจากการออกแรงของเรา ขอให้เรารู้สึกมีความสุขเถิด เราจะพบว่าเรื่องทางโลกหลายอย่างทำให้เรามีความสุขที่คล้ายกัน เช่น การได้ลาภก้อนโตมาโดยไม่คาดคิด การได้พบเพื่อนรักอย่างกะทันหัน หรือการประสบความสำเร็จในกิจการสำคัญซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกในทางโลก....ฉันได้เห็นบางคนร้องไห้เมื่อสัมผัสความสุขเช่นนี้ ฉันถือว่าทั้งความสุขเหล่านี้และสิ่งที่เรารู้สึกในเรื่องทางศาสนาเป็นเรื่องตามธรรมชาติ....กล่าวโดยย่อคือ เริ่มต้นในตัวเราและสิ้นสุดในพระเจ้า ตรงกันข้าม การปลอบประโลมทางวิญญาณเกิดขึ้นจากพระเจ้า และเป็นธรรมชาติของเราเมื่อรู้สึกถึงสิ่งเหล่านั้น,ที่จะชื่นชมยินดีในสิ่งเหล่านั้น 

Source: The Interior Castle Or The Mansions 
#Catholic 4 Life  
 

วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2566

ปราสาทฝ่ายจิต 3


โดยนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา 
ปราสาทชั้นที่สาม  

ในความเพียรของเรา,ขอให้ระลึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตนี้ ขอให้เข้าใจว่า....เราเป็นเหมือนคนที่มีศัตรูอยู่ที่ประตู เราต้องไม่วางแขนแม้ในขณะนอนหลับหรือรับประทานอาหาร และหวาดกลัวอยู่เสมอว่าศัตรูจะบุกเข้าไปในปราสาทโดยอาศัยช่องโหว่ของกำแพง.....เราไม่สามารถหยุดปรารถนาและอ้อนวอนพระองค์ให้นำเราพ้นไปจากมัน....แต่เรายอมอยู่กับมันเพราะเห็นแก่พระองค์ หรืออุทิศตนเองเพื่อการรับใช้พระองค์ และเหนือสิ่งอื่นใด เพราะเรารู้ว่าเป็นพระประสงค์ของพระองค์ที่ให้เรามีชีวิตอยู่ เมื่อเป็นเช่นนั้น 'ให้เราตายพร้อมกับพระองค์เถิด!' ดังที่นักบุญโธมัสกล่าวไว้ การอยู่ห่างจากพระองค์มีแต่ความตายครั้งแล้วครั้งเล่า มันหลอกหลอนเราด้วยความหวาดกลัวที่จะสูญเสียพระองค์ไปตลอดกาล!  
 ถึงกระนั้น ฉันยังต้องขอเตือนท่านอย่างหนึ่งว่า อย่ามั่นใจเกินไป....ดาวิดเป็นผู้ที่บริสุทธิ์มาก แต่ท่านก็รู้ว่าโซโลมอนกลายเป็นอะไร ดังนั้นอย่าวางใจในสถานะของท่าน หรือไว้ใจในชีวิตแห่งการสำนึกผิดของท่าน หรือคิดว่าท่านได้สวดภาวนาอย่างต่อเนื่องและเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ หรือวางใจว่าท่านได้ละทิ้งโลกนี้ไปแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ดี แต่ยังไม่เพียงพอที่จะขจัดความกลัวทั้งหมดอย่างที่ฉันได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว เหตุฉะนั้นจงตรึกตรองข้อความนี้และระลึกบ่อยๆ 'คนที่เกรงกลัวพระเจ้าก็เป็นสุข' 
กลับมายังสิ่งที่ฉันเริ่มอธิบายเกี่ยวกับวิญญาณที่เข้าสู่ห้องโถงในชั้นที่สามของปราสาท ....พวกเขาปรารถนาอย่างยิ่งที่จะไม่ทำขัดเคืองพระทัยพระองค์ด้วยบาปชั่วร้าย พวกเขารักการทำกิจชดเชยใช้โทษบาปและใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพินิจใคร่ครวญ พวกเขาใช้เวลาอย่างดีในการปฏิบัติกิจกุศลต่อเพื่อนมนุษย์,มีระเบียบเรียบร้อยในการสนทนาและการแต่งกาย 
 โอ พระเยซูเจ้า! ผู้ใดจะสามารถประกาศได้ว่าเขาไม่ต้องการพระพรอันยิ่งใหญ่นี้? โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาได้ผ่านพ้นความยากลำบากครั้งใหญ่ไปแล้ว? ไม่มีแน่นอน! เราทุกคนบอกว่าเราต้องการ แต่พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะครอบครองจิตวิญญาณทั้งครบ ดังเช่นที่พระเยซูเจ้าตรัสกับชายหนุ่มว่าเขาต้องทำอะไรหากต้องการเป็นคนดีสมบูรณ์แบบ ในชั้นนี้ของปราสาท,เราก็เหมือนชายหนุ่มคนนี้ เรามักรู้สึกแห้งแล้งในเวลาสวดภาวนาอยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าบางครั้ง,มันจะเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น ฉันไม่ได้พูดถึงความทุกข์ทรมานภายในจิตใจบางอย่างซึ่งสร้างความเจ็บปวดอย่างมากแก่วิญญาณใจศรัทธาโดยไม่ใช่ความผิดของพวกเขา อย่างไรก็ตามจากการทดลองเหล่านี้ พระเยซูเจ้ามักจะมอบประโยชน์มากมายให้กับพวกเขาเสมอ 

Source: The Interior Castle Or The Mansions 
#Catholic 4 Life  
 

วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2566

ปราสาทฝ่ายจิต 2


โดยนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา 
ปราสาทชั้นที่สอง  

บัดนี้ให้เราพิจารณาว่าวิญญาณใดที่เข้าสู่ห้องโถงในชั้นที่สองของปราสาทและสิ่งที่พวกเขาทำที่นั่น ในส่วนนี้ของปราสาทจะพบวิญญาณที่เริ่มบำเพ็ญภาวนา พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของการไม่คงอยู่ในชั้นแรกของปราสาท อย่างไรก็ตาม,เขามักขาดความมุ่งมั่นที่จะออกจากสภาพปัจจุบันโดยหลีกเลี่ยงโอกาสบาปซึ่งเป็นสถานะที่อันตรายมาก  
 วิญญาณเหล่านี้ได้ยินพระเยซูเจ้าทรงเรียกพวกเขา เพราะพวกเขาเข้าใกล้ที่ประทับของพระองค์มากขึ้น เขาได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นถึงความรักต่อเพื่อนบ้าน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังคงมีส่วนร่วมในความสนุกสนานบันเทิงและการทำธุรกิจ และยังยึดติดกับความสุขและความฟุ้งเฟ้อของโลกนี้ 
ฉันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาได้รับการสื่อสารและการดลใจจากสวรรค์ณ.ที่ปราสาทชั้นนี้ ที่นี่พระเจ้าตรัสกับจิตวิญญาณเหล่านี้ผ่านคำพูดของบุคคลที่มีใจศรัทธาแก่กล้า,หรือโดยคำเทศนาหรือจากหนังสือที่ดี,และด้วยวิธีอื่นๆ อีกมากมาย บางครั้งพระองค์ทรงเรียกวิญญาณโดยอาศัยความเจ็บป่วยหรือปัญหาในชีวิต, หรือโดยความจริงบางประการ พระองค์ทรงสอนพวกเขาระหว่างการสวดภาวนา แม้ว่าพวกเขาจะไม่กระตือรือร้นในการแสวงหาพระองค์ แต่พระเจ้าก็ยังทรงรักพวกเขามาก 

Source: The Interior Castle Or The Mansions 
#Catholic 4 Life  
 

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566

ปราสาทฝ่ายจิต 1


โดยนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา 
ชั้นแรกของปราสาท  

เท่าที่ฉันเข้าใจ ประตูที่จะเข้าสู่ปราสาทแห่งนี้คือการสวดภาวนาและการพินิจใคร่ครวญ ฉันไม่อาจเข้าถึงจิตภายในได้โดยการสวดภาวนาด้วยเสียงแต่เพียงอย่างเดียว เพราะหากเป็นการสวดภาวนา จิตใจก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย ถ้าคนๆหนึ่งไม่พิจารณาถึงคนที่เขากำลังพูดกับตัวเอง สิ่งที่เขาขอ หรือสิ่งที่เขาไม่กล้าที่จะทูลพระเจ้า แม้ว่าริมฝีปากของเขาจะเอ่ยถ้อยคำมากมาย ฉันก็ไม่เรียกว่าเป็นการสวดภาวนา.......มีธรรมเนียมว่าในการสนทนากับพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพอย่างอิสระ ต้องกระทำโดยไม่สนใจว่าคำพูดนั้นเหมาะสมหรือไม่ แต่ให้พูดในสิ่งแรกที่นึกขึ้นได้ การสวดภาวนาด้วยการท่องจำโดยท่องซ้ำบ่อยๆ ไม่สามารถเรียกว่าการสวดภาวนา พระเจ้าไม่ทรงอนุญาตให้คริสตชนคนใดพูดกับพระองค์ในลักษณะนี้ 
 ในที่สุดพวกเขาก็เข้าไปในห้องโถงในชั้นแรกของปราสาท มีสัตว์เลื้อยคลานมากมายที่คอยรบกวนสันติสุขฝ่ายจิตของพวกเขา และทำให้พวกเขามองไม่เห็นความสวยงามของอาคาร ถึงกระนั้นก็ตาม,เป็นการดีอย่างยิ่งที่คนเหล่านี้หาทางเข้าไปได้....เรื่องนี้เข้าใจยากที่สุดหากไม่มีประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับพระหรรษทานดังกล่าว ใครก็ตามที่ได้รับสิ่งเหล่านี้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้,สิ่งซึ่งเราไม่อาจมีประสบการณ์ได้ถ้าหากมิใช่โดยอาศัยพระเมตตาของพระเจ้าเท่านั้น 

Source: The Interior Castle Or The Mansions 
#Catholic 4 Life  
 

วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2566

สาส์นแม่พระ 25 มี.ค. 2023

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 มี.ค. 2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
          ขอให้ช่วงเวลานี้เป็นเวลาแห่งการสวดภาวนาของลูกเถิด     

          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่

(สาส์นของแม่พระครั้งนี้สั้นมาก แม่พระประสงค์ที่จะบอกให้เรารู้ถึงความสำคัญของการสวดภาวนาเป็นพิเศษ)

วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2566

ทำอย่างไรเมื่อถูกหักหลัง


บางคนต่อต้านเรา และเรามักจะไม่ทันตั้งตัว นอกจากนี้,เรายังไม่แน่ใจด้วยว่าเราควรตอบสนองอย่างไร
>>>อ่านต่อ