พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

พระสันตปาปาบนเครื่องบิน


15/1/2015 บนเครื่องบินที่กำลังนำพระสันตะปาปาไปยังฟิลิปปินส์  พระองค์เปิดโอกาสให้นักหนังสือพิมพ์ที่เดินทางไปด้วยได้ซักถาม  ผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศสถามพระองค์เกี่ยวกับอิสรภาพทางศาสนากับอิสรภาพในการแสดงออก (เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อการร้ายในฝรั่งเศสที่มีคนตายไป 12 คน)  พระองค์ตอบว่า  ทั้งสองอย่างเป็น “สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์”  และทรงย้ำว่าการฆ่าคนในนามของพระเจ้าเป็น “ความวิปลาส”  แต่พระองค์ก็บอกว่าต้องมีขึดจำกัดในอิสรภาพในการแสดงออกด้วย (หนังสือพิมพ์แอปโด) พระองค์ยกตัวอย่าง  นาย อัลเบอร์โต แกสปาร์รี ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการในการเดินทางของพระสันตปาปาครั้งนี้และกำลังยืนอยู่ข้างๆพระองค์บนเครื่องบิน  พระสันตะปาปาตรัสว่า “ดร. แกสปาร์รี่เป็นมิตรที่ดีของพระองค์”  ถ้าหากเขาพูดจาดูหมิ่นมารดาของพระองค์  เขาต้องถูกชกแน่นอน  แล้วพระองค์ก็ทรงแสดงท่าทางชกไปที่เขาและตรัสว่า “เป็นธรรมดา  คุณไม่สามารถดูหมิ่นความเชื่อของคนอื่น  คุณไม่สามารถเล่นตลกในความเชื่อของผู้อื่น”
พระสันตะปาปาตรัสเกี่ยวกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงว่า  พระองค์ไม่แน่ใจว่ากิจกรรมของมนุษย์เป็นสาเหตุแต่เพียงอย่างเดียวหรือไม่  “มนุษย์ได้ทำร้ายธรรมชาติมากเกินไปแล้ว”  พระองค์หวังว่าสมณลิขิตในเรื่องระบบนิเวศน์ของพระองค์ จะทำให้เกิดความกล้าที่จะตัดสินใจพิทักษ์สิ่งสร้างของพระเป็นเจ้า
พระองค์ยังทรงบอกด้วยว่าพระองค์จะสถาปนาคุณพ่อ เซอร์ร่า เป็นนักบุญ (พระสงฆ์ชาวสเปน)  เมื่อพระองค์เสด็จไปเยือนสหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายน

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น