พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

กระแสเรียกของพระสงฆ์ท่านหนึ่ง

พระสงฆ์ท่านหนี่งได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับกระแสเรียกของท่านให้เราฟัง
“เวลานั้นผมมีอายุ 20 ต้นๆ หลังจากเลิกเรียนในวันหนึ่ง  ที่อพารต์เมนท์ที่พักอยู่  ผมได้ยินเสียงมาจากข้างนอกหน้าต่าง  มีบางคนกำลังส่งเสียงมาจากบริเวณที่ทิ้งขยะ  ผมจึงเปิดหน้าต่างและมองออกไป ผมเห็นผู้ชายจรจัดแต่งตัวซอมซ่อกำลังคุ้ยหาของกินในกองขยะ  และเขาก็พบขนมปังเน่าๆชิ้นหนึ่ง  กับเศษหนังไก่และเนื้อ  นอกจากนี้ก็มีขวดมายองเนสที่ว่างเปล่าอีกหนึ่งใบซึ่งเขาใช้นิ้วกวาดเศษของมันมาทาบนขนมปังเพื่อทำเป็นแซนด์วิช  ผมเฝ้ามองดูด้วยความรู้สึกขยะแขยงจนไม่อาจทนอยู่เฉยๆได้  ทันทีผมรีบไปที่ร้านขายของชำซื้ออาหารและสิ่งของด้วยจำนวนเงิน 20 ดอลลาร์ที่มีเพื่อนำไปให้ชายจรจัดคนนั้น  ผมบอกเขาว่าอย่าไปกินแซนด์วิชที่น่าขยะแขยงนั้น  ชายจรจัดดีใจมากและทำตาม”
ชายหนุ่มซึ่งเป็นคาทอลิกที่เฉื่อยชา  ได้กลับมาที่ห้อง  มีบางอย่างทำให้เขาเปิดหนังสือพระคัมภีร์ที่เขาเก็บไว้แต่ไม่เคยเปิดออกอ่านเลย  หน้าแรกที่เปิดคือบทพระวรสารของนักบุญมัททิว 25
 “เมื่อเราหิว  ท่านก็ไม่ให้อาหารเรากิน  เรากระหาย  ท่านก็ไม่ให้น้ำเราดื่ม  เราเป็นแขกแปลกหน้ามา  ท่านก็ไม่ต้อนรับ  เราเปล่าเปลือย  ท่านก็ไม่ให้เสื้อผ้าแก่เรา  เราเจ็บป่วยและติดคุก  ท่านก็ไม่มาเยี่ยมเรา  แล้วพวกเขาก็จะถามว่า พระเจ้าข้า  เราเห็นพระองค์หิว หรือ กระหาย หรือเป็นแขกแปลกหน้ามา หรือ เปล่าเปลือย  หรือ เจ็บป่วย หรือ ติดคุก  และไม่ได้ให้ความช่วยเหลือพระองค์เมื่อไร  และนั้นเราจะตอบพวกเขาว่า แท้จริง  เราขอบอกเจ้าว่า  สิ่งใดที่เจ้าไม่ได้ปฏิบัติต่อพี่น้องแม้ที่ต่ำต้อยของเรา  เจ้าก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อเราเลย
ชายหนุ่มคนนั้นจ้องที่หนังสือและพูดว่า “พระเป็นเจ้า  พระองค์อยู่ที่นั่น  เป็นพระองค์จริงๆ”  นั่นเป็นการเรียกให้เขามาเป็นพระสงฆ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น