พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 จงรักเพื่อนมนุษย์ รักแม้กระทั่งศัตรู

           “แต่เรากล่าวกับท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย ผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงปล่อยให้เขาเอาเสื้อยาวไปด้วย จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และอย่าทวงของของท่านคืนจากผู้ที่ได้แย่งไป ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด ถ้าท่านรักเฉพาะผู้ที่รักท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาด้วย ถ้าท่านทำดีเฉพาะต่อผู้ที่ทำดีต่อท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังทำเช่นนั้นด้วย ถ้าท่านให้ยืมเงินโดยหวังจะได้คืน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร
           คนบาปก็ให้คนบาปด้วยกันยืมโดยหวังจะได้เงินคืนจำนวนเท่ากัน แต่ท่านจงรักศัตรู จงทำดีต่อเขา จงให้ยืมโดยไม่หวังอะไรกลับคืนแล้วบำเหน็จรางวัลของท่านจะใหญ่ยิ่ง ท่านจะเป็นบุตรของพระผู้สูงสุด เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและต่อคนชั่วร้าย
           จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด อย่าตัดสินเขาแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน อย่ากล่าวโทษเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน จงให้อภัยเขาแล้วพระเจ้าจะทรงให้อภัยท่าน จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดเต็มทะนานอัดแน่นจนล้น เพราะว่าท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าก็จะทรงใช้ทะนานนั้นตวงตอบแทนให้ท่านด้วย”
(ลูกา 6:27-38)








วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ผู้ก่อการร้ายในมาเลเซียและอินโดนีเซีย

           ความคิดที่จะสร้างอาณาจักรสมัยกาลิปแห่งเปอร์เซียขึ้นมาใหม่ได้แพร่กระจายไปในทวีปเอเชีย  ทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดความวุ่นวายในอินโดนีเซียและมาเลเซีย
ในกัวลาลัมเปอร์และจาการ์ตา  ได้มีคำเตือนว่าพวกสมุนของกลุ่มก่อตั้งรัฐอิสลามเตรียมพร้อมแล้วที่จะโจมตีสถานที่ต่างในประเทศ  บริเวณที่เป็นเป้าหมายคือ สถานที่ราชการ,ที่สาธารณะและสถานที่ซึ่งเป็นจุดอ่อนไหว  เป้าหมายคือการลบล้างสถาบันทางด้านทุนนิยมและแหล่งโลกียสถานเพื่อที่จะนำกฎหมายอิสลาม (ชาเรีย) มาใช้ปกครองประเทศ  มีชาวมาเลเซียอย่างน้อย 20 คนอยู่ในซีเรียที่กำลังทำสงครามจีฮัด  และมีคนจากฟิลิปปินส์ร่วมด้วยเป็นครั้งแรก
ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อต้านผู้ก่อการร้ายจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย รายงานว่ามีชาวมาเลเซียและอินโดนีเซียหลายคนได้เข้าร่วมกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายอิสลาม Islamic State terror group (formerly known as ISIS)  ที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในอิรักและซีเรีย  และดูเหมือนว่าพวกนี้มีแผนการจะโจมตีและก่อความวุ่นวายในประเทศบ้านเกิดของตนเองด้วย
ความสำเร็จในการยึดเมืองหลายเมืองในอิรัก ทำให้พวกนี้มีความฮึกเหิม  และกระทำการอย่างโหดร้ายต่อชนกลุ่มน้อย  เหตุการณ์นี้กำลังแพร่กระจายไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน
กลุ่มเคลื่อนไหวและผู้นำมุสลิมได้รับแรงบันดาลใจจากการกระทำของพวกนักรบนิกายสุหนี่  จึงตั้งใจจะสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐกาลิปอิสลาม
หน่วยงานต่อต้านการก่อการร้ายในกัวลาลัมเปอร์และจาการ์ตาได้เตือนว่า  สมุนของกลุ่มก่อตั้งรัฐอิสลามต้องการล้มล้างรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฏหมาย  ด้วยความคิดที่ว่ารัฐบาลนี้เป็นสถาบันทางโลกียโดยธรรมชาติ  พวกนี้ต้องการนำกฎหมายชาเรียมาใช้อย่างเข้มงวดตามกฎบัญญัติของอิสลาม
ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ  ผู้ก่อการร้ายที่ปฏิบัติการอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนเพิ่มขึ้น   และในมาเลเซีย,มีการจับกุมเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างน้อย 19 คนที่ต้องสงสัยว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายในระหว่าง 7 เดือนที่ผ่านมานี้ 
ผู้ถูกจับกุมได้เปิดเผยแผนการที่จะโจมตีหน่วยงานภาครัฐ  ไนต์คลับ  บาร์และสถานเริงรมย์บนถนนสายบันเทิงยามค่ำคืน  ในเวลาเดียวกัน  มีชาวมาเลย์อย่างน้อย 20 คนได้เดินทางไปซีเรียเพื่อเข้าร่วมในการทำสงคราม  แต่จำนวนอาจมีมากกว่านี้
ในอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก  ได้สั่งห้ามการสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวหัวรุนแรง  และมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนมาก  อย่างไรก็ตาม  อันตรายยังมีอยู่และมีมากขึ้นเรื่อยๆ  เพราะข้าราชการชั้นสูงรวมทั้งรัฐมนตรีไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะป้องกันเรื่องนี้
มีรายงานว่ากลุ่มหัวรุนแรงมุสลิมในฟิลิปปินส์ก็พยายามเข้าร่วมปฏิบัติการแบบเดียวกับกลุ่มหัวรุนแรงมุสลิมในมาเลเซียและอินโดนีเซีย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น