พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2025 สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า

         & ประชาชนรู้จึงติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสสอนเขาเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ทรงรักษาคนที่ต้องการการบำบัดรักษา เมื่อจวนถึงเวลาเย็น อัครสาวกสิบสองคนมาทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด” ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน” เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง
(ลูกา 9:11-17)








วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

กระแสเรียกของพระสงฆ์ท่านหนึ่ง

พระสงฆ์ท่านหนี่งได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับกระแสเรียกของท่านให้เราฟัง
“เวลานั้นผมมีอายุ 20 ต้นๆ หลังจากเลิกเรียนในวันหนึ่ง  ที่อพารต์เมนท์ที่พักอยู่  ผมได้ยินเสียงมาจากข้างนอกหน้าต่าง  มีบางคนกำลังส่งเสียงมาจากบริเวณที่ทิ้งขยะ  ผมจึงเปิดหน้าต่างและมองออกไป ผมเห็นผู้ชายจรจัดแต่งตัวซอมซ่อกำลังคุ้ยหาของกินในกองขยะ  และเขาก็พบขนมปังเน่าๆชิ้นหนึ่ง  กับเศษหนังไก่และเนื้อ  นอกจากนี้ก็มีขวดมายองเนสที่ว่างเปล่าอีกหนึ่งใบซึ่งเขาใช้นิ้วกวาดเศษของมันมาทาบนขนมปังเพื่อทำเป็นแซนด์วิช  ผมเฝ้ามองดูด้วยความรู้สึกขยะแขยงจนไม่อาจทนอยู่เฉยๆได้  ทันทีผมรีบไปที่ร้านขายของชำซื้ออาหารและสิ่งของด้วยจำนวนเงิน 20 ดอลลาร์ที่มีเพื่อนำไปให้ชายจรจัดคนนั้น  ผมบอกเขาว่าอย่าไปกินแซนด์วิชที่น่าขยะแขยงนั้น  ชายจรจัดดีใจมากและทำตาม”
ชายหนุ่มซึ่งเป็นคาทอลิกที่เฉื่อยชา  ได้กลับมาที่ห้อง  มีบางอย่างทำให้เขาเปิดหนังสือพระคัมภีร์ที่เขาเก็บไว้แต่ไม่เคยเปิดออกอ่านเลย  หน้าแรกที่เปิดคือบทพระวรสารของนักบุญมัททิว 25
 “เมื่อเราหิว  ท่านก็ไม่ให้อาหารเรากิน  เรากระหาย  ท่านก็ไม่ให้น้ำเราดื่ม  เราเป็นแขกแปลกหน้ามา  ท่านก็ไม่ต้อนรับ  เราเปล่าเปลือย  ท่านก็ไม่ให้เสื้อผ้าแก่เรา  เราเจ็บป่วยและติดคุก  ท่านก็ไม่มาเยี่ยมเรา  แล้วพวกเขาก็จะถามว่า พระเจ้าข้า  เราเห็นพระองค์หิว หรือ กระหาย หรือเป็นแขกแปลกหน้ามา หรือ เปล่าเปลือย  หรือ เจ็บป่วย หรือ ติดคุก  และไม่ได้ให้ความช่วยเหลือพระองค์เมื่อไร  และนั้นเราจะตอบพวกเขาว่า แท้จริง  เราขอบอกเจ้าว่า  สิ่งใดที่เจ้าไม่ได้ปฏิบัติต่อพี่น้องแม้ที่ต่ำต้อยของเรา  เจ้าก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อเราเลย
ชายหนุ่มคนนั้นจ้องที่หนังสือและพูดว่า “พระเป็นเจ้า  พระองค์อยู่ที่นั่น  เป็นพระองค์จริงๆ”  นั่นเป็นการเรียกให้เขามาเป็นพระสงฆ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น